…สวัสดีครับ สำหรับบทความรีวิวในวันนี้นั้นก็จะเป็นรีวิวของ Acer Aspire “Switch” ซึ่งทาง Acer เรียกมันว่าเป็น “2 in 1 laptop” ซึ่งไอเดียในการสร้างเครื่องโน๊ตบุ๊ค/คอมพิวเตอร์ ที่มีความสามารถเป็นทั้งแท็บเล็ต (ถือใช้งาน จอทัชสกรีน) และสามารถแปลงร่างตัวเองให้กลายเป็นแล็ปท็อป (ต่อคีย์บอร์ด) เราก็จะเห็นได้มาพักใหญ่ๆแล้ว ตั้งแต่การเปิดตัวของ Windows 8 ยุคแรก ๆ Aspire Switch ตัวที่ผมได้รับมานี้นั้น ก็เป็นรุ่นที่มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 11 นิ้ว เรียกได้ว่าเป็นขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ และดูจะเหมาะกับการใช้งานในลักษณะ laptop เป็นหลักเลยก็ว่าได้ ซึ่งรายละเอียด ก็ลองเลื่อนลงมาชมกันทีละจุดไปพร้อม ๆ กันเลยครับ

บอดี้โดยรวม ๆ นั้น ชิ้นส่วนหลักทำมาจากอะลูมิเนียม และสลับกับบางจุดที่อาจจะพบว่ามีโครงเป็นวัสดุโพลีคาร์บอเนต ให้เห็นกันอยู่บ้างความบางนั้นก็เรียกได้ว่า หนากว่าแท็บเล็ตไซส์ 10 นิ้วทั่วไปแน่ๆ เพราะภายในนั้นเป็นซิสเต็ม Windows 8 ตัวเต็ม ใช้ซีพียู Intel

หน้าจอขนาด 11 นิ้ว ทัชสกรีน แบบคาปาซิทีฟ ที่มาพร้อมกับพาแนบแบบ IPS ความละเอียด Full HD 1920×1080 พิกเซล ก็เรียกได้ว่าสอบผ่านในแง่ความจัดเต็มเรื่องความละเอียดหน้าจอ และคุณภาพ ที่การันตีจากพาแนล IPS ที่ทำให้การรับชมภาพได้สีสันที่เที่ยงตรง และมุมมองที่กว้างกว่าพาแนลแบบ TN ดั้งเดิม

ปากกาสไลลัสนั้นก็เป็นลักษณะหัวแหลม ที่ในระหว่างการใช้งาน สามารถ sense ระดับน้ำหนักการกด หนัก เบา ได้ตามแรงที่เรากดลงไปครับ ใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่น ขีดๆเขียนๆ ใน Windows 8 แล้วก็พบว่าลื่นไหลพอตัวเลยทีเดียว และขนาด 11 นิ้วก็ใหญ่สะใจ พอที่จะเอาไว้ให้ถือเขียน และแชร์กันดูกับเพื่อน ๆ รอบวงได้เลยทีเดียว

บริเวณด้านใต้เครื่องก็จะมีขั้วต่อแม่เหล็ก พร้อมสลักล็อค สำหรับการ docking เข้ากับชุดคีย์บอร์ด ซึ่งไอ่ชื่อรุ่นคำว่า “Switch” มันก็อยู่ที่ตรงนี้แหละครับ คือจังหวะที่เรานำตัวเครื่องไป dock กับคีย์บอร์ด จะไม่มีการต้องมาเลื่อนก้านโยกใดๆ แต่จะเป็นลักษณะของแม่เหล็ก ดูดตัวเครื่องเข้ากับคีย์บอร์ด ดัง คลิก เรียกได้ว่าใช้งานได้ดี สะดวกกว่าเครื่องแนว ๆ hybrid notebook ที่ผ่าน ๆ มาของทาง Acer พอสมควรเลยทีเดียว

…เมื่อทำการเสียบ dock เข้ากับตัวคีย์บอร์ดแล้ว การใช้งานก็แทบจะเหมือนกับ notebook ทั่วไปเลยทีเดียว และจะทำให้มีพอร์ต USB 2.0 เพิ่มมาอีก 2 พอร์ต ด้านซ้ายและขวา จากเดิมที่ตัวเครื่อง(เฉพาะส่วนจอ) จะมี USB3.0 อยู่แล้ว 1 พอร์ต ปัญหาที่เคยพบในเครื่อง Hybrid Notebook รุ่นก่อน ๆ ของทางค่ายนี้ อย่างเช่น หน้าจอมักจะชอบกระดกไปด้านหลังเมื่อเราเอนจอมากๆ ใน Aspire Switch ก็ได้มีการปรับปรุงมาให้ตัวเครื่องมีสมดุลในการวางใช้งานมากขึ้น จนแทบไม่พบอาการดังกล่าว

…สัมผัสของตัวคีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึก พรีเมียม พอสมควร และคีย์บอร์ด ที่มีจังหวะ keystroke ที่ค่อนข้างดี ปุ่มมีระยะยุบในระดับกลางๆ และดีดตัวค่อนข้างเร็ว แต่ก็ยังพบอาการคลอนของปุ่มบ้าง เล็กน้อยส่วนตัวทัชแพดนั้นก็สามารถทำ Gesture และเลื่อนเคอร์เซอร์เมาส์ในวินโดวส์ได้ดีในระดับหนึ่ง แต่บางทีก็อาจพบอาการ gesture ไม่ติดได้บ้างในบางครั้ง ยังถือว่าพอรับได้ครับ

