Review : Asus VIVOBOOK X202

…วันนี้สำหรับเนื้อหาในส่วนของโน๊ตบุค เราจะยังคงอยู่กับโน๊ตบุคจากค่าย Asus อย่าง Vivobook ที่ซึ่งเป็นโน๊ตบุคตระกูลใหม่จาก Asus ที่จะเป็นจอทัชสกรีน ในวันก่อนเราพูดถึง S400 ที่เป็นจอ 14 นิ้ว พร้อมซีพียูรุ่นประหยัดพลังงาน และสำหรับวันนี้จะเป็น X202 ขนาดจอ 11.6 นิ้วพร้อมกับซีพียู Core i3 รุ่นปกติครับ

…รายละเอียดของเครื่องส่วนใหญ่ก็มาแบบครบครันพอใช้งานได้ดีสำหรับโลกทุกวันนี้ครับ ซีพียูนั้นก็มาเป็นรุ่นกลางค่อนลงไปทางล่างอย่าง Core i3 3217U ที่เป็นรุ่นประหยัดพลังงานแบบเดียวที่เราจะพบได้ในอัลตราบุค แต่ใน X202 นี้จะไม่ได้ถือว่าเป็นอัลตราบุคนะครับเพราะว่าไม่มีฮาร์ดดิสก์ SSD ที่จะคอยช่วยในเรื่องของ Intel Smart Response (ทำให้บู้ตเครื่องได้เร็วขึ้น) ส่วนรายละเอียดอื่นๆนั้นก็คล้ายๆกับ S400 ทั้งการ์ดไวเรสแบบ N 150Mbps ตลอดจนพอร์ตเชื่อมต่อด้วย..

…styling โดยรวมนั้นเมื่อมองมุมนี้ ก็จะพบว่ามีสไตล์เรียบๆเช่นเคย อะลูมิเนียมแซมด้วยสีชมพูติดบรอนซ์อ่อนๆ ดูหรูหราน่าใช้งานพอสมควร

ตัวเครื่องหากมองกันจริงๆก็จะเห็นว่ามีความบางในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่ได้บางมากเพราะเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อที่ยังคงมีมาให้แบบครบๆ โดยภาพรวมขนาดเครื่อง 11 นิ้วนี้ก็น่าจะทำให้พกพาได้สะดวกพอสมควรเลยทีเดียว

…บอดี้ ส่วนฐานเครื่องนั้นก็ทำมาจากอะลูมิเนียมผิวเงาๆคล้ายๆกับด้านนอกตัวเครื่องครับ สีสันก็ไม่ได้มีการเล่นอะไรต่างจากภายนอกเลย ส่วนพื้นที่วางข้อมือและทัชแพดก็ทำออกมาได้ใช้งานได้สะดวกดี

…คีย์บอร์ดปุ่มแยกแบบที่คนยุคใหม่ที่คุ้นเคยกับคีย์บอร์ดที่มีน้ำหนักการกดไม่มากนัก ก็น่าจะชอบครับ จังหวะการกดนั้นมีความลึกกำลังดี และตอบสนองได้รวดเร็วฉับไวดี

…ทัชแพดในรุ่นนี้เป็นสิ่งที่สื่อนอกหลายๆเจ้าก็ต่างบอกกันครับว่ามันเป็นทัชแพดที่สามารถนำไปใช้กับระบบ Multitouch ได้ดี ตัวผมเองก็เห็นเป็นแบบนั้น ตลอดจนด้วยความที่มีขนาดพอเหมาะ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างไม่เขอะเขิน การลากเคอร์เซอร์ในหน้าวินโดวส์ปกติ ก็สามารถทำได้อย่างราบลื่น และมีความเป็นเชิงเส้นดีครับ

.

ด้านขวาก็จะพบกับ USB 2.0, DSUB และ SD Cardreader

…อีกด้านหนึ่งจะพบกับพอร์ต RJ45 , USB3.0 USB2.0 และ HDMI

ฝาหลังนั้นเช่นเดียวกับ S400 ตัวใหญ่กว่า พบว่าสามารถไขน็อตถอดออกมาได้ทั้งแผ่น ทำให้การถอดอุปกรณ์ทั้งการ์ดต่างๆและฮาร์ดดิสก์ และเมมโมรี สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

น้ำหนักเปล่าอยู่ที่ 1.4 กิโลกรัม

น้ำหนักเครื่องรวมสายชาร์จอยู่ที่ 1.55 กิโลกรัม

Performance

- รายละเอียดเครื่อง

รายละเอียดดูกันให้ชัดเจนสำหรับซีพียู Core i3 ตัวนี้ที่เป็นรุ่น ULV หรือที่เราจะคุ้นเคยกันในปัจจุบันในชื่อรหัสที่จะลงท้ายด้วยเลข 7 พร้อม L3 cache 3MB และเมมโมรีขนาด 4GB ด้วยกันและกราฟฟิค Intel HD4000

