Review : CM Storm Trooper
Share | Tweet |
…ผ่านไปเป็นเวลานานในระดับหนึ่งแล้วครับที่ CoolerMaster ได้ริเริ่มแบรนด์ CM Storm แบรนด์ลูกของทาง Cooler Master ที่เน้นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ Gaming ทั้งอุปกรณ์ต่อพ่วง และเคสคอมพิวเตอร์ที่แยกไลน์ออกจากเคส CoolerMaster ตามประเพณีเดิมๆของค่ายนี้ ในวันนี้ผมได้รับเคสขนาด Full Tower ภายใต้แบรนด์ CM Storm ที่มีชื่อคล้ายๆกับรถยนต์ตรวจการอเนกประสงค์สมัยยุค 90’s ของอีซูซุ หลายท่านคงกำลังเกาหัวแครกๆว่าผมพยายามจะเล่นอะไร ก็จะได้เฉลยให้ว่ามันคือ “TROOPER” นั้นเองครับ :D
…คอนเซ็ปต์การออกแบบของ CM Storm Trooper นั้นเรียกได้ว่าออกแบบมาในมาดบึกบึน ทะมัดทะแมงสไตล์ทหาร ผมเข้าใจว่าคำว่า Trooper นั้นน่าจะมาจากคำแนวๆ “Troops” ที่แปลว่ากองทหาร ทำให้ดีไซน์ของเจ้าเคสเหล็กฟูลทาวเวอร์น้ำหนัก 13.7กิโลกรัม ตัวนี้ หนักแน่นทั้งดีไซน์และประโยชน์ใช้สอย ซึ่งแล้วเราจะมาดูกันครับ
…จะเห็นได้ว่าถึงแม้ดีไซน์ส่วนใหญ่จะเน้นเหลี่ยมสันที่บึกบึนและสวยงาม แต่ก็มีการลบเหลี่ยมมุมได้อย่างสวยงาม อีกทั้งฝาด้านข้างซ้ายมือที่จะเป็นเหมือนฝาที่ไว้เปิดรับการแก้ไขอัพเกรดอุปกรณ์ ก็ออกแบบมาให้มีลักษณะเป็นแผงรังผึ้ง ที่ฉีกแนวทิศทางการระบายอากาศของเคส ATX รุ่นเก่าๆไปเลย ด้วยการอัดลมเข้าจากทางด้านข้างได้เต็มที่
…อีกหนึ่งจุดที่ตอกย้ำความเป็นแบรนด์เกมเมอร์คือบริเวณ bay ด้านหน้านี้ ชุดล่างสุดนั้นจะเป็น Bay ที่มีลักษณะภายในเป็นลิ้นชัก มีแอสเซสเซอรี่จำพวกสกรูหรือที่ยึดจับฮาร์ดดิสก์สำหรับช่อง 5.25 หรือจะไว้สำหรับเก็บของลับของเกมเมอร์แต่ละคน เป็นฟีเจอร์ที่ดูแล้วบางคนคงจะมองว่ามันไม่มีประโยชน์อะไร แต่เรียกได้ว่าก็เป็นเรื่องสร้างสรรค์ดีครับ ซึ่งการถอดออกมาในครั้งแรกนั้นค่อนข้างซับซ้อน ทำได้โดยการเปิดฝาปิดด้านหน้า bay ออกมาแล้วใช้ไขควงที่ต้องเป็นหัวแฉกแบนๆเล็กๆเสียหน่อย ซึ่งผมไม่มี จึงไม่สามารถถอดออกมาให้ได้ชมกันได้ครับ
…มาดูด้านบน ตัว 5.25″ bay นั้นจะมีลักษณะเป็นรังผึ้งอีกเช่นเคย และมีฟิลเตอร์กันฝุ่น ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Trooper ที่จะมีการติดตั้งฟิลเตอร์กันฝุ่นมาให้ในแผงรังผึ้งหลายๆจุดที่มีการติดตั้ง และไม่ติดตั้งพัดลมมาให้ ซึ่งเราจะมาตามดูกันต่อไปครับว่ามีอยู่ตรงไหนบ้าง
…ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็มีมาให้อย่างจุใจทั้ง USB3.0 สองพอร์ต (แบบใช้สายโยงไปด้านหลังเคส) USB2.0 อีกสองพอร์ต eSATA และ Audio in/out นอกจากนี้ยังมีช่อง xDOCK ที่ไว้สำหรับเสียบฮาร์ดไดร์ฟแบบ SSD และสามารถทำ Hot swap ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปิดฝาเคสออกมา
…มาดูฝาข้างกันจะจะ จะเห็นว่าตะแกรงรังผึ้งนั้นจะมีความถี่มากกว่าปกติ ซึ่งนั้นคือการออกแบบของทาง CM ครับ ฝาด้านข้างจะไม่มีตะแกรงกันฝุ่น เพราะไม่ได้มีการติดตั้งพัดลมอะไรมาให้โดยมาตรฐาน แต่จะมีตะแกรงรังผึ้งสองชุด วางซ้อนกันอยู่ทำให้ซี่รังผึ้งนั้นดูถี่กันมากขึ้น
…ด้านบนนั้นทำออกมาได้น่าสนใจตรงหูจับที่ไม่ใช่เป็นแค่หูจับพลาสติกเอบีเอส หรือเหล็กธรรมดาๆ แต่หุ้มด้วยวัสดุที่เป็นยางสังเคราะห์ ทำให้ขณะที่ยกเคสที่เมื่อประกอบเสร็จแล้วอาจมีน้ำหนักเกือบจะเท่าแกสแอลพีจีถัง 15kg ในครัวเรือนนั้นเป็นไปอย่างสะดวกสบายขึ้นเล็กน้อย (ทำให้ไม่เจ็บมือ)
