…ห่าง หายจากการรีวิวปรินท์เตอร์ และมัลติฟังก์ชั่นไปนานพอสมควรครับ วันนี้ผมกลับมาพร้อมกับ MFC-J2310 จาก Brother ซึ่งเป็นมัลติฟังก์ชั่นแบบอิงค์เจทในตระกูล InkBenefit (ตลับหมึกมีราคาคุ้มค่า) โดยตัวเครื่องนั้นมีความสามารถในการพิมพ์ภาพและเอกสารสี สแกนเอกสารสีขนาด A4 ด้วยสแกนเนอร์แบบ flat bed ตลอดจนถ่ายสำเนาเอกสารสีและขาวดำ โดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์ และ FAX ตลอดจนรองรับการเชื่อมต่อใช้งานผ่านทางระบบ WiFi และ LAN ผ่านสายแบบปกติ และมีฟีเจอร์ที่เน้นความคล่องตัวในการทำงานโดยไม่ต้องทำผ่านคอมพิวเตอร์อีก มากมาย ซึ่งเราจะได้ลองมาชมกันครับ

ตัว เครื่องนั้นก็มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนักครับ ตลอดจนน้ำหนักก็เรียกได้ว่า ใช้คนเดียวยกได้สบายๆ รูปทรงก็เหมือนจะเป็นเครื่องแนวๆ home office

ตัว เครื่องด้านหน้าจะเป็นแผงคอนโทรลต่างๆ ดูเรียบร้อยสวยงาม เพราะปุ่มส่วนใหญ่นั้นถูกซ่อนไปเป็นปุ่มแบบสัมผัสเกือบทั้งหมด ยกเว้นปุ่มเพาเวอร์ครับ และจะเห็นหน้าจอสัมผัสขนาด 1.8 นิ้ว อยู่บริเวณแผงคอนโทรลหน้าเครื่อง

แผงด้านหน้า สามารถยกขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับการสั่งการจากมุมสูง คือยืนใช้งานได้ด้วยครับ

พอร์ ตด้านหน่้าเครื่อง มีมาให้ค่อนข้างครบครันตามแบบของปรินเตอร์มัลติฟังชั่้นสมัยใหม่ ทั้งสลอตใส่การ์ดทั้ง MS และ SD และพอร์ต USB สำหรับเสียบอุปกรณ์ storage ทั่วไป หรือกล้องถ่ายรูป ที่รองรับเทคโนโลยี PictBridge ครับ

ด้านหลังเครื่องก็จะเห็นถาดสำหรับใส่กระดาษ bypass

โดย ถาดใส่กระดาษ by pass นี้สามารถใส่กระดาษได้หลากหลายขนาด ได้ใหญ่สุดถึงขนาด A3 กันเลยทีเดียวครับ  เรียกได้ว่าเครื่องจิ๋ว แต่ความสามารถไม่จิ๋วตาม ใช้สอยพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า

…ใน ด้านของระบบการพิมพ์ ตัวเครื่องรองรับการพิมพ์สีด้วยน้ำหมึก ความละเอียด 1200×6000 DPI และรองรับการถ่ายเอกสารความละเอียด 1200×1200DPI ตลอดจนรองรับการพิมพ์แบบ Duplex printing คือพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติจากถาดกระดาษหลัก โดยที่ถาดกระดาษหลักด้านหน้า สามารถจุกระดาษ A4 ได้มากสุด 150 แผ่นครับ ส่วนความเร็วขาวดำอยู่ที่ 18PPM และสีที่ 16PPM ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ปานกลาง ค่อนไปทางเร็ว สำหรับปรินเตอร์อิงค์เจท

…การ พิมพ์นั้นตัวเครื่องสามารถสั่งพิมพ์เอกสาร PDF และภาพ JPG ได้โดยตรงผ่านตัวเครื่อง ไม่ว่าจะสั่งพิมพ์จากกล้องถ่ายรูป เมมโมรีการ์ด แฟลชไดร์ฟ หรือแม้กระทั่งสั่งพิมพ์ภาพออนไลน์ผ่านเฟซบุค ก็สามารถทำได้เช่นกันผ่านทางการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทด้วย WiFi หรือสายแลนครับ

…สแกนเนอร์ นั้นก็เป็นแบบ Flat Bed ที่เราคุ้นเคยกันดี ความละเอียด 2400×2400DPI และสามารถทำ interpolated scan ได้ถึง 19200×19200DPI ซึ่งตัวสแกนเนอร์ มีประโยชน์นอกจากจะไว้สำหรับสแกนเอกสารลงพีซี หรือใช้แฟกซ์ หรือจะถ่ายเอกสารทั่วๆไปแล้ว ตัวปรินเตอร์เองตัวเดียว ยังสามารถทำการสแกนและเซฟไฟล์ออกมาเป็น JPG หรือ PDF แล้วอัพโหลดขึ้นไปบนบริการออนไลน์อย่าง facebook dropbox หรือบริการ cloud อื่นๆ หรือถ้าหากไม่อยากอัพโหลด ก็สามารถเซฟลง storage ที่อยุ่ด้านหน้าเครื่องได้เช่นกันครับ

ฝา เครื่องด้านบนเรียกได้ว่า ยกขึ้นมาไม่ยากเท่าไร ตัวฝานั้นมีน้ำหนักพอสมควร เพราะจะต้องทำการยกตัวสแกนเนอร์ขึ้นมาด้วย จึงทำให้มีขาตั้งค้ำฝาที่จะยกตัวขึ้นมาเองระหว่างยกฝา ที่สามารถใช้งานได้ดีเลยทีเดียวครับ

