Asus N43JF

…สำหรับวันนี้ก็มาถึงกับอีกหนึ่งรีวิวของโน๊ตบุ๊กระดับเมนสตรีมจอ 14 นิ้วจากแบรนด์ Asus กันอีกครั้งครับ ซึ่งในวันนี้ จะเป็นรุ่น N43JF ที่ซึ่งมาพร้อมกับซีพียู Core i5 520M แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือ นี่เป็นโน๊ตบุ๊กอีกรุ่นจากค่าย Asus ที่มีการรองรับ USB 3.0 ในตัวเครื่องแล้วนั้นเองครับ

ความเป็นจริงแล้ว N43JF เวอร์ชั่นที่ขายในไทย เท่าที่ผมตรวจสอบพบนั้นผมว่า มีรุ่นที่เป็น Core i5 460 พร้อมกับกราฟฟิคการ์ด NVIDIA GT425 ด้วยครับ แต่รุ่นที่ผมได้รับมานั้น เป็นเครื่อง Sample จากทาง Asus โดยตรง ดังนั้นเสป็คที่ท่านเห็นในตาราง ก็อาจจะมีแตกต่างจากของขายจริงไปบ้างนั้นเองครับ

ดีไซน์ของ N43JF นั้นก็มาในมาดคมเข้ม หรูหรา และหวือหวาตามสไตล์ Asus ครับ บอดี้สีเงินวาววับ ชวนหลงไหล แล้วก็ไม่เป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย

เส้นสายของตัวเครื่องดูแล้วชวนสัมผัส คุณภาพงานประกอบสำหรับตัว N43JF นั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ดีกว่าโน๊ตบุ๊กรุ่นถูกๆของค่ายอยู่หลายรุ่น แต่ก็ยังไม่จัดว่าดีมากในความเห็นของผมครับ

ภายในนั้นคีย์บอร์ดไม่ใช่คีย์บอร์ดแบบปุ่มยก แต่ก็ให้น้ำหนักที่ผมคิดว่ามันดีมากๆเลยทีเดียว มีช่วงกดที่สั้นแบบโน๊ตบุ๊กทั่วไป แต่มีการดีดตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็ว ไม่ฝืด การวางเลย์เอาท์ ผมยังพูดอะไรมากไม่ได้ครับ เพราะว่าเครื่องนี้เป็นคีย์บอร์ดแบบ UK ซึ่งจะมีเลย์เอาท์ที่แตกต่างจากแบบ US ที่ใช้ๆกันอยู่ในบ้านเรา

ทัชแพดมีขนาดที่ใหญ่พอสมควร แต่ก็วางตำแหน่งไว้ได้ค่อนข้างดี ไม่เกะกะข้อมือ ความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ปานกลางตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊กจากค่ายนี้ครับ

ลำโพงเครื่องนี้ มาพร้อมกับเทคโนโลยี ICE และลำโพงจาก Bang & Olu fen ที่ผมค้นพบว่า ให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊กทั่วไปอยู่พอสมควร

มาถึงเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อ ด้านซ้ายมือ จะพบกับรูระบายอากาศขนาดใหญ่ พร้อมถัดไปเป็นพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆตั้งแต่ RJ45 (LAN) , HDMI, eSATA/USB, USB

อีกด้านหนึ่งก็จะมี USB และ USB 3.0 อันสีฟ้าๆนั้นแหละครับ ซึ่งประสิทธิภาพของระบบ USB 3.0 ในโน๊ตบุ๊ก Asus ผมเคยทำรีวิวทดสอบไปแล้วในโน๊ตบุ๊กรุ่น N82 ของค่าย Asus สามารถลองไปเปิดดูในคลังบทความได้ครับ

ด้านหลังเครื่องก็มี VGA port มาให้ ซึ่งผมคิดว่าเป็นการวางตำแหน่งที่ดีสำหรับการใช้งานจริง ที่เราคงไม่ต้องการให้สาย VGA มายุ่มย่ามอยู่ใกล้ๆข้อมือเรา

สายสำหรับไฟเข้าก็อยู่ด้านหลังเช่นเดียวกัน

การ์ดรีดเดอร์มุดหลบมุมอยู่ด้านหน้า คลำหาลำบากพอสมควรครับ

แบตเตอร์รี่นั้นมีขนาด 48Wh ซึ่งผมคิดว่าสำหรับโน๊ตบุ๊กระดับนี้ ก็น่าจะพอให้สามารถใช้งานได้ในช่วงระยะเวลาประมาณสองชั่วโมงถึงจะพอไหวครับ ซึ่งก็ถือว่าเป็นมาตรฐานทั่วไปที่โน๊ตบุ๊กระดับนี้มักจะทำได้

