…ช่วง นี้ดูเหมือนจะเป็นช่วงที่ตลาดแท็บเล็ตแอนดรอยด์ จะเริ่มมีความเคลื่อนไหวกระเพื่อมมาเป็นระลอกๆ โดยเฉพาะในเรื่องของแท็บเล็ตราคาระดับกลางๆหรือระดับต่ำๆไปสักหน่อย จะพบว่าเริ่มมีออกมาวางจำหน่ายกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งแท็บเล็ตจากทางฝั่งแบรนด์จีนต่างๆมากมายในราคาหลักพันบาท ไปจนถึงราคาแตะหลักหมื่นบาทที่มีต้นแบบอย่าง Nexus แท็บเล็ต 7 นิ้ว Tegra 3 ที่มี 4 คอร์ที่ถูกนำเสนอขึ้นมาโดยทาง NVIDIA ที่มีราคาที่น่าจะซื้อหามาใช้กันไม่ยากนักแต่มีประสิทธิภาพที่ดีพอฟัดพอ เหวี่ยงกับแท็บเล็ตราคาแพงๆได้อยู่ครับ

…รีวิว วันนี้เป็น MemoPad จาก Asus ในรุ่น ME171V ซึ่งเป็นแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว ที่มีดีไซน์ที่ดูจะคล้ายคลึงกับ Nexus7 ที่ผมได้กล่าวไปในตอนแรกอยู่พอสมควร แต่ต่างกันที่ว่ามีราคาต่ำกว่า และมีรายละเอียดเชิงเทคนิคที่อาจจะดูด้อยๆไปกว่า Nexus เรียกได้ว่าทำออกมาเน้นเอาใจคนที่อยากได้แท็บเล็ตไว้ใช้งานพื้นฐานจริงๆไม่ ได้เน้นความแรงอะไรกันมากมายครับ

เรา จะค่อยๆมาดูในรายละเอียดกันทีละส่วน ตามสไตล์ของผมกันดีกว่านะครับ เริ่มจากภาพรวมของเครื่องนั้น เรียกได้ว่าก็ไม่ได้ดูหวือหวาไปมากกว่าแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วในตลาดมากนัก บริเวณขอบดำของจอนั้นก็จะกินพื้นที่ค่อนข้างมาก ซึ่งส่วนตัวแล้วสำหรับเครื่องขนาด 7 นิ้ว ผมจะชอบให้มันพอมีพื้นที่ระหว่างขอบจอแบบนี้ไว้มากๆหน่อยไว้เผื่อการจับถือ ที่เราจะเอานิ้วไปวางพักไว้ได้นั้นแหละครับ

ตัวจอ 7 นิ้วที่มีมาให้มีความละเอียด 1024×600 พิกเซล ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้ละเอียดมากมายนัก และมีแบ็กไลท์แบบ LED

พอ ลองเอามาถ่ายรูปดู ถึงแม้ว่าจอนั้นสีจะไม่สดสะใจและมุมมองรับภาพกว้างเหมือน IPS รุ่นใหม่ๆ แต่ก็ถือว่าได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่หลายๆคนน่าจะมีเซอไพรส์ได้เหมือนกันครับกับ ค่าตัวของมัน มุมมองรับภาพนั้นอยู่ที่ 140 องศา ซึ่งถือว่ากว้างพอสมควรถ้าไม่ไปมองเทคโนโลยีที่สูงกว่าและราคาแพงกว่าอย่าง พวก IPS

ฝา ด้านหลังนั้นก็เป็นพลาสติก ที่เอาจริงๆแล้วผมคิดว่ามันเก็บงานมาได้เรียบร้อยกว่าเจ้า PadPhone แท็บเล็ต+โทรศัพท์ในตัวเดียวกัน จากค่ายเดียวกันเสียอีกครับ ผิวสัมผัสนั้นจะออกแนวสากๆเล็กน้อย แต่ก็ยังให้ความรู้สึกละมุนละไมน่าสัมผัส ไม่มีมุมหรือรอยต่อส่วนใดที่บาดมือ ส่วนลำโพงที่เห็นนั้นก็เป็น SonicMaster ซึ่งให้คุณภาพเสียงที่ดีพอสมควร ดีแค่ไหน ผมพูดได้แค่ว่าดีกว่าแท็บเล็ตแบรนด์จีนก็แล้วกันล่ะครับ และถ้าสังเกตกันดีดี ครับ ใช่แล้ว มันไม่มีกล้องด้านหลัง มีเพียงแต่กล้องด้านหน้าไว้เปิด Video Call ให้ดูกันต่างหน้าเท่านั้นครับ

