…Asus ET2030I series เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ ออลอินวัน ที่เป็นเครื่องแนวมีความสามารถรอบด้าน ในแพคเกจที่กระทัดรัด สะดวกในการวางไว้บนโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะในห้องนั่งเล่นครับ หน้าจอแบบด้าน 19.5″ HD+ 1600×900 (ไฟ backlit แบบ LED) ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นขนาดกลางๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด ET2030 นั้นนอกจากนี้แล้วก็มาพร้อมกับขุมพลัง Intel Core i3 ใน 4th generation และกราฟฟิค NVIDIA GeForce 820M 1GB เพื่อสมรรถนะการประมวลผลกราฟฟิคที่ดีขึ้นกว่ากราฟฟิคอินติเกรต

หน้าตาเครื่องก็มีลักษณะเหลี่ยมๆ เรียบง่าย แต่ดูๆไป ก็มีหลายมุมที่หล่อ และน่าจะเข้ากับโต๊ะทำงานได้ในหลายๆรูปแบบ เพราะดีไซน์ไม่หวือหวาเกินไปนั้นเอง

จอ LED แต่ไม่ใช่พาแนล IPS ก็ยังพบว่ามีมุมมืด หรือปัญหาเรื่องมุมมองรับชมภาพบ้าง แต่ถือว่าทำสีสันได้น่าชมดีพอสมควรเลยทีเดียว

พาแนลด้านล่างจมีแถบสีน้ำตาลคาดอยู่ พร้อไฟแสดงสถานะเครื่องสีขาวเล็กๆ ตลอดจนปุ่มสำหรับปรับคอนทราสจอ โวลุม และปุ่มเพาเวอร์ ถูกซ่อนไว้ดานใต้จอ การกดก็ทำได้ถนัดมือดี แต่เสียงที่กดก็จะดงแก๊กๆ ดูกลวงๆไปเสียหน่อย นอกจากนี้หากสังเกตดีดีตัวเครื่องจะมีปุ่มสีดำๆ ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็น IR Receiver สำหรับใช้งานร่วมกับรีโมตคอนโทรล ซึ่งในเครื่องสเป็คที่ผมได้มานั้น ไม่มีแถมมา แต่สามารถซื้อเพิ่มได้ในภายหลังครับ

ฐานรองเครื่องนั้นก็มีลักษณะผิวคล้ายอะลูมิเนียม ดูดีมีราคาพอสมควร พร้อกับสติกเกอร์ Intel inside และ NVIDIA มาให้ แต่จริงๆแล้วตัวเมนบอร์ด ไม่ได้ติดอยู่ที่ฐานเครื่องครับ จะฝังอยู่ด้านหลังตัวจอ

ด้านหลังเครื่องก็จะพบว่ามีช่องพัดลมระบายอากาศ ระหว่างใช้งานจริงก็จะมีเสียงรบกวนบ้าง ดังกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเล็กน้อย ไม่ถึงกับน่ารำคาญ และช่องสำหรับไขน้อตถอดออก สามารถอัพเกรดเมมโมรีเพิ่มได้ นอกจากนี้ตัวขาตั้งจอ ที่มีน้ำหนักพอสมควร สามารถปรับ tilt จอในแนวแหงนได้ แต่ไม่สามารถหมุนในแนวซ้ายขวาได้ครับ

คีย์บอร์ดและเมาส์ที่ติดมาให้เป็นชุดเซ็ต แบบมีสายใช้ USB ทั้งสองอัน คีย์บอร์ดลักษณะจะเป็นปุ่มแบนๆ คล้ายโน๊ตบุ๊ค ส่วนเมาส์ก็จะเป็นรูปร่างอ้วนๆบวมๆ แต่ก็จับได้เต็มไม้เต็มมือดีครับ

พอร์ตเชื่อมต่อด้านข้างนั้นก็มีตั้งแต่ SD Cardreader และ USB 3.0 ซึ่งเหมือนวางตำแหน่งเอาไว้ให้เสียบแฟลชไดร์ฟโดยเฉพาะ ตลอดจนช่องเสียบหูฟังและไมค์