————————————————–

Performance

- รายละเอียดจาก CPUZ

ประเด็นสำคัญของเจ้า N43JF เครื่องนี้ยังมีอีกข้อหนึ่งครับ คือในส่วนของความเร็ว CPU ที่นอกจากจะเป็น Core i5 520 ธรรมดาแล้ว เมื่อทำงานร่วมกับซอฟท์แวร์ Asus Hybrid Engine ในโหมด Super performance แล้ว ระบบจะทำการปรับ Bus ไปที่ความเร็ว 142 จากเดิม 133 (จาก 2.4 เป็น 2.56GHz) ทำให้ระบบโดยภาพรวมนั้นเร็วกว่าเครื่องที่เป็น i5 520 ธรรมดาเล็กน้อย ดังการทดสอบที่ท่านจะได้เห็นดังต่อไปนี้ครับ

- Super PI 1m

เปิดมา Super PI พวก Core i7 notebook ก็หนาวไปแล้ว

- Cinebench R10

- Cinebench R11.5

คะแนนทั้งหลายๆจุดก็ออกมาในเกณฑ์ดีกว่าปกติครับ แต่คะแนนส่วนของกราฟฟิคก็อาจจะน้อยกว่าชาวบ้านที่เขาใช้ Discrete Graphics จาก ATI หรือ NVIDIA บ้าง ซึ่งก็ต้องมาวัดกันอีกทีถ้าหากเจอกับ GT425 ใน N43JF รุ่นวางขายจริงๆ

Sisoft Sandra

PCmark 05

ถึงจะเป็นกราฟฟิคอินติเกรต แต่ก็ปั่นคะแนน PCmark05 พอทำเนา คะแนนซีพียูก็ยังคงโดดเด่นตามสไตล์ Core i เช่นเคย

3Dmark06

คะแนน 3Dmark ก็ถือได้ว่าดีเลยทีเดียว คะแนนซีพียูช่วยไว้เยอะ

.

.

…Asus N43JF นั้นก็ถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊ก Mainstreme ชั้นดีอีกรุ่นหนึ่งจากแบรนด์ Asus ครับ ถึงแม้ว่าในตัวที่เราได้มาทดสอบนั้นจะไม่มีกราฟฟิคชิปแยกติดมาให้ก็ตามที แต่ประสิทธิภาพนั้นก็ถือได้ว่าทำออกมาได้ดี พอสำหรับการใช้งานทั่วๆไป รวมไปถึงงาน Content Creation เบาๆ หรือจะเล่นเกมเบาๆก็ย่อมได้ ตัวเครื่องขนาด 14 นิ้ว ที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในและนอกสถานที่ ซึ่งอาจจะต้องแบกน้ำหนักแล้วก็แลกมากับอายุแบตเตอร์รี่ที่อาจจะอยู่ได้ไม่สะใจเหมือนเครื่องเล็กๆนักครับ

…จุดเด่นของ N43JF นั้นจะอยู่ที่เรื่องของดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว ถือไปกางที่ไหนก็มีแต่คนมอง รวมไปถึงลำโพง ที่ให้คุณภาพเสียงค่อนข้างดี และการที่มีพอร์ต USB 3.0 ทำให้แน่ใจได้เลยว่าซื้อโน๊ตบุ๊กเครื่องนี้วันนี้ อนาคต ไม่ตกยุคตกเทรนด์กับอุปกรณ์ USB 3.0 ต่างๆที่กำลังจะเข้ามาแน่ๆครับ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องแลกมากับราคาเท่าที่ผมทราบ กับเครื่อง N43JF ที่ใช้ Core i5 460 กับ NVIDIA GT425 จะอยู่ที่ราวๆ 4xxxx ซึ่งก็ถือว่าสูงเมื่อเทียบจากเสป็ค ที่ดูแค่ซีพียู หรือกราฟฟิคการ์ด แต่ถ้าหากดูองค์ประกอบอื่นๆด้วยแล้ว ตั้งแต่เรื่องของ USB 3.0 และลำโพงชั้นดี ก็อาจจะสมเหตสมผล สำหรับใครหลายๆคนที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊ก Mainstreme ที่มี USB 3.0 อยู่ก็ได้ครับ

.

.

.

ขอขอบคุณ Asustek