Super PI 1M

เรามาดู Super PI 1M ก็พบว่าตอกเวลาไปที่ 21.3 วินาที ซึ่งอาจจะรู้สึกช้าๆกว่า Core i5 ในรุ่นปกติและรุ่นประหยัดไฟพอสมควร เพราะ i3 ตัวนี้จะไม่สามารถเร่งความเร็วแบบ turbo boost ในงาน single task แบบนี้การทดสอบนี้ได้ครับ

Cinebench R10

Ciebench R11.5

คะแนนผลทดสอบ Cinebench ถือว่าทำได้พอสมควร คะแนนซีพียูถึงแม้จะไม่แรงกระฉูดมาก แต่ก็น่าจะพอพึ่งพาได้ครับ

AIDA64 Benchmark

CACHE & MEMORY BENCHMARK

ฃ

DISK BENCHMARK

ฮาร์ดดิสก์ความเร็วก็อยู่ในระดับกลางๆ พื้นๆสำหรับพวก 5400RPM ทั่วไปครับ

Batterry Eater (100-5%) ทดสอบในโหมดประหยัดพลังงาน

…การทดสอบ ล็อคความเร็วซีพียูในโหมดประหยัดพลังงานให้ได้ความเร็วต่ำที่สุด 50% และ ทดสอบด้วยโปรแกรม Batterry Eater ในโหมด Classic ซึ่งซีพียูและกราฟฟิคจะทำงานเต็ม 100% เวลาที่ได้ สามารถบ่งบอกได้ถึงเวลาที่สามารถนำเครื่องออกไปใช้งานในสถานการณ์จริงได้ ค่อนข้างใกล้เคียง

http://vmodtech.com/main/wp-content/uploads/northbridge/asusvivobook116/b/8_11_2012_1/Report.html

134 นาที หรือ 2 ชั่วโมง 14 นาที ซึ่งถือว่าทำได้กลางๆค่อนไปทางน้อยครับสำหรับเครื่องที่เราน่าจะคาดหวังการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าแบบ นี้

PCMark 05

คะแนน PCMark 05 อาจจะดูด้อยๆลงไปบ้างเมื่อเทียบกับเครื่องสมัยนี้ คงจะเพราะเรื่องของซีพียู Core i3 ที่ความเร็วนั้นไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็ถือว่าพอใช้งานได้ครับ

3Dmark06

3Dmark11

คะแนน 3Dmark นั้นก็เรียกได้ว่าดีกว่าที่คิดด้วยพลังของ HD4000 ไม่ได้แย่ไปตามเหมือน PCmark

.

….สมรรถนะ ส่วนใหญ่เท่าที่ทดสอบออกมา อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างต่ำ สำหรับคนที่มองเครื่องแบบนี้ ผมคิดว่าควรจะเป็นผู้ที่ต้องการเครื่องเบสิก ที่สามารถใช้งานอินเตอร์เฟส และลูกเล่นใหม่ๆของจอทัชสกรีนและ Windows 8 ได้อย่างลื่นไหล แต่ถ้าจะหวังเอาพลังซีพียูแรงๆไปใช้ตัดต่อวีดีโอหรือเล่นเกม เครื่องเล็กๆแบบนี้ ก็คงจะไม่เหมาะนักครับ

….จุดเด่นหลายๆอย่างคงจะเป็นเรื่องของจอทัชสกรีนและทัชแพด ที่ให้การตอบสนองที่ดีมากเหมือนๆกับ S400 ตลอดจนลำโพง SonicMaster ที่ให้ซุ่มเสียงดีเหมือนๆกับ S400 มีการแยกชาแนลและสร้างมิติของเสียงได้ดีมากๆ วัสดุที่ใช้ก็จัดได้ว่าดูดี เรียกได้ว่าดูหรูหราใช้งานทั่วไปได้ดี ในราคาที่ผมคิดว่าน่าจะป้วนเปี้ยนอยู่ราวๆสองหมื่นต้นๆเท่านั้น

….จุดที่ผมคิดว่าน่าจะต้องปรับปรุงและน่าผิดหวังมากคือเรื่องของแบตเตอร์รี่ที่น่าจะทำผลงานได้ดีกว่านี้สำหรับเครื่องเล็กๆแบบนี้ ถ้าแก้ตรงนี้ได้ ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นโน๊ตบ๊กขนาดเล็กที่น่าใช้มากๆตัวหนึ่งเลยทีเดียวครับ

.

.

ขอขอบคุณ Asus