ด้านหลังก็มีช่องเสียบไฟ DC19V, LAN, HDMI out, USB3.0 อีกสองพอร์ต และ 2.0 อีกสองพอร์ต ซึ่ง 2.0 สองพอร์ต ก็น่าจะแทบต้องอุทิศตัวเองไปให้กับตัวเมาส์และคีย์บอร์ด สรุปแล้วทั้งเครื่อง ก็จะเหลือ USB ให้ใช้ 4 พอร์ต

นอกจากนี้ในตัวเครื่องก็ยังมีระบบเสียงเทคโนโลยีของ Asus SonicMaster แบบสเตอริโอ ที่ให้สุ่มเสียงที่ฟังดูดี มีมิติ ทั้งเสียงกลาง เบส และแหลม ได้ค่อนข้างน่าทึ่งครับ ว่าเครื่องที่ดูภายนอกน่าจะติ๋มๆ แต่พอเปิด youtube ดูคลิป เสียงที่ออกมาก็ฟังได้ชัดเจนดีมากเลยทีเดียว เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องไปหาลำโพงต่อเพิ่มเติมอีกแล้วหากใช้งานเพียงแค่ในห้องคอนโดเล็กๆ

ไดร์ฟ DVD-RW super multi 8X แบบถาดบาง คล้ายๆกับในโน๊ตบุ๊ค ติดตั้งมาอย่างกลมกลืน

สเป็คของตัวอะแดปเตอร์ 19V 6.3A ก็น่าจะตีได้ว่าตัวเครื่องใช้กำลังไฟสูงสุดเพียงแค่ราว 100 วัตต์เท่านั้นครับ ถือว่าประหยัดมาก เหมือนกับใช้โน๊ตบุ๊คเลยทีเดียว

ตัวรายละเอียดเครื่องจากโปรแกรม AIDA64 ก็โชว์ออกมามีเพี้ยนๆบ้างครับ แต่ก็พอจะจับใจความได้ว่ามีกราฟฟิคอินติเกรต HD4400 และ GT820 ทำงานร่วมกัน (NVIDIA Optimus) และซีพียู Core i3 ดูอัลคอร์ความเร็วสูงสุด 3GHz และแรม 4GB กับชิปเซ้ต H81 ฮาร์ดดิสก์ 1TB 7200RPM ความเร็วรอบเหมือนกับในเครื่อง PC ทั่วไปเลย พร้อมการ์ดไวเรส AR9485 ที่รองรับเพียง Wireless N 2.4GHz เท่านั้น (ออลอินวัน ET2030 series บางสเป็ครองรับ Wireless AC)

พอมาเปิดดู CPUZ ก็ถึงจะเก็ตว่าซีพียูเป็น Intel Core i3 4150T ซึ่งเป็นซีพียูมีซอกเก็ตแบบเดียวกับเดสก์ทอพทั่วไปเลยครับ (Socket 1150) แต่รหัส T หมายถึงการ Optimize มาสำหรับการใช้งานแบบประหยัดพลังงาน และความร้อนต่ำพิเศษด้วย TDP เพียง 35Watt ส่วนสเป็คอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแคช หรือความเร็ว 3GHz ก็แทบจะเหมือนซีพียูรหัสปกติทุกอย่าง เมนบอร์ดเป็น H81 เมมโมรี DDR3 1600MHz และกราฟฟิค GeForce 820M 1GB

Super PI 1m

ถึงแม้จะไม่มี Turbo Boost เหมือนใน i5 หรือ i7 แต่เมื่อลองประเดิมทดสอบทำเวลาดูกับ Super PI 1m ก็ไม่ได้น่าเกลียดเลยกับ i3 ด้วยเวลา 13 วิต้นๆเท่านั้น ถ้าเทียบกับ I5 ก็จะอยู่ที่ระดับ 10 วิกลางๆ ก็ถือว่าไม่แตกต่างกันมากนัก

