…HP Slate 6 Voice Tab เป็นผลิตภัณฑ์ในตระกูล "Slate" จาก HP อีกรุ่น หรืออีกรูปแบบหนึ่งที่ในวันนี้มาในมาดของ "Phablet" หรือจะเรียกว่าเป็นมือถือจอขนาด 6 นิ้ว โทรได้ ใส่ซิมได้สองซิม มีสเป็คระดับปานกลางๆ ในราคาระดับ 9900 บาท พร้อมกับจุดขายด้านบริการหลังการขาย HP Smart Friend ที่มีบริการรับส่งเครื่องที่มีปัญหาถึงที่ ให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ 24 ขั่วโมง กู้ข้อมูล ตรวจสภาพ สบายใจไม่ต้องเดินทางไปศูนย์บริการกันเลยทีเดียว

ตัว HP Slate6 Voice Tab นั้นมีขนาดหน้าจอ 6 นิ้ว พาแนลเป็นแบบ IPS พร้อมความละเอียด 1280×720 พิกเซล ซีพียูแบบ ควอดคอร์ 1.2GHz ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 4.2 (Jelly Bean) พร้อมกับรองรับการใช้งานเครือข่าย 3G พร้อมคุณสมบัติการโทร และรองรับการใส่ซิมการ์ดสองใบพร้อมกัน (ใบหนึ่งเป็น 3G ใบหนึ่งเป็น 2G ใช้ดาตาไม่ได้) พร้อมกับแบตเตอร์รี่ความจุถึง 3000 มิลลิแอมป์ชั่วโมง 

ส่วน อุปกรณ์ในกล่อง ก็มีมาให้ง่ายๆ ตามแบบในรูปเลยครับ ตัวเครื่องทดสอบนี่ไม่แน่ใจว่าตัวชุดหูฟังนั้นตกหล่นหายไประหว่างทางแต่ อย่างใดไม่ทราบได้

ตัว เครื่องนั้น เมื่อแกะกล่องออกมาก็พบว่า ดูๆไปแล้วก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากโทรศัพท์มือถือยุคปัจจุบัน ที่ก็มักจะเป็นทรง bar phone แต่มีขนาดใหญ่กว่ายุคก่อนๆ หน้าจอขนาด 6 นิ้ว รูปทรงของ HP ตัวนี้ก็จะเน้นความเหลี่ยม และมีการเล่นลวดลายสไตล์เมทัลลิก และสีทองรอบๆตัว

ด้านหน้าเครื่องนั้นก็จะพบว่าไม่มีซอฟท์คีย์ หรือปุ่มทัชอื่นๆมาให้เห็นกันอีกต่อไป ตามสไตล์เครื่องแอนดรอยด์รุ่นใหม่ๆ

ตัว จอกระจกที่ภายในนั้นเป็นพาแนลแบบ IPS นั้นก็เรียกได้ว่าสามารสู้แสงได้ดีในระดับหนึ่ง ตลอดจนมุมมองในการรับชมภาพที่กว้างตามแบบของ และพื้นที่รับชมภาพ ก็อยู่ในเกณฑ์ที่มองแล้วดูสบายตา

ลำโพงก็ซ่อนอยู่ในช่องรังผึ้ง ส่วนตัวกล้องด้านหน้านั้นให้ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

ฝาหลังมีลวดลายเท็กซ์เจอร์ที่ดูแปลกตาดี แต่ในเครื่ดงทดลองก็คาดสติกเกอร์ HP มาซะเต็มเหยียด ดูแล้วอาจจะขัดๆตาไปสักเล็กน้อย คุณภาพของงานประกอบโดยรวมๆ ก็จัดอยู่ในเกณฑ์ปานกลางครับ ไมได้แย่จนน่าเกลียด โดยส่วนตัวผมชอบสัมผัสของจอ และบอดี้ส่วนด้านหน้า ปุ่มกดนั้นก็ไม่มีอาการคลอน แต่สัมผัสการกดยังออกจะไม่ค่อยหนักแน่นเสียเท่าไร ฝาหลังนั้นก็ค่อนข้างบาง แต่ยืดหยุ่น และถอดออกได้ง่ายเลยทีเดียวครับ

กล้องด้านหลังขนาด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชขนาดเล็ก

บริเวณขอบเครื่องก็จะมีลวดลายคาดตัวเครื่องเป็นสีทอง ในด้านซ้ายมือก็จะมีปุ่มกดเพิ่ม/ลด โวลุมเสียงมาให้

ส่วนอีกด้านหนึ่งก็จะเป็นปุ่มกด เพาเวอร์/ล็อคสกรีน

ส่วนบริเวณด้านหัวของเครื่องก็จะเป็นพอร์ต Micro USB และ แจ๊คเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

ฝา หลังนั้นสามารถเปิดมาเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ ใส่ซิมการ์ด และใส่ micro SD Card เพิ่มเติมได้สูงสุด 32GB จะสังเกตว่าช่องใส่ซิมการ์ด จะมีช่องหนึ่งใส่เป็นแบบ Micro Sim และอีกช่องนึงสำหรับใช้โทรอย่างเดียวจะเป็นซิมการ์ดแบบปกติ ส่วนตัวแบตเตอร์รี่ก็เรียกได้ว่า มีขนาดใหญ่พอสมควร ใหญ่ถึง 3000 มิลลิแอมป์ชั่วโมง ซึ่งก็น่าจะเพียงพอสำหรับการใช้งานสบายๆ ไม่หนักหน่วงมาก โดยไม่ต้องเสียบชาร์จ ในรอบ 12 ชั่วโมงของวันครับ

