Review : Asus RT-N12HP Wireless-N High Power Router
Share | Tweet |
การเข้าไปคอนฟิคนั้นทำได้ผ่านทางหน้าบราวเซอร์โดยในครั้งแรกจำเป็นจะต้องทำการเสียบสายแลนเสียก่อน โดยสามารถเข้าสู่หน้าเซ็ตอัพได้ผ่าน url ชื่อ www.asusrouter.com หรือจะเข้าทาง 192.168.1.1 ก็ได้เช่นกันครับ
การเลือกโหมดการทำงาน สามารถเลือกได้สามโหมด คือ Wireless Router เป็นโหมดมาตรฐานและ Access point mode ที่ตัวมันจะทำหน้าที่เป็นเพียงแค่ wireless switching hub และ Repeater mode ซึ่งการใช้งานเป็น repeater mode สามารถทำได้โดยการตั้งค่าให้มี SSID และ security key ให้ตรงกันกับ AP สัญญาณต้นทางครับ
หน้าต่างการใช้งานนั้นบอกได้เลยว่าเรียบง่าย และเข้าใจง่าย ตลอดจนสามารถปรับตั้งค่าได้ละเอียดพอสมควรเลยทีเดียวครับ หน้าแรกมี network map ให้ได้ดูกันอย่างเข้าใจง่ายๆดังภาพ ตลอดจนแสดงสถานะระบบพื้นฐานที่ควรทราบให้ได้เห็นกัน
แวะเข้ามาดูในส่วนของ log ระบบ ก็จะเห็นว่าแสดงรายละเอียดว่าทำงานอยู่ในโหมดไหน ซึ่งตรงนี้เนี่ยก็พอจะเดาได้เลยครับว่าตัวเฟิร์มแวร์นั้นเป็น Linux แน่นอน และจากที่ทราบมาเนี่ยเร้าเตอร์ของ Asus หลายๆรุ่น รวมไปถึงเจ้า RT-N12HP ก็ใช้ชิปของ Broadcom ซึ่งเป็นชิปยี่ห้อเดียวกับเร้าเตอร์แบรนด์ดังๆในหลายยุคหลายสมัยที่ผ่านมาด้วยครับ
สามารถ browse ดูเครือข่ายละแวกใกล้เคียงได้ในโหมด repeater ดูรายละเอียดชาแนลที่ใช้ได้ด้วย
นอกจากนี้มีฟีเจอร์ VPN พื้นฐาน เปิดให้สนับสนุน PPTP server และ Samba ได้อีกด้วย
DDNS ก็มีให้เลือกใช้โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องติดตั้งซอฟแวร์ที่ตัวคอมพิวเตอร์กันอีกต่อไป เท่าที่ดูก็ครอบคลุมหลายๆเจ้าที่ดังๆอย่าง no-ip ก็มีมาให้เช่นกัน
รองรับ IPV6
ระบบ Firewall สั่งบล๊อกเป็นรายไอพีไปได้ ตลอดจนบล๊อกไซต์ได้ด้วยเช่นกัน
ระบบ QOS บริหารจัดการความเร็ว ก็สามารถปรับตั้งได้ค่อนข้างละเอียดมากเลยทีเดียวครับ
สามารถให้ผู้ใช้ลอกอินใช้งานแบบ guest โดยที่ระบบจะทำการตัดออกภายในเวลาทีก่ำหนด
ส่วนอันนี้เป็น parental control สามารถควบคุมให้ผู้ใช้เฉพาะเครื่องหรือทุกๆเครื่องในวง สามารถเข้าถึงอินเตอร์เนทได้ในเวลาจำกัด หรือบล๊อกเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมได้
การปรับตั้งค่าพารามิเตอร์เกี่ยวกับไรเรสขั้นสูง สามารถทำการปรับกำลังส่งได้สูงสุดถึง "900mW" ซึ่งถือว่าสูงมากเลยทีเดียวครับ สมกับที่โฆษนาว่าเป็น High-Power / Extend range จริงๆ
.
.
…จะเห็นได้ว่าตัวผมเองไม่ได้ทำการทดสอบอะไรมากนักนอกจากรีวิวในส่วนของฟีเจอร์ให้ดู เพราะเรื่องพวกนี้ผมไม่มีเครื่องมือที่ใช้วัด signal strenght ได้อย่างแน่นอน ประกอบกับการทดสอบพวกนี้นั้นอาจจะมีสัญญาณรบกวนและปัจจัยที่เรามองไม่เห็นควบคุมไม่ได้อีกมาก
…มาว่ากันเรื่องของตัวไวเรสเร้าเตอร์ตัวนี้ เหมาะกับใคร ? ผมคิดว่าน่าจะเหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการ Wireless Router พื้นฐาน ที่เน้นเอาไว้ใช้งานแชร์อินเตอร์เน็ทเป็นหลัก เพราะว่าด่้วยความเร็วในการเชื่อมต่อขั้นพื้นฐานแบบ Wireless N 150mbps กับพอร์ต Ethernet 100mbps นั้นอาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่กับการนำไปใช้งานสตรีมมิงภาพยนตร์หรือคอนเทค HD ต่างๆกันเองภายในบ้าน และฟีเจอร์หลายๆอย่างที่ถึงแม้จะดูมีลูกเล่นมาก แต่สำหรับปี 2013 นี้เป็นยุคของ cloud computing เร้าเตอร์รุ่นท็อปๆแพงๆส่วนใหญ่ก็มักจะมีพอร์ต USB มาให้สำหรับการแชร์อุปกรณ์ต่างๆภายในเครือข่ายกันแล้ว
…เรียกได้ว่า ด้วยจุดแข็งของมันคือความเรียบง่ายในการนำไปใช้งาน ฟีเจอร์ที่มีแบบตรงไปตรงมา และกำลังส่ง ประกอบกับสายอากาศแท่งโตที่แถมมาให้นั้น น่าจะเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเร้าเตอร์ไวเรสพื้นฐานไว้ใช้งานภายในบ้านสำหรับแชร์อินเตอร์เนทเป็นหลัก หรือผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่ต้องการจะใช้งานเป็นตัวตั้ง hotspot หรือจะซื้อไว้เป็น range extender ใช้งานเป็น repeater mode อย่างเดียวก็น่าสนใจครับ และในอนาคตผมก็ไม่แน่ใจว่าจะมีเฟิร์มแวร์อะไรมาให้เล่นกันสนุกๆอีกหรือเปล่าด้วยความที่เฟิร์มแวร์ของมันเป็น Linux นี่ล่ะครับ