CPU: AMD x2 3600+

MB: Asus M2N- SLi Deluxe

Memory: OCZ SLi-Ready 1024*2 gb

VGA: ATi Sapphire HD 3870

PSU: Enermax Liberty 500w

OS: Window XP 2002 SP2

Driver: Razer driver Ver 1.00

Firmware: Razer Firmware Ver 1.00 และ 1.63

เจ้าLachesis ที่นำเข้ามาขายในบ้านเรานั้นมีทั้งหมด 2 สีน๊ะครับ คือสีขาว และสี น้ำเงิน วันนี้ขอรีวิวด้วยสีขาว เนื่องจากเราเป็นวัยรุ่นครับไม่ชอบซ้ำใคร ตามสไตล์ vmod นั่นเอง

เมื่อเราเสียบเจ้า lachesis ทาง usb port window สามารถ detect new hardware และรู้จักได้ทันที และเราสามารถใช้เจ้า lachesis ได้ทันทีเลยครับโดยไม่ต้องลงไดรเวอร์ เพียงแต่เราจะไม่สามารถปรับ refresh rate และความไวของเมาได้ (นอกจากใช้ปุ่มบนตัวเมาทื ปรับได้ 3 ระดับ) ซึ่งตรงนี้เราก็จัดการลง driver ที่แถมมาในกล่องเลยครับ

Driver

ตัวที่แถมมากับกล่องจะเป็นรุ่น v1.0 ซึ่งหลังจากลงแล้ว สามารถมองเห็น lachesis ได้อย่างถูกต้อง และสามารถเปิดใช้ลูกเล่นได้ครบถ้วน ตัว Firmware ของเม้าที่นำเข้ามาขายเป็น v1.0 เช่นเดียวกันครับ

จากรูปจะเห็นได้ว่า เราสามารถเซตปุ่มต่างๆ ได้ตามใจชอบเลยครับ แถมยังเก็บเป็นโปรไฟล์ได้ถึง 5 โปรไฟล์อีกด้วย ในไดรเวอร์รุ่นนี้จะมีสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างคือการควบคุมไฟบนตัวเมาท์ ซึ่งเม้าท์ตัวนี้มีไฟ 2 จุดคือตรง mouse wheel และตรง snake logo ซึ่งเราสามารถเปิด-ปิด ได้ตามใจชอบครับ ตรงในความเห็นของผม ผมว่ามันมีประโยชน์มากน๊ะครับ ท่านที่เปิดคอมทิ้งไว้นาน เช่น DL Torrent หรือช่วงเวลาที่เราจะนอน เราก้ปิดไฟไว้ไม่แสบตาครับ แถมถนอมเม้าท์อีก เพราะคงไม่มีใครมาถอด usb เข้า-ออกแน่ครับ

ส่วนความสามารถควบคุมความไว และการตอบสนองสามารถทำได้อย่างหลากหลายด้วยไดรเวอร์ที่ออกแบบมาครอบคลุมได้เกือบหมด หลังจากทดลองใช้ได้ประมาณ 2-3 วัน ผมก็พบปันหานิดหน่อยครับ คือเจ้า lachesis นั้นเมื่อปิดไฟแล้วเรามากดเปิดอีกครั้งนึง ไฟมันจะไม่ติด เราต้องรีสตาร์ท window แล้วถึงจะสามารถใช้ได้ปรกติ ส่วนอีกปัญหานึงคือตัว pointer ของเม้าท์มีอาการกระโดด

ซึ่งปัญหาหาตรงนี้สามารถแก้ไขได้ไม่ยากครับ โดยการ Update Firmware ของเมาท์เป็น ver. 1.63 หลังจากอัพเดทแล้วสามารถแก้ปัญหาที่พบได้ทุกอย่าง ทดสอบใช้งานเป็นเวลา 4-5 วันหลังจากอัพเดทก็ไม่พบปัญหาอะไรเพิ่มอีกเลยครับ

ดีไซน์และความรู้สึกเมื่อจับเมาท์ (Design & Feeling)

ตรงส่วนนี้ผมจะกล่าวถึงความรุ้สึกที่ได้จับเมาท์ตัวนี้ การทดลองใช้งาน รวมถึงประสิทธิภาพระหว่างการใช้งานจริงๆ น๊ะครับ

ครั้งแรกที่ได้จับเจ้า Lachesis นั้นมีความรู้สึกว่าสบายอุ้งมือครับ ดีไซน์ของตัวเมาท์รับเข้ากับฝ่ามือ ด้านหน้ามีร่องพักนิ้วบังคับให้เราเหยียดนิ้วตรง ด้านหลังเป็นทรงกลมพอดีเข้ารูปกับอุ้งมือ ตัวเม้าท์มีลักษณะแบนจับแล้วจะเหมือนเราแบมือ ข้อดีตรงนี้คือเราไม่ต้องออกแรงเกร็งเมาท์มากเพราะดีไซน์ออกแบบมาเข้ากับธรรมชาติของมืออยู่แล้ว สามรถจับได้ทั้งคนถนัดซ้ายและขวา ซึ่งให้ความสบายทั้ง 2 มือรวมถึงงท่านที่นิ้วสั้นมืออ้วน (เช่นผม) ก็สามารถจับเมาท์ตัวนี้ได้อย่างถนัด

