…ในตอนก่อนๆนี้เราได้สัมผัสถึงความคล่องตัว รูปลักษณ์ และความสวยงามของตัวถังของเจ้า Aspire S3 มาแล้ว มาถึงตอนสุดท้ายของบทความรีวิวเครื่อง Acer Aspire S3 กันแล้วนะครับ สำหรับในส่วนนี้ผมจะพูดถึงความสามารถเชิงประสิทธิภาพ ฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่เกี่ยวกับการใช้งานกันครับ

…Aspire S3 รุ่นที่ผมได้รับมาทดลองใช้งานนั้นเป็นรุ่นที่ใช้ขุมพลังเป็น Intel Core i5 โดยที่รุ่นที่ขายจริงๆนั้นก็จะมีให้เลือกอีกครับว่าท่านจะอยากได้เป็นรุ่น Intel Core i3 / i5 / i7 ซึ่งประสิทธิภาพก็คงจะลดหลั่นหรือเพิ่มขึ้นตามกันไปตามโมเดลนัมเบอร์ (ตัวเลข) ที่ทางอินเทลใช้

คำอธิบายภาพ : แสดงรายละเอียดของขุมพลังและประสิทธิภาพเบื้องต้น บน windows 7 คะแนนระดับนี้ถือได้ว่าทำได้ดีเลยทีเดียวสำหรับเครื่องแล็ปทอปขนาดบางเบา ประหยัดไฟขนาดนี้ครับ

…จะสังเกตได้ว่าโลโก้ Intel Core i5 ในภาพที่อินเทลใช้นั้นจะมีลักษณะเป็นสีเทา ติดข้างๆกับโลโกวินโดวส์ 7 ซึ่งโลโกสีเทาดังกล่าวนั้นแสดงให้เห็นว่า ชิปซีพียู และระบบปฏิบัติการ ในเครื่องนั้นๆ ถูกปรับปรุงมาโดยเฉพาะเพื่อให้ความเร็วและยืดหยุ่นในแบบที่ Ultrabook ต้องเป็นครับ ซึ่งประสิทธิภาพจริงๆแล้วเรียกได้ว่า สูสีคู่คี่ กับคอมพิวเตอร์แล็ปทอปทั่วๆไปไม่ได้ห่างกันมากเลยครับ โดยเฉพาะรุ่น Core i7 ที่เรียกได้ว่าประสิทธิภาพเหนือกว่าแล็ปทอปราคาตลาดๆทั่วไปเสียด้วยซ้ำ และแน่นอนว่า ultrabook จาก Acer ในทุกๆรุ่นนั้นจะทำการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 7 Home Premium ของแท้มาให้จากโรงงานครับ

…ผมทดลองใช้โปรแกรม Cinebench R11.5 ซึ่งโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องที่ให้คะแนนที่น่าเชื่อถือ มีกระบวนการทดสอบด้วยการเรนเดอร์ภาพสามมิติความละเอียดและแสงเงาที่ซับซ้อน ก็พบว่าคะแนนที่ได้ โดยเฉพาะในส่วนของ CPU นั้นออกมาค่อนข้างดี คะแนนระดับ 1.8 คะแนนสำหรับโปรแกรมนี้ เรียกได้ว่าดีมากสำหรับการใช้งานทั่วๆไป และยังสามารถนำไปใช้ในงานตัดต่อวีดีโอหรืองานประมวลผลหนักๆได้อย่างรวดเร็วอีกด้วยครับ

…มาถึงจุดเด่นของ Aspire S3 ที่เรียกได้ว่าไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว ก็คือพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆที่มีมาให้ครบครันเหมือนๆกับคอมพิวเตอร์โนตบุคทั่วๆไป ตั้งแต่ USB ที่มีมาให้ถึงสองพอร์ตด้วยกันด้านหลัง และ HDMI สำหรับการต่อสัญญาณภาพออกจอจำพวก LCD TV ขนาดใหญ่ๆ หรือจะเอาไว้ต่อออกโปรเจ็คเตอร์รุ่นใหม่ๆ หรือถ้าหากที่ออฟฟิศของคุณยังคงใช้โปรเจ็คเตอร์ที่ใช้พอร์ตแบบ VGA อยู่ ก็สามารถหาตัวแปลง HDMIàVGA มาใช้งานได้ไม่ยากครับ

…นอกจากพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ Aspire S3 ยังมาพร้อมกับตัวอ่านเมมโมรีการ์ดแบบ SD/MMC ซึ่งเป็นเมมโมรีการ์ดที่เป็นพื้นฐานที่สุดในโลกของการถ่ายภาพดิจิตอล กล้องดิจิตอลส่วนใหญ่จะใช้เมมโมรีการ์ดแบบนี้ ซึ่ง S3 ก็สามารถเสียบอ่านได้เลย

…และสุดท้ายที่มีมาให้ใน Aspire S3 คือแจ๊คหูฟังแบบ 3.5mm ใช้งานได้กับหูฟังแบบพกพาทั่วไป จะเห็นได้ว่าถึงแม้เครื่อง Aspire S3 นั้นจะมีความบางเพียงแค่ 13มิลลิเมตร แต่ก็จัดเต็มทั้งในแง่ประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกได้ดีเลยทีเดียว

…อีกจุดหนึ่งที่เรียกได้ว่าน่าประทับใจมากสำหรับเครื่องขนาดบางๆแบบนี้ ก็คือระบบเสียงที่ได้รับการประทับตรา Dolby Home theater V4 เท่าที่ทดลองใช้งานดูก็พบว่าลำโพงของ Aspire S3 นี้มีน้ำเสียงที่ค่อนข้างดีกว่าลำโพง แล็ปทอปมาตรฐานทั่วไปอยู่พอสมควร และความดังก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ นอกจากนี้ระบบเสียง Dolby Home Theater V4 นั้นจะทำการจำลองระบบเสียงแบบ Surround แบบหลายทิศทาง ด้วยลำโพงภายในเครื่องโน๊ตบุ๊ค ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวนี้ก็น่าจะทำให้การดูหนังหรือฟังเพลงระหว่างการเดินทางพกพาเครื่อง Aspire S3 ไปใช้นั้น ทำได้เต็มอารมณ์กันเลยทีเดียว

…มาถึงจุดนี้แล้วผมก็ขอพูดเลยครับว่า Ultrabook จาก Acer ในรุ่น Aspire S3 นั้นเป็นเครื่องแล็ปทอป Ultrabook ที่มีความลงตัวในการใช้งาน แบบที่เราสามารถเรียกมันได้เต็มปากว่ามันเป็นแล็ปทอปเพื่อการพกพาที่แท้จริง ในขณะที่ยังคงประสิทธิภาพที่ดีเหมือนๆกับเครื่องแล็ปท็อปขนาดใหญ่ๆทั่วไป แต่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ ไม่หนักอย่างที่คิดเลยครับ สำหรับวันนี้ก็คงต้องลาไปก่อน สวัสดี

ใ

…สุด ท้ายนี้ทางผมและทีมงานก็ขอฝากรีวิวตอนที่หนึ่งและตอนต่อๆไปจากนี้ ให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้มีส่วนร่วมสนุก ด้วยการช่วยกันเขียนคำนิยามของ Acer Aspire S3 เกี่ยวกับ Features เด่นที่พูดถึงในบทความนี้ ที่คอมเมนต์ Facebook ทางด้านใต้ของบทความ และนิยามคอมเมนต์ไหน มีผู้กด Like มากที่สุด 3 ท่านแรก รับไปเลยครับง่ายๆกับตั๋วชมภาพยนตร์จำนวน 3 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่งด้วยกันครับ ช่วยกันแชร์บทความนี้ไปให้เพื่อนๆท่านช่วยกันกด Like นิยามของท่านกันตั้งแต่วันนี้จนถึงวันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2555 เวลา 00.00 น.นี้ ก็จะนับ Like ตัดสินกันเลยนะครับ ของรางวัลแบบนี้ก็จะมีมาให้ท่านผู้อ่านได้ลุ้นรับกันง่ายๆในทุกๆตอนของรีวิว Acer Aspire S3 นะครับ