Acer Aspire Timeline 3810T

สวัสดีครับ วันนี้ก็กลับมาพบกับผมอีกแล้วในบทความรีวิวโน๊ตบุ๊ก ที่อาจจะห่างหายไปนานกันสักนิดหนึ่ง และในวันนี้ผมก็มาพร้อมกับ โน๊ตบุ๊กรุ่นใหม่ล่ามาแรงจากค่ายยอดฮิตติดตลาดเมืองไทยอย่าง Acer ในรุ่น 3810T “Timeline” ซึ่งในอนุกรม Timeline (ชื่อรุ่นใหม่จาก Acer) จะเป็นอนุกรมที่เน้นในเรื่องของความประหยัดพลังงาน ด้วยขนาดที่พอเหมาะ ใช้งานทั่วๆไปได้อย่างสบาย และสามารถใช้งานบนแบตเตอรี่ได้อย่างยาวนาน สำหรับในรุ่น 3810T ตัวนี้ ในเสป็ค ก็จะเคลมไว้ที่ 8 ชั่วโมงครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

CPU	Intel Core 2 Duo SU9400 1.4Ghz 3mb L2cache
RAM	DDR3-1066 2×2gb CL 7-7-7-20
Chipset	Intel GS45
Graphics	Intel GMA X4500
Storage	SATA II 500gb 5400rpm 2.5″
Optical drive	N/A
Wireless	Intel Pro WiFi 5100 (IEEE802.11g/n)
Display	13.3″ HD LED backlight
Weight	~1.6kg
Port/Slot	USB2.0 3ports, SD slot, DSUB+HDMI out
Battery	6Cells 5600mAh
OS Bundle	Windows Vista x86 Home Premium

 

 

ภาพจากโปรแกรม Everest แสดงรายละเอียดของเครื่อง

สำหรับในวันนี้ ผมก็คงต้องท้าวความกันสักนิดหนึ่ง เพราะหลายท่านอาจจะสงสัยว่า โน๊ตบุ๊กที่มีขนาดไม่เล็กมากอย่าง Acer Timeline 3810 ตัวนี้นั้น จะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมงได้อย่างไรกัน ก็ต้องมาตรวจสอบถึงสเป็คกันดู ก็จะมาสะดุดที่ตัว CPU แหละครับ หากศึกษาตาม Chart ด้านล่างนี้ ก็น่าจะพอทำให้เข้าใจขึ้นได้อีกนิดหนึ่งครับว่าทำไม Acer Aspire Timeline 3810 ที่ใช้ซีพียู Core 2 Duo SU9400 นั้นถึงได้ประหยัดพลังงานและใช้งานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊กที่ใช้ซีพียูในตระกูล T หรือ P ในรุ่น Core 2 Duo

ตารางเปรียบเทียซีพียูโมบายจากเว็บ ark.intel.com แสดงให้เห็นถึงเสป็คอย่างละเอียดของซีพียู Mobile Core 2 Duo จะสังเกตได้ว่า ในคอลัมน์ที่ไฮไลท์ด้วยสีแดง จะเป็นรุ่น SU9400 ที่เมื่อดูเสป็คดีดีแล้ว ก็จะไม่ต่างอะไรจาก Core 2 Duo ตระกูล P หรือ T ที่มีเลขนำหน้าด้วยเลข 8 นั้นคือมี L2 cache 3 mb แต่สิ่งที่มันแตกต่างนั้นก็คือ TDP ที่ต่ำเพียงแค่ 10watt เท่านั้น ในขณะที่ซีพียู Penryn มาตรฐานในรหัส Pxxxx นั้นจะมีค่า TDP อยู่ที่25 วัตต์ และ Txxxx จะอยู่ที่ 35 วัตต์นั้นเองครับ กล่าวคือ ซีพียูในตระกูล SUxxxx จากอินเทลนั้น จัดเป็นซีพียูในกลุ่มที่ในสมัยก่อนนั้นใช้ชื่อเรียกว่า ULV (Ultra Low Voltage) ในสมัย Pentium M รุ่นเก่าๆนั้นเอง และเหตุผลดังนี้ จึงทำให้ โน๊ตบุ๊กที่ใช้ซีพียูในตระกูล SU ของอินเทล มีอัตตราการบริโภคพลังงานที่ต่ำเช่นนี้นั้นเองครับ

 

