Review : Acer Aspire P3 Ultrabook + Tablet
Share | Tweet |
…ช่วงนี้เรียกได้ว่าน่าจะเป็นเวลาของเครื่องแท็บเล็ตลูกผสมกับอัลตราบุค หลังจากที่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราจะได้เห็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ คลอดรุ่นใหม่กันออกมาเรื่อยๆ นะครับ โดยสำหรับ Acer Aspire P3 Ultrabook นั้นก็เรียกได้ว่าเป็น "Ultrabook" ที่เป็นลูกผสม มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับแท็บเล็ต แต่ภายในนัั้นสามารถทำงานประมวลผล และมีความคล่องตัวในการใช้งาน เหมือนกับอัลตราบุค
…Acer Aspire P3 เป็นอัลตราบุค ที่มีการดีไซน์ตัวเครือ่งมาในลักษณะให้ใช้งานได้เหมือนแท็บเล็ต ขนาดหน้าจอนั้นเรียกได้ว่าเท่าๆกับโน๊ตบุ๊คขนาดเล็กทั่วไปคือขนาด 11.6นิ้ว ความละเอียด 1366×768 พิกเซล พร้อมกับ cover ที่มีชุดคีย์บอร์ดบลูทูธมาในตัว โดยจะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น คือ ซีพียู Pentium พร้อมแรม 2GB และ SSD 60GB หรือรุ่นกลาง Core i3 พร้อมแรม 4GB และ SSD60GB และรุ่นที่ผมได้รับมาทดลองใช้กันในวันนี้เป็นรุ่น Core i5 พร้อมแรม 4GB และ SSD 120GB ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นท็อปครับ
เนื่องจากผมเองไม่ได้ถ่ายภาพขั้นตอนเวลา unbox มา เลยขอท้าวความเสียนิดหนึ่งว่า ตัวซองหนังที่เห็นนั้น มีติดเครือ่งมาให้ตั้งแต่ในกล่องครับ วัสดุนั้นก็ทำมาจากหนังเทียม คุณภาพพอใช้ มีการเว้นช่องมาสำหรับพอร์ตและปุ่มต่างๆมาให้พอสมควร และมีที่ไว้สำหรับเหน็บปากกา stylus มาให้ แต่ในกล่องนั้น ไม่ได้มีตัวปากกาแถมมาให้นะครับ
ดูขนาดนั้นเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ก 13 นิ้วที่ผมใช้งานอยู่ประจำ ก็เรียกได้ว่าขนาดจอ ก็ไม่ได้ทิ้งกันมากครับ แต่ความบางนี่ พูดได้เลยว่า ผิดกัน และความคล่องตัวก็ดีกว่ามาก
หลังจากนั้นเมื่อถอดเคสออกมา ก็พบว่าพื้นผิวอะลูมิเนียมเกรดที่ดีพอสมควรเลยทีเดียว ให้สัมผัสที่ดี แต่จะมีโครงสร้างบางส่วน ที่มีพลาสติก แซมๆอยู่บ้างครับ ด้านหลังนี้จะเห็นว่ามีกล้อง 5 ล้านพิกเซล ติดมาให้ด้วยครับ ส่วนด้านหน้าก็มีกล้องแนวๆเว็บแคมความละเอียด 2 ล้านพิกเซลมาให้ ซึ่งน่าเสียดายว่า กล้องหลังนี่ ถ้าหากจะใช้งาน ต้องทำการถอดตัวโคเวอร์ที่แถมมาให้ออกก่อน ไม่งั้นจะไม่สามารถถ่ายภาพได้ครับ (เพราะไม่ได้เว้นที่ไว้)
ดูความบางจากมุมนี้แล้ว เรียกได้ว่าแทบจะนึกไม่ออกเลยว่าภายในสามารถอัดเอาซีพียูอย่าง Core i5 ไว้ได้อย่างไร
ตัวเครื่องนั้นสามารถใช้งานในรูปแบบแท็บเล็ตได้ ซึ่งด้วยอินเตอร์เฟส Metro ของ Windows 8 นั้นก็มีแอพพลิเคชั่นที่เหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบแท็บเล็ตมาให้พอสมควร ทั้ง Twitter, Skype หรือ Line บนอินเตอร์เฟสนี้ครับ
ปุ่ม Windows นั้นก็มีไว้เพื่อเรียกหน้า Home ของ Metro interface มาดังภาพ ส่วนหน้าจอก็สามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้งแนวนอน และมีการ rotate ให้เองอัตโนมัติ เมื่อเราพับคีย์บอร์ดไปด้านหลัง หรือถอดเอาตัวเคสออก
ในด้านขวามือของตัวเครื่อง มีปุ่มเพาเวอร์ โวลุม และช่องสำหรับเสียบ headset มาให้
ส่วนอีกด้านหนึ่งมีพอร์ต USB3.0, Mini HDMI และช่องสำหรับเสียบไฟชาร์จแบตเตอร์รี่
บริเวณด้านล่างเครื่องจะเห็นช่องระบายอากาศ ซึ่งก็จะมีลมอุ่นๆเอื่อยๆ จากการทดลองใช้งานทั้งในการใช้งานในหน้าต่าง Metro และแบบ Windows ทั่วๆไป (เปิดเวิร์ด เอกเซล) ก็พบว่าความร้อนที่ออกมาก็ไม่ได้มากนักครับ
.
