Review : Asus Eee Pad Transformer TF101
Share | Tweet |
ลองเปิดเครื่องใช้งาน เปิดดู Information กันก่อนครับ ก็จะพบว่า Eee Pad ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 3.0.1 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Honeycomb” นั้นเอง
หน้า Home Screen นั้นเรียกได้ว่า ไม่มีอะไรแตกต่างจากเครื่องในระบบ Android ทั่วๆไปมากนักครับ ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องดี เพราะบางทีผู้ผลิตบางเจ้า ใส่ๆอะไรมาให้เยอะแยะเกินไป จนรกหน้าจอ แล้วเราไม่ได้ใช้ ก็ต้องมานั่งแก้ให้กลับมาเป็นแบบง่ายๆแบบนี้อีก สู้ให้มาแบบเดิมๆ แล้วให้ผู้ใช้ปรับแต่งเอาเอง จะเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากกว่า
…หน้า Home ก็จะสามารถเลื่อนสไลด์ไปได้หลายๆหน้า สามารถลากเอา Widget หรือ app ที่เราใช้บ่อยๆ มาวางไว้บนหน้าแต่ละหน้าได้ครับ ซึ่งรายละเอียดการใช้งานนั้น ผมจะเล่าให้ทราบกันคร่าวๆ
…ผมเคยสัมผัส เครือง Tablet หลักๆ เอาแบบที่เคยเล่นจนน่าจะจับเรื่องจับราวได้ก็คือ Samsung Galaxy Tab , Ipad แล้วก็เครื่องนี้แหละครับ ถ้าให้เปรียบเทียบเอาจากความทรงจำ คือการใช้งานของ Eee Pad นี่ ก็ถือว่าค่อนข้างเร็ว ในระดับหนึ่ง จับความรู้สึกแตกต่าง กับเครื่องรุ่นที่ซีพียูช้ากว่าอย่าง Tab ได้ในระดับหนึ่งครับ แต่ไม่มากนัก เพราะผมคิดว่ายังไงแอนดรอย ก็คือแอนดรอย แต่เครื่องที่ผมคิดว่า เข้าวินเลยในเรื่องของความลื่นไหลของอินเตอร์เฟส ก็คือ iPad ครับยังต้องยกให้เขา
…แต่ว่าคุณสมบัติหลายๆอย่างของ Eee Pad เครื่องนี้ ด้วยพลังของซีพียูแบบ Dual Core จาก NVIDIA นี้ก็ยังเป็นอะไรที่น่าสนใจครับ สำหรับการเอามาใช้งานปรับแต่งรูปภาพแบบรวดเร็ว หรือจะเอาไว้เล่นเกม ที่ตอนนี้ทาง NVIDIA ก็พยายามที่จะขยายอาณาจักรเกมของตน ให้เข้ามาอยู่ในโลกโมบายให้มากขึ้น ด้วยการจับมือกับนักพัฒนาหลายๆเจ้า ให้สร้างเกมที่ออกมาเป็น “Tegra Optimized” คือปรับมาสำหรับซีพียูของเขาโดยเฉพาะ และสามารถเล่นได้ในระดับความละเอียด Full HD กันแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้ เกมใน Tegra Zone จะมีออกมาไม่เยอะมาก แต่ว่าในอนาคต ก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตามองกันครับ
….ซึ่งนอกจากเรื่องดีดีด้านบน ผมก็ยังมีเรื่องข่าวร้ายมาบอกว่า App ใน Tegra zone ตอนนี้ยังไม่สนับสนุนการดาวโหลดในประเทศไทย คงต้องรอกันสักพัก เพราะข่าวล่าสุดตอนนี้เท่าที่ทราบมาคือ Android Market นั้นเปิดให้คนไทยสามารถซื้อ app ได้อย่างถูกกฏหมาย ไม่ต้องทำ root เครื่องกันแล้ว ก็ต้องรอดู Tegra Zone ต่อไปครับว่าจะเป็นอย่างไร
