Review : CoolerMaster USP100
Share | Tweet |
…สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน หลังจากที่ห่างหายกันไปนาน ก็กลับมาพบกับผมอีกเช่นเคยกับรีวิวอุปกรณ์คอมพิวเตอร์กับอีกหนึ่งแบรนด์ดังจากไต้หวัน อย่าง CoolerMaster นั้นเอง ซึ่งหลายๆท่านก็คงจะรู้จักแบรนด์นี้กันดีกับผลิตภัณฑ์จำพวกเคสที่ดังๆในอดีต อย่าง Centurion 5 หรือเคสราคาประหยัดอย่าง ELITE หรือจะเป็นเคสระดับท๊อปอย่าง HAF-X ซึ่งที่เราได้เคยนำเสนอไปในช่วงเดือนก่อนๆมาแล้วนั้นเองครับ ซึ่งสำหรับในวันนี้ก็จะเป็นคิวของ USP100 ที่ซึ่งเป็นเคสเหล็ก ประหยัดราคา แต่ไม่ประหยัดคุณภาพและงานประกอบ ที่มีดีไซน์ไปในทิศทางเดียวกับตัว HAFX มาให้ได้ชมกัน
Specifications
Available Color | Front bezel: red / Case body: black |
Material | Body: steel / Bezel: mesh and plastic |
Dimension (W / H / D) | 214 x 483 x 508 mm / 8.43 x 19.02 x 20 inch |
Weight | Net Weight: 7.2 kg/ 15.87 lbs |
M/B Type | Micro-ATX / ATX |
5.25″ Drive Bay | 4 Exposed |
3.5 Drive Bay | 6 Hidden 1 Exposed |
I/O | USB 2.0 x 2 , MIC x 1, Audio x 1 (supports HD audio) |
Expansion Slots | 7 |
Cooling System | Front: 120 x 25mm fan x 1 / Red LED / 1200 RPM / 19 dBA (pre-installed) Bottom: 80 / 90 / 120 mm fan x1 (optional) Rear: 80 / 90 / 120 mm fan x1 (optional) Side: 80 / 90 / 120 mm fan x1 (optional) |
หลังจากกันด้วยเสป็คในกระดาษกันเสียหน่อยแล้ว ก็น่าจะสรุปได้ว่าเจ้าเคส Mid-Tower ตัวนี้นั้นมีน้ำหนักอยู่ที่ราว 7.2 กิโลกรัม ซึ่งตรงนี้เองน่าจะเป็นข้อบ่งชีได้ว่าเหล็กแผ่นที่นำมาพับขึ้นรูปเป็นเคสนั้นน่าจะเป็นเหล็กที่หนาพอสมควร ซึ่งในเสป็คก็ไม่มีบอกเสียด้วยครับ ดีไซน์โดยรวมนั้นก็จะเป็นไปในแนวทางของอุปกรณ์หลายๆชิ้น ในกลุ่มที่เน้นจับตลาด Gamer ของ CoolerMaster ในยุคใหม่ ที่จะมีเส้นสายที่ค่อนข้างแข็ง โฉบเฉี่ยว และดุดัน สีสันจัดจ้านตัดกับโทนสีพื้นเป็นอย่างดี
ด้านหน้านั้น ตัวฝาครอบทำจากพลาสติกพร้อมตะแกรงเหล็กสีแดง ด้านบนก็จะเป็นพอร์ต USB2.0 + Audio มาให้ดังภาพ