การใช้งาน
…ดังรูปเป็นการใช้งานเครื่องในโหมดที่น่าจะเรียกได้ว่า เหมาะสมสำหรับการทำงานทั่วๆไปที่เรามักจะทำกันบนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีปกติ ซึ่งด้วยความที่ Aspire P3 นั้นใช้ซีพียู Core i5 เหมือนกับอัลตราบุคทั่วๆไป ทำให้มันสามารถรันโปรแกรม X86 ทั่วๆไปบนวินโดวส์ได้อย่างลื่นไหลครับ แต่ถ้าหากจะใช้งานเป็นเวลานานๆ สำหรับ P3 ก็อาจจะติดปัญหาตรงที่ว่า หน้าจอนั้นไม่สามารถปรับองศาการรับภาพในแบบอื่นๆได้แบบที่โน๊ตบุ๊กทั่วๆไปที่มีบานพับจอสามารถทำได้
…จะเห็นได้ว่าผมสามารถรันโปรแกรมทดสอบอย่าง 3Dmark ได้สบายๆ กับเครื่องที่มีีรูปร่างหน้าตาที่เรียกว่าน่าจะเป็นแท็บเล็ต มากกว่าเป็นคอมพิวเตอร์พีซีปกติ ระหว่างนั้นผมก็ได้ทดลองเปิดเพลงฟังไปด้วย ระบบเสียง dolby home theater นั้นก็ให้ซุ่มเสียงที่พอใช้การได้ในระดับของมันครับ การใช้งานในโหมดโน๊ตบุ๊คแบบรนี้ จะทำให้ได้เสียงที่ทุ้มและก้องมากกว่าการถือใช้งานแบบแท็บเล็ตเล็กน้อย เพราะลำโพงอยู่บริเวณด้านล่างเครื่อง (ใต้ปุ่ม Windows)
…ส่วนตัวคีย์บอร์ดนั้น ใช้การเชื่อมต่อกับตัวเครื่อง ผ่านทางระบบ Bluetooth ซึ่งจะใช้งาน ต้องทำการกดปุ่มเพื่อทำการเปิดคีย์บอร์ดขึ้นมาใช้งานก่อนครับ ซึ่งปุ่มกดบนคีย์บอร์ดนั้น ก็วางเรียงมาได้ในตำแหน่งที่เหมาะสม มีปุ่มเป็นแบบ 5 แถว (ปุ่ม F1-F12 ต้องกด fn) จังหวะการกดนั้นก็เรียกได้ว่าออกแนวบางๆตื้นๆ ปุ่มนั้นมีการตอบสนองได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดที่มีความบางขนาดนี้
ตัวโคเวอร์นั้นจะทำหน้าที่เป็นขาตั้งไปในตัวครับ ดังภาพด้านบน ส่วนคีบ์บอร์ดนั้น ในตัวจะมีแบตเตอร์รี่ ที่สามารถชาร์จได้ทางสาย Micro USB ครับ
…โคเวอร์สามารถพับไปด้านหลัง เพื่อการใช้งานในรูปแบบของแท็บเล็ต แต่คีย์บอร์ดนั้นจะไม่ปิดการทำงานให้นะครับ ก่อนที่จะพับไปด้านหลังนี้ ต้องทำการปิดคีย์บอร์ดเสียก่อน เพื่อไม่ให้ปุ่มกดถูกกดโดยไม่ได้ตั้งใจ
…การใช้งานในรูปแบบของแท็บเล็ตแล้ว ด้วยน้ำหนักตัว 800 กรัม ไม่รวมโคเวอร์ ก็เรียกได้ว่า หนักกว่าแท็บเล็ต 10 นิ้วทั่วๆไปในตลาดอยู่พอสมควร การใช้งานถือมือเดียว อาจจะทำได้ไม่สะดวกนัก แต่สำหรับการใช้งานแบบนั่งอ่านคล้ายๆกับท่าอ่านหนังสือ ดังภาพนั้น ก็เรียกได้ว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับ
ปิดท้ายด้วยรูปนี้ ด้วยแอพพลิเคชั่นที่โหลดมาจาก Windows Store เป็นเช็คลิสต์ของเครื่องบินครับ ใช้งานได้สะดวกดีเลยทีเดียว
.