ตัว lachesis มีน้ำหนักเบา – เบามากเมื่อเทียบกับเมาท์อื่นๆ ที่ผมเคยจับมา ทำให้ไม่ต้องออกแรงมาก การควมคุม Drag & Swing สามารถทำได้ง่ายเพราะตัวเมาท์นั้นเบา จะมีปัญหาบ้างตรงหัวเมาท์มีขนาดใหญ่บางท่านที่ใช้ในพื้นที่จำกัด อาจจะติดปัญหาเรื่องนี้ เมื่อทดลองใช้ที่ 4000DPI ตัวเมาท์ยังสามารถควมคุมได้ดี ตอบสนองทุกการเคลื่อนไหว แต่ด้วยน้ำหนักที่เบาบางครั้งอาจจะทำให้เราคลำเป้าไม่เจอได้ง่ยๆ ครับ ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยซักพัก ตัวผมเป็นคนที่เล่นเกมแนว FPS ไม่เก่งนัก แต่ขอบอกว่าตัว lachesis นั้นจับถนัดมือดีครับ ช่วยให้เราจับเป้าง่าย เวลากดปุ่มยิงต่อเนื่องตัวเมาท์ไม่สั่นมากจนเกินไป ส่วนเกมพวก RTS นั้นปุ่ม hotkey ช่วยได้เยอะครับ ลดการกด hotkey บน keyboard ลงไปได้เยอะทีเดียว (ส่วนตัวผมลดไปได้ถึง 2-3 ปุ่ม) การใช้เมาท์ Drag Screen ทำได้สะดวกครับไม่เร็ว ไม่ช้าเกินไป

ปุ่ม hotkey ที่มีอยู่ทั้ง 4 ปุ่ม แบ่งเป็น 2 ด้านคือ ซ้าย 2 ปุ่ม ขวา 2 ปุ่ม เมื่อเราใช้งานจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เล่น internet หรือเล่นเกมส์ hotkey สามารถใช้งานได้ไม่พบปัญหาใดๆ เพียงแต่ปุ่มที่อยู่ทางด้านนิ้วก้อย 2 ปุ่มนั้น เมื่อเราใช้การบีบ (squeezes) จะต้องออกแรงเยอะ และกดไม่ถนัดมือ แต่เมื่อปล่อยเมาท์แล้วใช้นิ้วกลางมาช่วยกดก็สามารถช่วยลดปัญหาตรงนี้ได้ครับ (ตรงนี้มีผลต่อท่านที่เล่นเกมส์จำพวก FPS การละนิ้วชี้-นิ้วกลางออกจากปุ่ม ทำให้อารมณ์ไม่ต่อเนื่องครับ) ส่วนปุ่มทางด้านนิ้วหัวแม่มือนั้น ออกแบบมาได้ลงตัวอยู่แล้วเราสามารถใช้นิ้วหัวแม่มือ  squeezes ได้ทันทีโดยไม่ต้องละมือออกจากเมาท์เลยครับ สะดวกดีแท้

หลังจากการทดลองใช้งานเป้นเวลา 6-7 วัน การใช้งานทั่วไปนั้นตอบสนองได้เป็นอย่างดี การใช้งานในโปรแกรม photo shop หลังจาก calibrate หน้าจอแล้วสามารถใช้งานได้ไม่มีปัญหา ดีไซน์ของ lachesis นั้นจับสบายมือ ไม่ต้องออกแรงข้อมือเยอะ เวลาเราใช้ selection tools สามารถเล็งได้สบายๆ ครับ การเล่นเกมนั้นผมทดลองด้วยเกม Call Of Duty 4 และ Company Of Heroes: Opposing Fronts ก็ตอบสนองได้ดีครับ เมื่อเล่นเป็นเวลานานประมาณ 2-3 ชั่วโมง ไม่มีอาการล้าแขนหรือหัวไหล่ เพราะออกแรงเฉพาะส่วนข้อมือการสามารถคุมเม้าท์ได้ ตัว lachesis วัสดุเป็นยางเมื่อเหงื่อออกยังสามารถ grip mouse อยู่ใน control ได้ครับ ไม่มีอาการลื่นแต่อย่างใด แต่เมื่อเลิกใช้งานต้องทำความสะอาดเสียหน่อย เพื่อป้องกันฝุ่นและคราบไม่พึงประสงค์มาจับตัวเมาท์ ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดเบาๆ แล้วผึ่งลมให้แห้งก็พอแล้วครับ ควรระวังฝุ่นผงและแป้งฝุ่นมาจับตัวเมาท์เพราะเช็ดออกลำบากมากครับ และยังทิ้งคราบไว้ไม่สวยงามด้วย

ลักษณะการจับเมาท์แบบ Grip ในอุ้งมือ ผมเป็นคนนิ้วสั้นและอ้วน ก็ยังสามารถจับได้สบายมือครับ การ squeezes ทางด้านนิ้วโป้งทำได้ง่ายดาย ส่วนการ switch Profile หากเซต Hotkey ไว้แล้วไม่ต้องหงายเมาท์ขึ้นมาครับ กดตรง hotkey ที่ตั้งไว้ เมาท์จะดับไปประมาณ 2-3 วินาที แล้วจะติดขึ้นมาใหม่ (สังเกตได้จากไฟบนตัวเมาท์)