…เรื่องของพอร์ต USB ก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากครับสำหรับผม สมัยผมยังเด็กๆ ผมเคยคิดว่า ทำไมนะ “Pocket PC” พวกวินโดวส์โมบาย ไม่มีพอร์ต USB ไว้ให้เสียบแฟลชไดร์ฟได้ … มาจนถึงวันนี้ Eee Pad มีให้ผมแล้วครับ มันสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB อย่างฮาร์ดดิสก์แบบในรูปก็ได้ด้วย โดยไม่มีอาการไฟไม่พอให้เห็นเลย นับได้ว่า โอเอสสำหรับสมาร์ทโฟนสมัยนี้ ฉลาดขึ้นมากเลยทีเดียว
…ถัดมาก็คือ ความสามารถของตัวชิป Tegra อีกเช่นเคย กับความสามารถในการถอดรหัสภาพวีดีโอ 1080P ได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน ถึงเวลาเปิดออกมาแรกๆ จะมีอาการหน่วงบ้าง แต่พอดูๆไป ก็พบว่า ลื่นไหลใช้การได้ดีสมราคาคุยจาก NVIDIA ครับ ตัวลำโพงนั้นก็สามารถให้ซุ่มเสียที่ดุดันใช้การได้ครับ
ระบบอีเมล ก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อผ่าน IMAP หรือ POP3 เปิดดูผ่าน Inbox ของเราได้โดยตรงเลยถ้าหากว่าใช้ Gmail อยู่ ถือว่าเจ๋งเลยทีเดียวครับ
ส่วนของ E-Book ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่ผมคิดว่า ณ ชั่วโมงนี้ คงหาคนบริโภคสื่อแนวๆนี้ได้น้อยอยู่ครับ
…ระบบ GPS หากได้ซอฟท์แวร์ดีดี ผมถือได้ว่าสามารถเอามาใช้นำทางได้เลย แขวนติดตั้งหน้ารถยนต์ ใช้งานได้แม่นยำดีครับ เพราะว่าสนับสนุนการใช้งานแบบใช้อินเตอร์เนทในการช่วยเร่งความเร็วในการจับสัญญาณ GPS ด้วย แต่ก็ต้องพิจารณากันหน่อยว่ามี WiFi ให้ใช้รึเปล่ากับเครื่องรุ่นนี้ที่ไม่มีสลอตใส่ซิมการ์ด 3G มาให้
.
.
…Eee Pad นั้น เปิดตัวในงาน Commart ไปแล้วครับ แล้วผมก็แว่วๆมาว่าราคาตัว 16GB ตัวที่ผมรีวิวนี้ อยู่ที่ราวๆ 15k ไม่รวม Keyboard Docking ซึ่งถ้าซื้ัอรวม ก็จะอยู่ที่ราวๆ 17xxx ซึ่งผมถือว่าเปิดออกมาราคาอาจจะไม่ได้ถูกหวือหวา แต่ก็คิดว่าน่าจะสมเหตสมผลพอสมควร
…จุดเด่นของมันโดยสรุปแล้วก็อยู่ที่ตัวจอพาแนลแบบ IPS ชัดเจนมากๆ ซีพียูดูอัลคอร์สุดแรงจาก NVIDIA และ Docking ที่ทำออกมาได้น่าสนใจ
…ส่วนจุดด้อยที่ผมสัมผัสได้ก็คือตัวบอดี้นั้นแผ่นหลังน่าจะทำออกมาให้ความรู้สึกที่ดีกว่านี้ได้อีกหน่อยครับ รวมไปถึงพอร์ต USB ที่น่าจะมีติดตัวเครื่องมาให้เลยตรงๆ กับหน้าจอที่ถึงแม้จะคมชัดแค่ไหน แต่แสงสะท้อนมากๆ เอาออกไปใช้งานข้างนอก ก็ลำบากเหมือนกัน
.
.
ขอขอบคุณ Asustek Thailand