CrystalDiskMark 3

ความเร็วทำออกมาได้ดีพอควร เพราะเป็นฮาร์ดดิสก์ 7200RPM

HD Tune

แต่พอมาดูกราฟใน HD Tune ก็ดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ครับ แต่ด้วย Burst rate และความเร็วสูงสุดแล้ว ก็คิดว่าพอสมศักดิ์ศรี 7200rpm กับอินเตอร์เฟซ SATA 3

Cinebench R11.5

คะแนน Cinebench ถึงจะทำคะแนนในส่วนกราฟฟิคออกมาได้ในระดับหนึ่ง แต่คะแนนซีพียู ไม่น้อยหน้าใครแน่นอน เพราะความเร็วซีพียูสูงถึง 3GHz

Unigine Heaven Benchmark 4

คะแนนของ benchmark สุดโหดตัวนี้ก็เคาะมาที่ 259 คะแนน เรียกได้ว่าคะแนนทำได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก จากการที่เป็นเครื่องออลอินวันหน้าตาติ๋มๆแบบนี้

3DMark

คะแนน 3DMark ตัวล่าสุด ก็อยู่ในระดับกลางๆ เรียกได้ว่าพอเอาไว้ใช้เล่นเกมสมัยใหม่ได้บ้างแต่อาจจะปรับรายละเอียดได้ไม่สุดนัก

3DMark 06

ลองดูตัว 06 ก็พบว่าคะแนนยังไม่แตะระดับ 10000 แต้มดีนัก แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้ และได้อานิสงส์ความแรงของซีพียูช่วยมาได้พอสมควร

PCMark 7

ตัว PCMark 7 ต้องบอกไว้ก่อนว่าตัว System info ผมไม่ได้อัพเกรด เลยมองเห็นกราฟฟิคผิดรุ่น แต่คะแนนออกมาก็เรียกได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับกลางๆ ไม่ได้นาตื่นเต้นมากนักครับ

.

.

…ET2030 เป็นออลอินวันที่หากใครที่มองเน้นแต่สเป็คภาพรวมๆ ก็อาจจะไม่ได้รู้สึกถึงความพิเศษไปกว่าออลอินวันหรือพีซีประกอบทั่วๆไปในตลาด แต่ถ้าหากลองได้มาสัมผัสรายละเอียดในหลายๆจุดแล้ว ทั้งตัวเครื่องที่ถึงแม้จะดูเรียบง่าย แต่จะมองมุมไหนก็ดูดีไปเสียหมด ซ่อนจุดที่ดู look cheap ได้อย่างดี สเป็คที่ถึงแม้จะเป็นซีพียูรุ่นประหยัดอย่าง Core i3 แต่ก็สามารถแสดงสมรรถนะออกมาได้อย่างดีไม่แพ้ซีพียูรุ่นใหญ่ๆ และกราฟฟิค GeForce 820M ที่ติดตั้งมาทำให้ตัวเครื่องสามารถใช้งานด้านกราฟฟิค (เกม) ได้ลื่นไหลกว่ากราฟฟิคอินติเกรต ก็ช่วยให้ตัวเครื่องยกระดับคุณค่าในตัวมันเองขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง

…ข้อเสียเพียงไม่กี่ประการที่ผมพอจะนึกออกนั้นก็คือ ตัวเครื่องที่ทำมาเน้นการเป็นรุ่นที่มีราคาไม่แพง ทำให้ไม่มี OS ติดเครื่องมาให้ ต้องมาซื้อเองในภายหลัง และพอร์ต USB ที่ดูเหมือนจะพอ แต่เอาเข้าจริง ถ้าไม่ได้ใช้เซ้ตคีย์บอร์ดเมาส์ไร้สาย (ที่ไม่ได้แถมมา) เพราะในชุดแถมมาเป็นชุดคีย์บอร์ดเมาส์ แบบ USB ทำให้เปลืองพอร์ต USB ไปถึง 2 พอร์ต ก็ไม่น่าจะมีอะไรให้ต้องกังวลใจ นอกจาก ซื้อมา แล้วเอามาใช้ จบง่ายๆกันแบบนี้นั้นเองครับ