ส่วนด้านข้างนั้นก็จะเหมือนกับเคสมาตรฐานหลายๆเจ้า ที่จะเป็นฝาปิดเหล็กแผ่นธรรมดา (ไม่เจาะรูใส) แต่แว่วๆมาว่าจริงๆแล้ว เคสของ Coolermaster นั้น ไปหยิบฝาของบางรุ่นมาสลับใส่กันได้ก็พอจะทำได้เหมือนกัน อันนี้ก็ต้องทดลองกันเองกับเพื่อนๆที่ใช้เคสยี่ห้อเดียวกันแล้วนะครับ อ้อ รูระบายความร้อนตรงซีพียูและ PCI-E สามารถติดตั้งพัดลมขนาด 80 90 และ 120 มม ได้เท่านั้นที่บริเวณช่องตรง PCI-E เท่านั้น
ส่วนฝาอีกด้านหนึ่งก็ทึบๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจนัก
มาดูด้านใต้ก็จะพบรูระบายอากาศอีกสองช่อง น่าจะถูกใจคนที่จะเล่นระบบระบายความร้อนด้วยน้ำกันพอสมควรครับ แต่สำหรับเคสขนาด Mid-Tower แบบนี้ น่าจะต้องวางแผน และจัดสายกันอย่างวุ่นวายอยู่พอสมควรเลยทีเดียว
รังผึ้งด้านหน้า ภายในนั้นจะมี Filter กรองอากาศพร้อมพัดลมขนาด 120mm แถมมาให้ ขออภัยที่ไม่ได้แงะออกมาให้ดูนะครับ
ภายในเริ่มจาก Rack 3.5″ กันก่อน จะเห็นได้ว่ามีดีไซน์ที่ออกแบบมาเข้าใจกราฟฟิคการ์ดกับเมนบอร์ดสมัยใหม่เป็นอย่างดี กับการหันเอาหัว Connector ของ HDD ออกหาฝาเคส แต่น่าเสียดายที่ไม่มีระบบ Tools-Free มาให้ ยังคงต้องใช้ไขควงไขกันอยู่ตามปกติ
Rack 5.25″ ก็เช่นกัน ดังภาพ
ส่วนของพื้นที่ติดตั้งเมนบอร์ดนั้นก็มีการเก็บสายทีเกี่ยวข้องมาให้อย่างเป็นระเบียบแล้วในระดับหนึ่ง และจะสังเกตได้ว่ามีรูระบายอากาศข้างเคสด้านทึบมาให้ ซึ่งตรงนี้ก็น่าจะช่วยได้ระดับหนึ่ง เพราะรูนั้นเจาะมาตรงกับตำแหน่งที่ซีพียูจะถูกติดตั้งพอดี ส่วน bracket สำหรับ PCI/PCI-E ก็จะให้น็อตหัวกลม สามารถใช้นิ้วมือหมุนเปิดแผ่นปิดออกมาติดตั้งการ์ดได้อย่างง่ายดาย
ด้านหลังติดตั้งพัดลมขนาด 80 90 120 มม ได้สบายๆอีกหนึ่งตัว PSU อยู่ในตำแหน่งด้านล่าง ตามสมัยนิยม จะขาดไปอย่างหนึ่งกับฟีเจอร์สมัยนิยม อย่างรูสำหรับลอดสายยางสำหรับระบบระบายความร้อนด้วยน้ำออกมาด้านหลังเคส ก็เท่านั้นครับ
.
.
.
…บทสรุปของ USP100 นั้น ผมมองว่า เป็นเคสที่น่าสนใจมาก เมื่อมองจากงานประกอบและผลิตที่ค่อนข้างดีกว่าเคสราคาถูกหลายๆตัว ดีไซน์ก็สวยเด็ดสไตล์ CoolerMaster เหล็กที่เลือกใช้มีคุณภาพ และรอยต่อต่างๆก็ทำได้สม่ำเสมอ และมั่นคงดี ลูกเล่นต่างๆก็ออกแบบมาให้สอดคล้องกับฮาร์ดแวร์สมัยใหม่ อย่างเช่นการจัดวาง HDD ในตำแหน่งที่หันคอนเน็กเตอร์ออกหาฝาเคส จะติดอยู่อย่างเดียวก็คือ เคสราคา เลยสองพันบาท มาห้าสิบบาทแล้ว ก็น่าจะใส่ Tools-Free ในแบบที่ Centurion 5 ในอดีตเคยมีมาให้เสียหน่อย ก็คงจะไม่เสียหายอะไรครับ
.
.
สำหรับวันนี้ก็คงต้องจบแต่เพียงเท่านี้ สวัสดี
.
.
.