Review : Gigabyte U2442

…ช่วงนี้สำหรับผมแล้วเหมือนเป็นฤดู Ultrabook และ Notebook ขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก พกพาสะดวก ซึ่งบอกตรงๆเลยว่าผมชอบนะครับ โน๊ตบุ๊กที่พกใช้งานได้จริงๆ วันนี้ก็มาพบกับโน๊ตบุ๊กจากค่ายที่พวกเราที่นิยมเล่นพีซี ฮาร์ดแวร์ โอเวอร์คล๊อกน่าจะรู้จักกันดีอย่าง “Gigabyte” ที่ปกติแล้วในบ้านเราจะคุ้นเคยกันดีกับเมนบอร์ดของค่ายนี้ ในช่วงนี้เราก็จะได้เห็นโน๊ตบุ๊กจากค่ายนี้มาวางขายกันมากขึ้น สำหรับวันนี้เป็น Gigabyte U2442 ที่ซึ่งทาง Gigabyte นิยามมันให้เป็น “Extreme Ultrabook” กล่าวคือเป็นอัลตราบุค ที่เน้นสมรรถนะ ความแรง นั้นเองครับ

…ปกติแล้วเมื่อเราพูดถึง Ultrabook เราจะไปนึกถึงโน๊ตบุกที่เครื่องบางๆ ประสิทธิภาพโอเค ขนาดจอสัก 13 นิ้ว แต่สำหรับ Gigabyte U2442 นั้นเรียกได้ว่าเป็น Extreme Ultrabook กล่าวคือเป็น Ultrabook ที่ยังคงไว้ซึ่งข้อกำหนดของอินเทลทั้งขนาด น้ำหนัก (สำหรับ range จอ 14″) และความสามารถในการตอบสนองในการบู้ตและ resume ด้วยเทคโนโลยี Intel Rapid Start Technology สังเกตได้จากฮาร์ดไดร์ฟแบบ SSD ขนาด 128GB ที่ติดตั้งมาคู่กับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนขนาด 750GB

…สเป็คโดยรวมๆแล้วเหมือนกับว่าถูกกำหนดมาเพื่อให้เน้นความแรงมากกว่า Ultrabook ทั่วไป ทั้งซีพียูที่ไม่ได้มีรหัสลงท้ายด้วยเลข 7 กล่าวคือซีพียู Core i5 3210M นี้เป็นแบบเดียวกับที่จะติดตั้งอยู่ในโน๊ตบุ๊กทั่วไป ทำงานที่ความถี่ฐานที่ 2.5GHz และเมมโมรีที่ติดตั้งมาให้ถึง 8GB พร้อมทั้งกราฟฟิคการ์ด NVIDIA GeForce GT640M เรียกได้ว่า จัดเต็ม และจัดหนักกันเลยทีเดียว สำหรับเครื่อง Ultrabook น้ำหนักระดับ 1.7 กิโลแบบนี้ แต่เรื่องหนึ่งที่น่าเสียดายคือการ์ดไวเรสที่ติดตั้งมาให้เป็น Centrino Wireless N 2230 ซึ่่งจะรองรับเพียงแค่ Wireless N ในย่าน 2.4GHz เท่านั้น ในขณะที่ทุกวันนี้ในบ้านเราก็เริ่มมีเครือข่าย 5GHz มาให้ใช้กันในหลายๆพื้นที่แล้วครับ

..

…ดีไซน์โดยรวมนั้นส่วนหนึ่งถูกทำมาให้มีลักษณะภูมิฐาน แฝงความอนุรักษ์นิยมและทันสมัยไว้ในตัว ด้วยรูปทรงเหลี่ยมๆ แต่ก็แอบมีการแซมสีสันอมชมพูๆเล็กน้อยให้ดูมีความอ่อนเยาว์ลงมา

บอดี้นั้นเป็นอะลูมิเนียมเสียส่วนใหญ่ ซึ่งก็ให้สัมผัสที่หรูหราและแน่นหนาดี เท่าที่เคยสัมผัสมาผมคิดว่ามันดูแน่นหนาดีกว่าโน๊ตบุ๊กรุ่นก่อนๆจากค่ายนี้อยู่พอสมควร