การ เชื่อมต่อในเครื่องรุ่นนี้ เรียกได้ว่าเก็บรายละเอียดมาได้เรียบร้อย เพราะสายระโยงระยางต่างๆ จะต้องถูกเก็บเข้ามาภายใต้ฝาตัวนี้ ทั้งสาย แลน สายโทรศัพท์ หรือสาย USB หากต้องการจะใช้ เพราะเอาเข้าจริงๆแล้ว การใช้งานจริงสำหรับออฟฟิศสมัยใหม่ ก็น่าจะใช้งานกันผ่านทาง WiFi น่าจะสะดวกและรวดเร็วกว่าครับ

ตลับ หมึก ก็มีการแยกเป็นระบบ 4 สี คือ CMYK โดยตลับมาตรฐานของแต่ละสี จะสามารถใช้งานได้ 600 แผ่น และตลับ high yield จะใช้งานได้ 1200 แผ่น เรียกได้ว่าความจุระดับ 1200 แผ่น น่าจะพอเทียบเท่าได้กับเลเซอร์ปรินเตอร์เครื่องเล็กๆกันเลยทีเดียวครับ ซึ่งจากการ "จำได้" ของผู้รีวิว ตลับหมึกแต่ละตลับนั้น มีราคาไม่แพงเลย ราวๆ 400 บาทต่อตลับเท่านั้นครับ เรียกได้ว่า เปลี่ยนตลับยกเซ็ตทีหนึง ก็เป็นเงินราวๆ 1600 บาท  เท่านั้นครับ

หน้า จอสัมผัสขนาด 1.8 นิ้ว ที่ให้สีสันที่พอใช้งานได้ และความละเอียดที่ยังไม่มากนัก แต่ก็สามารถใช้สั่งการได้สะดวกดีเลยทีเดียวครับ ตัวระบบสัมผัสบนจอยังเป็นแบบ resistive (ใช้เล็บจิ้มได้) และส่วนปุ่มคอนโทรลด้านขวามือ เป็นระบบสัมผัสแบบต้องใช้นิ้วจิ้มอย่าเงดียวเท่านั้นครับ (capacitive)

.

บริการ ออนไลน์ต่างๆ ส่วนใหญ่จะสามารถใช้การได้ทั้งการอัพโหลดไฟล์จากสแกนเนอร์ขึ้นไป หรือจะดาวโหลดไฟล์ลงมาเพื่อทำการสั่งพิมพ์ ซึ่งผมได้ทำการสาธิตการใช้งานไว้ในคลิปวีดีโอ ที่ได้ทดลองอัพโหลดไฟล์ภาพที่สแกนขึ้นไปบน dropbox ครับ

สำ หรับฟีเจอร์การสั่งปรินท์ไฟล์จากระบบออนไลน์ ผมทดลองใช้ไฟล์ PDF ในการพิมพ์ ปรากฏว่ามันไม่สามารถแสดง preview ให้ได้เห็นได้ คงจะเพราะจอนั้นความละเอียดคงจะไม่มากพอจะแสดง ซึ่งการสั่งพิมพ์ผมได้ทดลองให้ดูไว้ตามคลิปวีดีโอเช่นกัน

.

.

…เรียก ได้ว่าเป็นปรินเตอร์ที่มีความสามารถในการใช้งานที่รอบด้าน ในราคาที่ไม่แพง (ราว 8000 บาท) ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ก็ไม่ได้แพงจนเกินไป ลูกเล่นต่างๆที่มีมาให้อย่างการเชื่อมต่อ WiFi นอกจากจะทำให้สามารถใช้่งานปรินเตอร์โดยไม่ต้องต่อสายได้สบายๆแล้ว ยังทำให้สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทเพื่อใช้งานระบบคลาวด์ และการสั่งพิมพ์ออนไลน์ ตลอดจนอัพโหลดไฟล์จากสแกนเนอร์ได้ง่ายๆอีกด้วยครับ สเป็คในด้านการพิมพ์ ก็เรียกได้ว่าสมเหตุสมผลกับราคาดีครับ

…สิ่งที่พูดมา ดูเหมือนจะเป็นข้อดีของ MFC-J2310 ทั้งหมด แต่ในข้อดี ก็มีข้อเสียของมันอยู่ครับ คือความที่มันเป็นเครื่องที่มีความสามารถรอบด้าน ในราคาที่ไม่ได้แพงมากนัก รายละเอียดการใช้งานบางอย่าง เช่นหน้าจอ อาจจะมีขนาดเล็กเกินไปเสียหน่อย ซึ่งผมก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นเรื่องของการปรับสเป็คให้เหมาะสมกับราคาขายและ ต้นทุน ตลอดจนเรื่องของระบบ FAX ที่ผมไม่ได้พูดไว้แต่แรก ว่าตัวนี้ สามารถส่ง FAX ได้ด้วยตัวมันเอง แต่ถ้าจะทำการรับ FAX ต้องรับผ่าน PC ที่เชื่อมต่ออยู่กับตัวเครื่องด้วยเท่านั้น ไม่สามารถตอบรับอัตโนมัติได้ ซึ่งตรงนี้ทาง Brother ก็ได้เคลมไว้ว่า มีระบบป้องกัน FAX ขยะที่จะส่งมาในสำนักงานของเราอยู่ในซอฟท์แวร์บนพีซี ซึ่งก็น่าจะเป็นประโยชน์ไปอีกอย่าง แล้วแต่เราจะมองครับ