การจัดวางปุ่มทำออกมาได้โอเคดี ผมไม่มีปัญหากับมันครับ ทั้งปุ่มเพาเวอร์ และปุ่มเพิ่มลดโวลุมด้านข้างนี้

อีกด้านหนึ่งก็โล่งๆไม่มีอะไร

แจ๊ก สำหรับเสียบหูฟัง 3.5มิลลิเมตร รองรับการใช้งานกับไมโครโฟนในตัวแบบสมอลทอล์คโทรศัพท์ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้มีระบบ 3G อะไรติดมาด้วยหรอกนะครับ คงมีไว้เผื่อสำหรับการ Video Call ผ่านอินเตอร์เน็ททำนองนั้นมากกว่า

ด้าน ใต้มีพอร์ต Micro USB ซึ่งทำให้ผมประทับใจมาก เพราะรู้สึกว่าผู้ผลิตแท็บเล็ตหลายๆเจ้า ชอบจะให้พอร์ตพิศดารๆมาสำหรับการชาร์จไฟ ซึ่งทำให้มันเป็นปัญหามากเวลาที่ลืมพกสายชาร์จติดตัวไปแล้วแบตใกล้จะหมด ต้องการหาที่ชาร์จ ส่วนรูใกล้ๆกันด้านซ้ายมือนั้นสำหรับใส่การ์ด microSD ครับ หน่วยความจำที่ติดเครื่องมานั้นมี 8GB มาให้ ซึ่งก็น่าจะเพียงพอสำหรับการลงโปรแกรมทั่วไป แต่สำหรับการเก็บภาพถ่าย วีดีโอ หรือเพลง ก็ใส่ไว้ลง microSD โลด

สายชาร์จที่ติดมาให้ยอมรับเลยว่าก็ยังคงดูดีเหมือนๆกับแท็บเล็ตรุ่นพี่ร่วมค่ายหลายๆตัวอย่างตระกูล Transformer เลยครับ

ที นี้เราลองมาดูในส่วนของรายละเอียดส่วนลึกกันครับ ME171V นั้นใช้ซีพียูแบบ Single Core ความถี่คล๊อก 1GHz จากค่าย VIA ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบ ARMv7 แบบเครื่องแอนดรอยด์ทั่วๆไปที่เราคุ้นเคยกัน แรมมีขนาด 1GB และมี Android 4.1.1 ติดเครื่องมาให้ ซึ่งตอนนี้ผมเข้าใจว่าน่าจะสามารถทำการอัพเกรดเป็น 4.2 ได้แล้วครับ

หน้า จอขนาด 7 นิ้วความละเอียด 1024×600 เอาเข้าจริงความละเอียดนี้มันก็จะประมาณจอของอัลตราบุคในยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง เลยทีเดียว ซึ่งหน้าโฮมก็จะสามารถแสดงผลได้กว้างประมาณตามภาพเลยครับ

แนวตั้งก็ยังคงดูลงตัวดี

ผล การทดสอบจากโปรแกรม Benchmark ก็พบว่าคะแนนนั้นรั้งๆอยู่ด้านท้าย ไล่ๆกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ยุคแรกๆก่อนที่กำลังจะบูมหนักๆอย่าง Galaxy S ครับ

ถาม ว่าซีพียู 1GHz SingleCore นั้นเพียงพอกับการใช้งานในโลกทุกวันนี้ไหม ผมบอกได้เลยว่า ปริ่มๆครับ สำหรับการใช้งานทั่วๆไปผมพบว่ามีอาการหนืดๆและกระตุกน่ารำคาญอยู่บ้าง การบราวซ์หน้าเว็บ สามารถทำได้ค่อนข้างดี (ด้วยอานิสงส์จากการพัฒนาของแอนดรอยด์ในรุ่น 4)