ความบางนั้นจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่สมตัว เพราะว่าคอมโปเนนท์ภายในคงจะบีบบังคับมาให้มีขนาดแบบนี้ แต่ก็ไม่เกินขนาดที่ทางอินเทลกำหนดมาให้เป็น Ultrabook ระดับ 14 นิ้ว แน่นอน คือหนาไม่เกิน 21 มิลลิเมตร ซึ่งในสเป็คนั้นระบุไว้ว่าความหนาของเจ้า U2442 นั้นมีอยู่ระหว่าง 18-21 มิลลิเมตรครับ

…การเก็บงานนั้นจัดว่าทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ขอบรอยต่อต่างๆนั้นแทบจะมองไม่เห็นว่าเป็นรอยต่อ ประกอบกับการเก็บงานส่วนโลหะ ก็ดูดีไม่ใช่น้อยครับ ตัวเครื่องมีการออกแบบให้มีการระบายความร้อนก็เหมือนกับ ultrabook ทั่วไปคือมีการดูดลมเข้าทางคีย์บอร์ด และปล่อยออกทางช่องระบายความร้อนด้านหลัง ตามที่จะสังเกตได้ในภาพครับ

…ภายในมีการใช้โทนสีอะลูมิเนียม คือสีเงินๆ มีพื้นที่บางส่วนที่เป็นพลาสติกบ้าง ตัดกับคีย์บอร์ดปุ่มแยกสีดำพร้อมไฟ LED สีขาวแบบเครื่อง Mac นั้นแหละครับ จอนั้นเป็น แบบ LED ความละเอียด 1600*900 ที่เกือบจะเป็น Full HD ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าไม่น่าซีเรียสอะไรระหว่าง 1920×1080 กับ 1600×900 ก็น่าจะใช้งานได้ดีพอกัน และภาพก็ให้สีสันและความคมอยู่ในเกณฑ์ดี

…จุดที่ต้องตำหนิคือระบบ Auto Brightness นั้นขาดซึ่งความเป็นพลวัตร (ไดนามิกส์) คือมีการปรับความสว่างและมืดของจอในสเป็ตที่หยาบเกินไป เดียวมืด เดียวสว่าง ผมรำคาญมากจนต้องปิด Auto Brightness แล้วปรับค่า % เองครับ

.

…คีย์บอร์ดมีการจัดวางมาในลักษณะที่หลวมๆในบริเวณแป้นพิมพ์ส่วนตัวอักษร แต่ส่วนของปุ่มลูกศรและปุ่ม page up/down มีการจัดมาแบบค่อนข้างบีบอัดไปเสียนิดหนึ่ง ซึ่งโดยภาพรวมหากเน้นการพิมพ์ๆๆๆอย่างเดียว ก็คงจะไม่มีปัญหาในการใช้งานมากนัก ตัวคีย์นั้นไม่ได้ดีที่สุดในกลุ่ม ultrabook แต่ในความเห็นของผมมันก็ดีกว่าหลายๆค่ายครับ มีจังหวะการกดที่ค่อนไปทางสั้นและเร็ว ปุ่มระหว่างใช้มีอาการคลอนเล็กน้อยแต่ไม่มากจนน่าเกลียด

…ส่วนทัชแพดการใช้งานนั้นค่อนข้างดีเลยทีเดียว ขนาดของทัชแพดนั้นอาจจะไม่ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับทัชแพดสำหรับระบบ gesture รุ่นอื่นๆ แต่ก็มีการตอบสนองที่ดี ทั้งในแง่ความแม่นยำและความเร็ว ตลอดจนการรูดนิ้วด้วยสองนิ้วและสามนิ้วก็ใช้งานได้พอสมควรครับ ปุ่มกดเป็นแบบสองปุ่มแต่ใช้แถบปุ่มเดียวกัน ซึ่งยังไงผมก็คิดว่าแบบแยกสองปุ่มก็น่าจะใช้งานได้ดีกว่าสำหรับการใช้งานบนวินโดวส์

ปุ่มเปิดปิดมีขนาดเล็กไปสักนิดหนึ่ง มาพร้อมกับปุ่ม config ที่มีไว้ปรับตั้งค่าการทำงานของ backlit ของคีย์บอร์ดและจอครับ