ฝาอีกด้านหนึ่งก็มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่จะมีช่องอากาศเพียงแค่บริเวณติดตั้งฮาร์ดไดร์ฟเท่านั้น
ด้านหลังนั้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อน แผงปิด expansion slot นั้นก็เป็นเหล็กวัสดุแบบเดียวกับตัวเคส พร้อมเจาะเป็นตะแกรงเพื่อคุณสมบัติในการถ่ายเทอากาศ
…ภายในโอ่โถงกว้างขวางตามสไตล์เคสแบบ Full size tower จะเห็นได้ว่ามีการออกแบบมาให้ง่ายต่อการจัดการเดินสายภายในเคสเป็นอย่างมาก ซึ่งหลักๆคือความสามารถในการเดินสายลอดไปบริเวณด้านหลังแผงเมนบอร์ด ที่ฝาเคสนั้นจะปูดออกมาเล็กน้อยเพื่อรองรับสายเพาเวอร์มหาศาลที่จะต้องเดินลอดเลื้อยผ่านหลังเมนบอร์ดไป รวมไปถึงสายสัญญาณต่างๆก็สามารถเก็บลอดเอาไว้ผ่านรูที่ถูกปกปิดด้วยแผ่นยางไว้ได้ด้วยเช่นกัน
…นอกจากนี้ยังรองรับการติดตั้งไดร์ฟแบบ SSD เพิ่มเติมจากบริเวณสำหรับ xdock ด้านบนอีกด้วย
ด้านใต้นี้เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่มีการติดตั้งแผงกันฝุ่นที่สามารถดึงออกไปทำความสะอาดได้มาให้
…เคสตัวที่ผมได้รับมานั้น จะมีการคอนฟิคชุดถาดติดตั้งฮาร์ดไดร์ฟแบบ 3.5 นิ้วมาในแนวขวางเข้ากับหน้าเคส นั้นหมายความว่า หน้าเคสจะไม่มีพัดลมดูดอากาศเข้า แต่จะมาดูดเข้าทางด้านข้างนี้แทนด้วยพัดลมขนาด 120mm สองตัวด้วยกัน เคสตัวนี้สามารถติดตั้งฮาร์ดไดร์ฟขนาด 3.5 นิ้ว ได้ถึง 8 ตัว(รวมการติดตั้งที่แปลงจากช่อง 5.25″) และหากจะติดตั้ง SSD ขนาด 2.5นิ้ว ก็สามารถติดตั้งกันรวมทั้งหมดถึง 13 ตัวด้วยกันครับ
การถอดถาดฮาร์ดดิสก์นั้นผมยังถือว่าทำได้ค่อนข้างยากอยู่ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ไขควง คือต้องทำการหมุนน็อตออกถึง 4 ตัว คือด้านข้างสองตัว และด้านหน้าตรงพัดลมอีกสองตัว ถึงจะสามารถดึงออกมาได้
…ด้านบนนั้นจะมีพัดลมขนาด 200mm รอบทำงานต่ำเอาไว้ดูดอากาศออกพร้อมมี air filter ที่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้เช่นกัน ส่วนด้านหลังจะเป็นพัดลมขนาด 140mm ดูดอากาศออกเช่นเดียวกับด้านบน
…หน้าตาของเคสเมื่อทำการติดตั้งเมนบอร์ดลงไปเรียบร้อย เหลือพื้นที่ให้ดูกันต่างหน้าก่อนที่จะทำการติดตั้งกราฟฟิคการ์ดยาวๆ พร้อมทั้งสายเคเบิลต่างๆที่จะระโยงระยางไปทั่วเมนบอร์ด แต่ก็คงจะสามารถจัดการได้เรียบร้อยดีด้วยการลอดเอาไปเก็บไว้ด้านหลัง รวมไปถึงการหันฮาร์ดไดร์ฟออกในแนวขวางกับตัวเคสนั้นน่าจะส่งผลดีต่อการจัดสายสัญญาณของมันด้วยเช่นกัน
.
.
…สรุปความคิดเห็นของผมต่อเจ้า Trooper ตัวนี้ ผมคิดว่ามันเป็นเคสที่บึกบึน งานประกอบเนี้ยบตามสไตล์ของ Cooler Master ดีอยู่แล้วแบบไม่ต้องติอะไรกันให้มากในประเด็นนี้ ดีไซน์นั้นเรียกได้ว่าน่าจะถูกใจคนที่ชอบอะไรที่ดูเรียบๆแต่ยังคงมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอยู่บ้าง หรือใครที่ชอบเคสลูกเล่นเยอะๆก็คงน่าจะถูกใจเจ้า Trooper การออกแบบลูกเล่นต่างๆผมขอเรียกว่า ออกแบบมาได้ชาญฉลาดเลยทีเดียว แต่การติดตั้งอุปกรณ์หลายๆอย่างเช่นถาดใส่ของจุกจิกที่สามารถดึงได้จากหน้าเคส ทำไมต้องขันน็อตไว้เสียแน่นหนาขนาดนี้ ? ผมถอดไม่ออกจริงๆเพราะไม่มีไขควงอันเล็กๆเลย ณ ตอนนี้ ไหนจะเรื่องของแผงติดตั้งฮาร์ดไดร์ฟในตัวเคสที่ผมได้รับมา ที่ผมคิดว่าคงจะมีสกรูยึด เยอะไปเสียหน่อย กว่าจะถอดออกมาได้ก็คลำหาสกรูกันเหงือกแห้งเลยทีเดียว
.
.