ทีนี้เรามาดูบอดี้โดยภาพรวมกันบ้างครับ จะสังเกตได้ว่า บอดี้ เหมือนจะเป็นวัสดุประเภทโลหะใช่มั้ยล่ะครับ ใช่ครับแต่ไม่ทั้งหมด ฝาเครื่องจะเป็นโลหะอลูมิเนียมชนิดบาง และตัวบอดี้ส่วนอื่นๆเป็นพลาสติคยกเว้นฐานจะเป็นโลหะผสมครับ ข้อดีของตัวบอดี้รุ่นนี้นั้นคือเป็นรอยนิ้วมือได้ยาก ดูแลรักษาให้สวยงามคงทนไปได้นานกว่าพวกที่บอดี้มันๆเงาๆ หรือสีขาวๆที่ใช้ไปแล้วก็จะเริ่มเหลืองเมื่อมันมีอายุมากขึ้นนั้นเอง น้ำหนักเบา แต่จะมีข้อเสียอยู่บ้างตรงที่ถ้าออกแรงกดแรงๆ ตัวฝาเครื่องก็มีออกอาการยุบให้เห็นบ้างเล็กน้อยครับ

จากการทดลองใช้งานในลักษณะวางบนตัก พบว่าความร้อนที่เกิดขึ้นน้อยมาก สามารถวางใช้งานบนตักได้จริงอย่างสบาย

จอ LED มีความบางมากครับ บานพับถือว่าแข็งแรงดีในระดับหนึ่ง มีอาการง่อนแง่นบ้างเพียงเล็กน้อยเวลาเปิดเร็วๆแรงๆ แต่ก็ไม่ง่อนแง่นจนน่ารำคาญแต่ประการใด

ดีไซน์โดยรวมของเครื่องนั้นเป็น Two Tone สีเทาตัดกับสีดำ หน้าจอเป็นLED Panel 16:9 ขนาด13.3นิ้ว resolutionที่ 1,360X768 pixel

 

คีย์บอร์ดแต่ละปุ่มมีการจัดวางที่เว้นระยะห่างให้พิมพ์ได้ค่อนข้างสะดวกดี อาจจะต้องมีการทำความคุ้นเคยบ้างสำหรับคนที่ใช้ Desktop PC มาก่อน ปุ่มเป็นลักษณะปุ่มนูนลอยขึ้นมา ทำให้ดูสวยงามน่าใช้และใช้งานได้สะดวกขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่เล็บยาว ปุ่มfn ก็อยู่ในตำแหน่งที่ผู้ใช้ Desktop PC เป็นนิจ ไม่สับสนกับปุ่ม ctrl เอาง่ายๆ ส่วนทัชแพด เป็นแบบปุ่มกดแถวเดียว แต่ก็ไม่พบปัญหาว่ากดยากหรือกดไม่ค่อยโดนซ้ายหรือขวา แต่ประการใดครับ โดยรวมของคีย์บอร์ด acerตัวนี้ทำออกมาได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากครับ ส่วนตรงTouchpadจะเป็นแบบMultiTouch คือสามารถซูมเข้าออกได้ เข้าอินเตอร์เนตได้ สกอล์ซ้ายขวาได้ เพียงปลายนิ้วสัมผัสตามรูปแบบที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งในซีรีย์TimeLineทั้งหมด จะมีความสามารถนี้อยู่ทุกๆรุ่นครับ

 

ลำโพงให้คุณภาพเสียงในระดับมาตรฐานครับ ไมได้โดดเด่นมากมายแต่อย่างใด

ดูความบางเฉียบนะครับ ถึงแม้ว่าขนาดจอ 13.3 นิ้วนั้นจะไม่ถือว่าเป็นขนาดที่จะลงไปเป็นโน๊ตบุ๊กแบบ Ultra Portable ได้เต็มตัวนัก แต่ได้ความบางและเบาช่วยทำให้สามารถเข้ามาอยูในกลุ่ม Ultra Portable ได้อย่างไม่ขัดเขินนัก

 “ขนาดจอใหญ่เต็มตาสีสันสดใส แต่ขนาดบาง น้ำหนักเบา ตัวเครื่องไม่ร้อนมาก พกพาสะดวกค่ะ” ความเห็นจากจากผู้ทดสอบใช้งานทางด้านกายภาพ

 

ด้านซ้ายมีพอร์ตเชื่อมต่อด้านซ้ายมือ มีพอร์ตVGa out กับช่องเสียบออดิโออีกสองช่อง และที่พิเศษคือช่องCombo USB E-SATAครับ คือ สามารถเสียบได้ทั้งหัวUSBและหัวE-SATA สำหรับสื่อเก็บข้อมูลจากภายนอกที่เป็นพอร์ตชนิดนี้ด้วย และยังพิเศษด้วยความสามารถ Sleep Change ซึ่งก็คือสามารถชาร์ตไฟให้แบตเตอรี่ผ่านช่องUSBนี้ได้ เวลาที่ปิดเครื่อง เพิ่มความสะดวกในการชาร์ตแบตเตอรี่อีกช่องทางหนึ่งครับ

 