…ด้านข้างซ้ายเครื่องมีพอร์ตมาให้แบบจัดเต็มไม่เหมือน ultrabook เครื่อง 13 นิ้วหลายๆค่าย คือมี VGA, RJ45 USB 2.0 มาให้สองช่อง และ Audio in/out มาให้เต็มที่เลยทีเดียว

ส่วนด้านขวาก็ยังมี USB 3.0 มาให้อีกถึง 2 ช่อง และ SD Cardreader มาให้อีก นอกจากนี้ยังมีพอร์ต HDMI แบบเต็มขนาดมาให้อีกด้วย

นอกจากนี้ในกล่องก็ยังมีแถมซองหนังดีไซน์ออกแนวอนุรักษ์นิยมนิดๆมาให้อีกด้วย

Performance

- รายละเอียดเครื่อง

รายละเอียดดูกันให้ชัดเจนสำหรับซีพียู Core i5 ในเครื่องนี้ที่มีลักษณะเหมือนกับเครื่องโน๊ตบุ๊กทั่วๆไป (ความเร็วเต็ม) ไม่ได้มีการลดความเร็วแบบรุ่นเลขท้าย 7 เมมโมรี DDR1600 8GB !! และการ์ดจอ GT 640M ที่มี Shader ถึง 384 unit เลยทีเดียว

Super PI 1M

12.5 วินาที เวลาระดับนี้ก็คือโน๊ตบุ๊กธรรมดาๆนี่เองครับ

Cinebench R10

Ciebench R11.5

คะแนนผลทดสอบ Cinebench ถือว่าทำได้น่าประทับใจเลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะ Open GL test ที่คะแนนพุ่งกระฉูดในเวอร์ชั่น 11.5 เกือบแตะหลัก 40fps ไปแล้ว

AIDA64 Benchmark

CACHE & MEMORY BENCHMARK

DISK BENCHMARK

ความเร็วฮาร์ดดิสก์ก็ทำมาได้น่าพอใจ Access Time อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำสำหรับฮาร์ดดิส 5400rpm ส่วนอัตตราการอ่านก็ทำได้เร็ว สมตัวกับอินเตอร์เฟซ SATA III

PCMark 05

คะแนน PCMark เรียกได้ว่าพุ่งเอาๆโดยเฉพาะเวอร์ชั่น 05 ที่ถือว่าได้เยอะมากเลยทีเดียวสืบเนื่องจากคะแนน HDD ที่มี SSD เข้ามาช่วยในการทำงานด้วยเทคโนโลยี intel smart response นั้นเองครับ

3Dmark06

คะแนนของ 3Dmark ก็เห็นถึงฤทธิ์เดชของ GT640M ก็ทำคะแนนออกมาได้น่าพอใจ ผนวกกับซีพียูที่มีกำลังสูงกว่า Ultrabook ทั่วๆไปด้วย

.

… Gigabyte U2442 มีจุดเด่นในเรื่องของสมรรถนะการประมวลผล ที่โดดเด่นรอบด้าน ทั้งในแง่ของความเร็วในการตอบสนองแบบฉบับ ultrabook ฮาร์ดไดร์ฟที่ทำงานได้เร็ว ซีพียูกำลังพอเหมาะ และกราฟฟิคการ์ดที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊กระดับกลางทั่วไปอยู่พอสมควร ตลอดจนเมมโมรีที่ติดมาให้ถึง 8GB ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความบางระดับ 21mm และเบาระดับ 1.7kg ซึ่งกลายเป็นว่ามันเป็นความคาบเกี่ยวกันระหว่างเครื่องพกพา กับเครื่องเน้นสมรรถนะ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่า Ultrabook จะไม่มีไดร์ฟ DVD ติดมาให้น่ะครับ ดีไซน์ของบอดี้นั้นก็ออกมาแนวเรียบร้อยและออกแนวเงินๆเงาๆเล็กน้อย ตลอดจนพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆที่มีมาให้แบบจัดเต็มเหมือนๆกับโน๊ตบุ๊กขนาดทั่วๆไปครับ สำหรับวันนี้ก็คงต้องลาไปก่อน สวัสดี…

.

.

ขอขอบคุณ Gigabyte