การ เรียกแอพขึ้นมาก็มีหน่วงเวลาไม่มากนักครับ ตัวเครื่องนั้นติดแอพอ่าน ebooks อย่าง kindle มาให้ด้วย ซึ่งผมคิดว่าน่าจะตรงกับวัตถุประสงค์ของเจ้า MeMoPad นั้นคือเป็นแท็บเล็ตไว้ใช้งานพื้นฐาน เหมาะสำหรับการเอาไว้อ่านหนังสือเพลินๆ หรือบราวซ์อินเตอร์เน็ทบ้างตามสมควร ไม่ได้เหมาะกับการเอาไว้ใช้งานเอนเตอร์เทนเมนต์เล่นเกมหนักๆครับ แต่อย่างไรก็ดีเท่าที่ผมลองใช้เปิด pdf file ที่เป็นพวกตำราเรียนมาอ่านดูระหว่างเอามาใช้เนี่ยก็พบว่า บางทีถ้ามีเนื้อหาแน่นๆมากๆ รูปเยอะๆ ก็กระตุกจนน่ารำคาญได้ในบางอารมณ์

จุด เด่นจริงๆของเจ้า MemoPad นั้นคงจะหนีไม่พ้่นเรื่องของแบตเตอร์รี่ ที่มีมาให้จุใจถึง 4900mAh ซึ่งถือว่ามากกว่าคู่แข่งในตลาดในระดับเดียวกันอยู่มาก เพราะเท่าที่ลองใช้ดู ก็พบว่าตัวเครื่องกับไลฟ์สไตล์ผม ที่ใช้เครื่องเอาไปแค่ไว้เปิดตำรานั่งดูเวลาซ้อมทำข้อสอบ สามารถใช้ได้ถึง 2 วันด้วยกัน และสำหรับการใช้งานทั่วๆไป ผมคิดว่า 1 วัน น่าจะเหลือเฟือเลยทีเดียวครับ

แอพโซเชียลเนทเวิร์คหลายๆแอพก็น่าจะเหมาะกับการใช้เครื่องนี้ในแนวตั้งมากกว่าแนวนอนครับดูจากรูปการแล้ว

.

.

…ก็ มาถึงส่วนสุดท้ายของรีวิววันนี้กันแล้วนะครับ โดยภาพรวมนั้นผมก็จะขอสรุปให้ง่ายๆว่า MemoPad ME171V นั้นเป็นแท็บเล็ตสำหรับผู้ที่ต้องการหาเครื่องไว้สำหรับใช้งานพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดอ่าน ebooks รูปแบบต่างๆ หรือการเปิดอินเตอร์เน็ท โดยไม่ได้ต้องสนใจกับเรื่องของเกม หรือความบันเทิงอะไรมากเท่าไร ซีพียู Single Core 1GHz นั้นเรียกได้ว่าแค่พอตอบสนองขั้นพื้นฐานอย่างดูหนังฟังเพลงได้เท่านั้นครับ การใช้งานจริงๆมันจะมีหนืดๆบ้างตามประสา ลำโพง SonicMaster ให้ซุ่มเสียงที่ดีกว่าลำโพงโนเนมทั่วไปอยู่พอสมควร ตลอดจนแบตเตอร์รี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน ทำให้เหมาะสำหรับการนำไปใช้อ่านหนังสือเป็นอย่างยิ่ง ข้อเสียที่สำคัญๆจริงๆก็คงจะเป็นเรื่องของ GPS ที่ไม่มีติดมาให้ ทำให้มันขาดความน่าสนใจลงไปบ้่าง เพราะผมเชื่อว่าสมัยนี้น่าจะมีคนหลายคนที่สนใจนำเอาแท็บเล็ตไปใช้ติดตั้ง ซอฟท์แวร์ดังๆอย่าง Sygic หรือระบบนำทางอื่นๆสำหรับไปใช้ในรถยนต์ การไม่มี GPS ก็เท่ากับตัดโอกาสตรงนี้ไปเลยครับ

ด้วยราคา 4900 บาท ผมคิดว่าเป็นราคาที่ถือได้ว่าคุ้มค่าพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อดูจากความเรียบร้อยของตัวเครื่อง สีสันหน้าจอที่ได้ ตลอดจนแบตเตอร์รี่ที่มีมาให้มากพอสมควรครับ