…ตัวเครื่องหลังจากเสียบเข้า docking แล้วก็หนาขึ้นพอสมควร

ตัวบานพับ จะสังเกตว่ามีแท่นรองกันขูดกับพื้นมาให้สองจุด เพราะเวลาที่กางจอออก ตัวบานพับ จะลากไปกับพื้นโต๊ะ

พอร์ตเชื่อมต่อก็จะมี USB3.0, Mini HDMI ขั้วต่อไฟ DC และช่องสำหรับเสียบ Micro SD ครับ ส่วนพอร์ตที่อยู่กับตัว keyboard dock ก็จะมี USB2.0 มาให้ทั้งสองด้าน

บานพับสามารถทำให้ตัวเครื่องสามารถกลับการใช้งานได้หลายรูปแบบ ดังภาพ

หรือจะทำให้เป็น tent mode ก็ได้

ทดสอบการใช้งาน แบตเตอร์รี่

ทำเวลาทดสอบจากการพลอตกราฟออกมาได้ 3 ชั่วโมง 48 นาที ซึ่งในการใช้งานจริงๆ หากใช้งานเพียงแค่เปิดเว็บ เปิดไฟล์เอกเซล พิมพ์งาน แบตเตอร์รี่จริงๆเท่าที่ลองใช้ก็จะอยู่ได้ราว 4-6 ชั่วโมงเลยทีเดียว

AIDA 64

ตัวรายละเอียดเครื่องจากโปรแกรม AIDA64 ก็แสดงให้เห็นว่าตัวเครื่องใช้ซีพียู Core i3 ฮาร์ดดิสก์จานหมุนขนาด 500GB 5400RPM ที่ทำงานร่วมกับ SSD ขนาด 50GB (ติดตั้ง OS ใน SSD) ไวเรสของ Atheros ชิป AR5BWB222 ที่รองรับ Wireless N 300mbps ทั้ง 2.4 และ 5GHz

พอมาเปิดดู CPUZ ก็ถึงจะเก็ตว่าซีพียูเป็น Intel Core i3 4012Y เป็นซีพียูแบบติดตั้งลงบนบอร์ด (BGA) แคช 3MB ความเร็ว 1.5GHz รหัส Y ก็หมายถึงเป็นรุ่นกินไฟต่ำพิเศษเพียง 11 วัตต์ เมมโมรี DDR3 1600MHz 4GB และกราฟฟิค Intel HD เป็นตัวที่ติดมาพร้อมกับซีพียูตัวนี้ครับ

Super PI 1m

ทำเวลา Super PI1m ไปที่เวลา 25.8 วินาที เรียกได้ว่าไม่ได้เร็วมาก อยู่ในระดับที่เครื่องสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ลื่นไหลดีครับ

CrystalDiskMark 3

คะแนนของตัว SSD ของ Lite ON ที่ติดมากับเครื่อง ก็เรียกได้ว่า เร็วใช้การได้เลยทีเดียว

HD Tune

แต่พอเทสใน HD Tune กราฟออกมาความเร็วอยู่ที่ระดับราว 150MB/s และ Access Time 0.2 ก็ถือได้ว่าทำให้การเรียกใช้งานโปรแกรมต่างๆ เร็วพอสมควร

Cinebench R11.5

3DMark

คะแนน 3DMark ตัวล่าสุด ก็อยู่ในระดับไล่เลี่ยกับเครื่องออฟฟิศทั่วไป ถือว่าไม่ผิดหวังครับ

PCMark 7

ตัว PCMark 7 คะแนนออกมาก็เรียกได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับกลางๆ

.

.

….Aspire Switch เป็น 2 in 1 Laptop ที่ผมมองว่าทาง Acer พยายามที่จะปรับ ดีไซน์ในหลายๆจุด ให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น สังเกตได้จากในรีวิวที่ผมได้กล่าวถึงว่า ดีไซน์มีการแก้ไขจุดบกพร่อง ที่เราพบได้ในเครื่อง Hybrid Notebook ใน generation ก่อนหน้านี้ที่ Acer ได้ทำออกมาอยู่หลายจุดครับ

…ความน่าใช้ของ “Switch” นั้นก็ยังคงอยู่ที่เรื่องของการที่สามารถใช้งานได้ในลักษณะ “Work and Play” เช่นเดียวกับเครื่องแนวๆ Hybrid หลาย ๆ รุ่นในท้องตลาด และดูเหมือนจุดขายอีกจุดหนึ่งที่พบก็คือเรื่องของ ปากกา ที่แถมมาให้เป็นปากกาปลายแหลม ที่สามารถ sense น้ำหนักการกดได้ และความสามารถในการสลับจากรูปแบบของแท็บเล็ต มาเป็นแล็ปท็อป ได้อย่างสะดวกในลักษณะ “Switch” ทำให้ตัวเครื่องดูน่าใช้ ประกอบกับซีพียูที่ให้มาเป็นถึง Core i3 (4th generation) ที่มีสมรรถนะที่พึ่งพาใช้งานได้อย่างไม่ต้องกลัวอืด ในแอพพลิเคชั่นที่อาจต้องใช้แรงซีพียูมาก ๆ

…ด้วยราคาขายที่พบอยู่ในระดับ 30,000 บาท หากมองว่านี่คือโน๊ตบุ๊คขนาดพกพาสะดวกเครื่องหนึ่ง ที่หากเบื่อๆแล้ว ก็ถอดจอมันออกมา เอาไปใช้เป็นแท็บเล็ตได้อีก แถมมีปากกามาให้ใช้วาดรูป ขีดๆเขียนๆ ได้อีก ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งที่คุ้มค่าทั้งในแง่การใช้งาน และฟีเจอร์ที่ได้มาในราคานี้ครับ

.

.

.