USB อีกสองช่องทางด้านขวามือ สลอตการ์ดรีดเดอร์ HDMI และ Ethernet อยู่ด้านขวามือทั้งหมด และจะสังเกตได้ว่า ไม่มี Optical Drive ติดมาให้ เพราะด้วยความเป็นโน๊ตบุ๊กที่เน้นประหยัดพลังงานและบางเบาเป็นพิเศษนั้นเอง

 

บริเวณท้องเครื่อง เป็นวัสดุโลหะผสมผิวด้านป้องกันรอยขูดขีด ส่วนแบตเตอรี่ที่เห็นเป็นแบตชนิด6Cell 5600mAh ครับ

 

1.678 กิโลกรัม (ตัวเครื่อง + แบตเตอรี่)

2.091 กิโลกรัม ตัวเครื่อง + แบตเตอรี่ + สายชาร์จadaptor

 

 

 

 

ทดสอบมุมมองของจอ

มุมมองตรง

 

เอนหน้า

 

เอนหลัง

  

เอนซ้าย

 

เอนขวา

ในส่วนของจอLEDถือว่าทำได้ดี สีสันสดใสพอสมควรโดยเฉพาะมุมมองตรงด้านหน้า

 

Next Page Real world performance & Raw Performance

 

 Super PI 1mb

 

 CPUMark99

 

Cinebench R10

 

  

  

Sisoft Sandra 2009

 

 

 

General Usage by PCmark05

 

Graphics by 3Dmark06

 

Battery Time (LED Brightness 50% in Power Saving Mode)

ZDLAB BatteryMark Time    5Hours 43Minutes

BatteryEater Time    5Hours 23Minutes

Battery Charge Time from0% to 100%    ~2Hours 40Minutes

 

 

สำหรับเครื่อง Acer Aspire Timeline 3810T เครื่องนี้ ถึงแม้ว่าผมจะได้มีเวลาเล่นอยู่ไม่กี่วัน แต่ผมขอบอกได้เลยอย่างมีอารมณ์ประทับใจมากว่า เจ้าAcer Aspire 3810Tตัวนี้เหมาะแก่การนำไปใช้งานแบบพกพาอย่างแท้จริง เพราะนอกจากน้ำหนักจะเบาและขนาดความบางที่บางมากแล้ว จอLEDยังมีขนาดใหญ่กว่าพวกUltra Portableทั่วไปจาก12.1นิ่วไปเป็น13.3นิ้วแบบ16:9ทำให้ได้มุมมองที่เต็มตา แถมด้วยชั่วโมงการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานอย่างที่ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน

ซึ่งข้อดีที่จะเห็นได้อย่างเด่นชัดเลยก็คือ ชั่วโมงการใช้งานบนแบตเตอรี่ที่เคลมไว้ว่าได้นานถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งก็ทำได้ขนาดนั้นจริงๆ ในการเปิดโปรแกรมทั่วๆไปเช่นท่องเน็ต พิมพ์งานเอกสาร ไม่ใช่แค่การเปิดStandbyทิ้งไว้แต่อย่างใด แต่ถ้าใช้งานลักษณะโหดๆ ก็สามารถใช้งานได้ประมาณ5ชั่วโมงกว่าๆครับ ซึ่งก็ถือว่านานที่สุดเท่าที่ผมเคยทดสอบมาเลยครับ ส่วนเรื่องความร้อนบริเวณที่วางมือTopcoverและด้านใต้ก็ไม่สูงมากนัก ขนาดที่บางเป็นพิเศษ จอ LED Backlight ที่ถึงแม้จะสว่างสู้บางแบรนด์ไม่ได้ แต่ก็ถือว่าทำได้ดีครับ

สำหรับข้อเสียก็คือ ไม่มีไดร์ฟ Optical ติดมาให้ในตัว และข้อเสียอีกนิดหนึ่งคือบอดี้ที่กดแรงๆแล้วยังมีการยุบๆให้เห็นอยู่บ้าง แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดีกว่า Acer รุ่นก่อนๆที่แล้วมาพอสมควรครับ

สำหรับวันนี้ก็ต้องขอลาไป กับรางวัลที่นานๆจะออกที นั้นคือ Best Innovation เนื่องด้วยจาก Aspire Timeline เครื่องนี้ มีการเลือกใช้ซีพียูที่กินไฟต่ำแต่ประสิทธิภาพกลับสูงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ประกอบกับจอที่มีขนาดไม่เล็กจนเกินไป พอที่จะไว้ใช้ทำงานนอกสถานที่ได้อย่างเต็มที่ และแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานนั้นเองครับ

 

 

 

ขอขอบคุณ

ACER Thailand 

 

Special Thanks

คุณจิ๊บ ร้าน Anfield Tech พันธุ์ทิพย์พลาซา ชั้น 1 เอื้อเฟื้อถ่ายภาพตัวเครื่อง

คุณ2jz_turbo เอื้อเฟื้อถ่ายภาพนางแบบผู้ทดสอบการใช้งาน

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!