CPU-Z & GPU-Z system information
ซีพียูก็เป็น Core i5 3339Y ที่มี L3 cache ถึง 3MB ด้วยกัน เรียกได้ว่าสเป็คเหมือนๆกับโน๊ตบุ๊กขนาดปกติ เพียงแค่กินไฟน้อยกว่า และมีความถี่สัญญาณนาฬิกาที่ต่ำกว่าเท่านั้นเองครับ
เมมโมรีขนาด 4GB ที่ถูกแชร์ไปให้กราฟฟิค Intel HD4000 ไปส่วนหนึ่ง ทำงานที่ความเร็ว DDR 1600MHz
กราฟฟิคแบบฝังอยู่ในตัวซีพียู Intel HD4000 ที่เท่าที่เคยทดสอบที่ผ่านๆมือมา ก็เรียกได้ว่าสามารถเล่นเกมภาพสวยๆ และเกมออนไลน์ใหม่ๆได้ดีในระดับหนึ่งครับ
PCmark 7
ผมทดลองเอาผลการทดสอบของ PCmark7 มาให้ชมกันซึ่งก็ทำได้อยู่ในระดับของอัลตราบุคระดับกลางๆทั่วไปในตลาดครับ
Cinebench R11
คะแนนของ Cinebench R11 ก็ทำออกมาได้พอสมควร ให้สังเกตที่ OpenGL score มาถึง 11.79fps ซึ่งผมลงความเห็นว่า คะแนนระดับนี้ ก็พอที่จะเล่นเกมที่มีระบบกราฟฟิคในยุคนี้ โดยปรับเซ็ตติ้งในระดับ low เกือบทั้งหมด แต่ความละเอียดเต็มจอได้โอเคเลยทีเดียวครับ
.
.
…เรียกได้ว่าเป็น "combination" ที่ลงตัวมากๆ ในด้านการออกแบบของเครื่องอัลตราบุคสมัยใหม่เครื่องหนึ่งเลยทีเดียวครับ ทั้งประโยชน์ใช้สอยที่ยังคงไว้ได้ครบ ในแง่สมรรถนะก็เรียกได้ว่าทำได้ดี และมีความคล่องตัวในการใช้งานในรูปแบบของแท็บเล็ต ติดตัวมาอีกด้วย ซึ่งส่วนตัวผม ถ้าให้เลือกพกเจ้า P3 ไปใช้งานในวันหยุดพักผ่อน หรือวันที่ต้องเดินทางด้วยระบบขนส่งสารธารณะ ผมก็คงจะไม่หยิบเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตเครื่องอื่นไปด้วยอีกแน่นอนครับ
…ในด้านสมรรถนะ เรียกได้ว่าหายห่วง ด้วยตัวซีพียู Core i5 หรือแม้จะเป็นรุ่นเล็กสุดที่เป็น Pentium ผมก็ยังคงกล้าบอกได้ว่า ไม่น่าเป็นห่วง เพราะเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Ivy-Bridge หมดแล้ว (เป็นสถาปัตยกรรมในซีพียูที่โน๊ตบุ๊กส่วนใหญ่ในตลาดใช้กัน) และเจ้า SSD 120GB ก็เรียกได้ว่าทำหน้าที่ของมันได้ดีเลยทีเดียว ความจุก็อยู่ในระดับกลางๆที่พอใช้งานลงโปรแกรมได้ประปราย และเก็บข้อมูลได้บ้าง และตอบสนองจากการ resume จากโหมด sleep ได้อย่างรวดเร็ว
…แต่อย่างไรก็ดี เนื่องด้วยข้อจำกัดในด้านการออกแบบ และฟอร์มแฟคเตอร์ของเครื่อง P3 นั้นยังคงขาดการเชื่อมต่อบางอย่างไป อย่างเช่นพอร์ตแลน RJ45 และพอร์ต USB ที่มีมาให้เพียงแค่พอร์ตเดียว ก็ยังคงเป็นจุดที่เป็นข้อเสียของอัลตราบุคในรูปแบบนี้ครับ ส่วนจุดด้อยอื่นๆก็คงจะเป็นเรื่องของคีย์บอร์ด ที่ถึงแม้จะสะดวกในการใช้งานพิมพ์ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว แต่ขาดความคล่องตัวในการพับเก็บ และยังคงต้องคอยมากดปุ่มปิด เมื่อจะพับไปใช้งานในโหมดของแท็บเล็ตอยู่ วัสดุตัวเครื่องถึงแม้จะทำออกมาได้ดี แต่ตัวโคเวอร์ที่แถมมาให้นั้น ผมคิดว่าดีไซน์ยังไม่โดดเด่นและคุณภาพยังอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ไม่ถึงกับดีจนน่าตกใจครับ
…จุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับอัลตราบุคลูกผสมแท็บเล็ต ที่มีขายอยู่ในตลาด ก็คือเรื่องของราคา ที่สำหรับในรุ่น Core i5 จะอยู่ที่ 27,900 บาท และมาพร้อมกับคีย์บอร์ดในตัวเลยนั้น เรียกได้ว่าคุ้มค่า เพราะหากเทียบกับเครื่องที่มีรูปแบบคล้ายๆกันอย่าง Surface ของไมโครซอฟท์ จะเห็นได้ว่าขานั้น มีราคาที่แพงกว่าอยู่พอสมควร และตัวคีย์บอร์ด ก็ต้องซื้อแยกออกมาต่างหากอีกด้วยครับ
รุ่น Pentium / RAM 2GB / SSD 60GB ราคา 19,900 บาท
รุ่น Core i3 / RAM 4GB / SSD 60GB ราคา 23,900 บาท
รุ่น Core i5 / RAM 4GB / SSD 120GB ราคา 27,900 บาท