มา ดูในส่วนของภาคซอฟท์แวร์กันบ้าง Android 4.2 Jelly Bean ในเครื่อง Slate 6 Voice Tab นั้นก็ดูแล้วไม่ได้มีหน้าตาที่ถูกดัดแปลงอะไรไปเลยครับ สะอาดตาดีพอสมควร

สำหรับ เมนูการโทรอาจจะพิเศษกว่าแอนดรอยด์ทั่วๆไปอยู่ตรงที่ จะสังเกตว่า ปุ่มกดโทรออก จะมีเลข 1 โชว์ หมายถึงว่าเรากำลังโทรออกในนามของซิมการ์ดหมายเลข 1 อยู่นั้นเอง และหากสังเกตตรงแถบระดับสัญญาณด้านบน ก็จะเห็นว่าผมได้ใส่ซิม 3G ไว้ในช่องใส่ซิมเลข 1 อยู่ครับ

เข้า เมนูเปิดหา app ก็จะเจอกับหน้าจอรายชื่อแอพที่คุ้นเคยกันบนโทรศัพท์แอนดรอยด์หลายๆรุ่น ที่ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยน UI ของ Android การตอบสนองของการทัชก็ทำได้ลื่นไหลดีมากเลยทีเดียว โทรศัพท์แอนดรอยด์ระดับราคาไม่ถึงหมื่น ทำได้ในระดับนี้ ถ้าเป็นช่วงเมื่อ 2-4 ปีก่อน นี้คงจะต้องเหวอกันไปตามๆกัน

สวิชมัลติทาสก์ ก็ยังหน้าตาธรรมดาๆ แบบของ Google Android ทั่วไป

มีการจัดหมวดแอพของ Google ไว้ให้ด้วย

Notification ด้านบนที่เตือนอยู่ก็สามารถรูดลงมาจากขอบจอด้านบนเพื่อเรียกดู หรือจะใช้เป็นคีย์ลัดเข้าไปเปิดปิดระบบไร้สายต่างๆ ดูการใช้งานแบตเตอร์รี่ หรือปรับการตั้งค่าความสว่างก็สามารถทำได้ตรงนี้เลย

แอ พพิเศษที่ติดมากับเครื่องก็คงจะเป็นตัวนี้ครับตัวแรกที่ผมลองเล่น คือ File Explorer ของ HP ที่ดูหน้าตาแล้วอาจจะไม่ค่อยเข้ากับธีมของเครื่องเท่าไหร่ แต่ก็ใช้งานได้ดีไม่เจอปัญหาอพะไร

ตัวเครื่องนี้ยังมีวิทยุ FM แต่ก็ยังคงต้องใช้สายอากาศจากการเสียบหูฟัง ถึงจะใช้งานได้

ลอง มาดูรายละเอียดซีพียูใน CPU-Z แอนดรอยด์กันบ้างครับ ตัวซีพียูนั้นเป็นโครงสร้างแบบ Cortex-A7 Quad-Core ผลิตโดย Marvell รุ่น PXZ1088 ทำงานความเร็วสูงสุด 1.2GHz พร้อมกับ GPU Vivante GC900

เมมโมรี(แรม) ขนาด 1GB พร้อมกับแสดงความละเอียดหน่้าจอว่าเป็น 1208×720 พิกเซล 

เครื่อง ก็มาพร้อมกับ Office ตามแบบฉบับแอนดรอยด์ทั่วๆไปที่สามารถใช้เปิดอ่านหรือแก้ไขเอกสารได้นิดหน่อย ภาพรวมแล้วก็เปิดเอกสารออกมาดูได้ ไม่เสียรูปทรงเอกสารดั้งเดิม

และ ที่ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นบริการ HP ePrint ที่เป็นบริการ cloud ที่รวมเอาปรินเตอร์ที่เรามีใช้งานอยู่ ผูกโยงเข้าไปบนอินเตอร์เนท ทำให้สามารถสั่งพิมพ์งานได้จากทุกที่ผ่านเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นผ่านบริการ Google Cloud print หรือจะสั่งผ่านแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์แบบในเครื่องรุ่นนี้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งผมได้เคยทำรีวิวปริ้นเตอร์ของ HP ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าระบบคลาวด์ได้โดยไม่ต้องต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์แล้ว ตามลิงค์นี้ คลิ๊ก
 

สุด ท้ายคือเรื่องของแบตเตอร์รี่ สารภาพตามตรงเลยว่าเครื่องนี้ตอนที่ได้มาใช้งานนั้น ยังไม่ทันจะได้ชาร์จแบตดีนัก ก็ต้องคว้าออกไปใช้แล้ว ผมมีโอกาสได้ใช้งานอยู่หนึ่งวันเต็มๆ

…ปกติ แล้วผมจะใช้งาน ipad mini แทนสมาร์ทโฟนเสียส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับวันที่เอาเครื่อง Slate Voice Tab ไปลอง ผมเลือกที่จะทิ้งเอาไอแพดไว้ที่บ้าน และเอาเครื่องนี้ออกไปใช้ที่ทำงาน โดยไม่หยิบที่ชาร์จไป ก็พบว่าหากใช้งานแบบ แอบเล่นเฟสบุ๊คระหว่างเวลางานบ้างประปราย ถ่ายรูปอัพรูปนิดหน่อย เปิดดูฟีดข่าวในทวิตเตอร์เรื่อยแค่ช่วงที่มีสถานการร้อนช่วงเวลาบ่าย แบตเตอร์รี่ขนาด 3000 มิลลิแอมป์ชั่วโมง สามารถใช้งานวันต่อวันแบบ 12 ชั่วโมงได้อย่างสบายๆ โดยที่เปิด data 3G ไว้ตลอด

.

.

…จะ กล่าวได้ว่า มือถือสองซิม คงจะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงของมือถือราคาถูกจากจีนอีกต่อไปแล้วครับ เพราะหลายคนก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันใช้งานได้จริง และเวิร์ค สำหรับคนที่ต้องการจะใช้ ตลอดจนราคาขาย และสเป็คซีพียู และหน้าจอที่ให้มาใน Slate6 Voice Tab ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ล้าสมัย ใช้งานแอพปัจจุบันได้ลื่นไหล เนื้องานประกอบที่ดูแล้วก็ well built ในระดับหนึ่ง สมราคาที่จ่ายไป ทำให้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของ Phablet 6 นิ้วที่น่าสนใจสำหรับทุกวันนี้ตัวหนึ่งครับ