มา ดูในส่วนของภาคซอฟท์แวร์กันบ้าง Android 4.2 Jelly Bean ในเครื่อง Slate 6 Voice Tab นั้นก็ดูแล้วไม่ได้มีหน้าตาที่ถูกดัดแปลงอะไรไปเลยครับ สะอาดตาดีพอสมควร

สำหรับ เมนูการโทรอาจจะพิเศษกว่าแอนดรอยด์ทั่วๆไปอยู่ตรงที่ จะสังเกตว่า ปุ่มกดโทรออก จะมีเลข 1 โชว์ หมายถึงว่าเรากำลังโทรออกในนามของซิมการ์ดหมายเลข 1 อยู่นั้นเอง และหากสังเกตตรงแถบระดับสัญญาณด้านบน ก็จะเห็นว่าผมได้ใส่ซิม 3G ไว้ในช่องใส่ซิมเลข 1 อยู่ครับ

เข้า เมนูเปิดหา app ก็จะเจอกับหน้าจอรายชื่อแอพที่คุ้นเคยกันบนโทรศัพท์แอนดรอยด์หลายๆรุ่น ที่ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยน UI ของ Android การตอบสนองของการทัชก็ทำได้ลื่นไหลดีมากเลยทีเดียว โทรศัพท์แอนดรอยด์ระดับราคาไม่ถึงหมื่น ทำได้ในระดับนี้ ถ้าเป็นช่วงเมื่อ 2-4 ปีก่อน นี้คงจะต้องเหวอกันไปตามๆกัน

สวิชมัลติทาสก์ ก็ยังหน้าตาธรรมดาๆ แบบของ Google Android ทั่วไป

มีการจัดหมวดแอพของ Google ไว้ให้ด้วย

Notification ด้านบนที่เตือนอยู่ก็สามารถรูดลงมาจากขอบจอด้านบนเพื่อเรียกดู หรือจะใช้เป็นคีย์ลัดเข้าไปเปิดปิดระบบไร้สายต่างๆ ดูการใช้งานแบตเตอร์รี่ หรือปรับการตั้งค่าความสว่างก็สามารถทำได้ตรงนี้เลย

แอ พพิเศษที่ติดมากับเครื่องก็คงจะเป็นตัวนี้ครับตัวแรกที่ผมลองเล่น คือ File Explorer ของ HP ที่ดูหน้าตาแล้วอาจจะไม่ค่อยเข้ากับธีมของเครื่องเท่าไหร่ แต่ก็ใช้งานได้ดีไม่เจอปัญหาอพะไร

ตัวเครื่องนี้ยังมีวิทยุ FM แต่ก็ยังคงต้องใช้สายอากาศจากการเสียบหูฟัง ถึงจะใช้งานได้

ลอง มาดูรายละเอียดซีพียูใน CPU-Z แอนดรอยด์กันบ้างครับ ตัวซีพียูนั้นเป็นโครงสร้างแบบ Cortex-A7 Quad-Core ผลิตโดย Marvell รุ่น PXZ1088 ทำงานความเร็วสูงสุด 1.2GHz พร้อมกับ GPU Vivante GC900

เมมโมรี(แรม) ขนาด 1GB พร้อมกับแสดงความละเอียดหน่้าจอว่าเป็น 1208×720 พิกเซล 

เครื่อง ก็มาพร้อมกับ Office ตามแบบฉบับแอนดรอยด์ทั่วๆไปที่สามารถใช้เปิดอ่านหรือแก้ไขเอกสารได้นิดหน่อย ภาพรวมแล้วก็เปิดเอกสารออกมาดูได้ ไม่เสียรูปทรงเอกสารดั้งเดิม

และ ที่ขาดไม่ได้ก็คงจะเป็นบริการ HP ePrint ที่เป็นบริการ cloud ที่รวมเอาปรินเตอร์ที่เรามีใช้งานอยู่ ผูกโยงเข้าไปบนอินเตอร์เนท ทำให้สามารถสั่งพิมพ์งานได้จากทุกที่ผ่านเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นผ่านบริการ Google Cloud print หรือจะสั่งผ่านแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์แบบในเครื่องรุ่นนี้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งผมได้เคยทำรีวิวปริ้นเตอร์ของ HP ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าระบบคลาวด์ได้โดยไม่ต้องต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์แล้ว ตามลิงค์นี้ คลิ๊ก
 

สุด ท้ายคือเรื่องของแบตเตอร์รี่ สารภาพตามตรงเลยว่าเครื่องนี้ตอนที่ได้มาใช้งานนั้น ยังไม่ทันจะได้ชาร์จแบตดีนัก ก็ต้องคว้าออกไปใช้แล้ว ผมมีโอกาสได้ใช้งานอยู่หนึ่งวันเต็มๆ

…ปกติ แล้วผมจะใช้งาน ipad mini แทนสมาร์ทโฟนเสียส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับวันที่เอาเครื่อง Slate Voice Tab ไปลอง ผมเลือกที่จะทิ้งเอาไอแพดไว้ที่บ้าน และเอาเครื่องนี้ออกไปใช้ที่ทำงาน โดยไม่หยิบที่ชาร์จไป ก็พบว่าหากใช้งานแบบ แอบเล่นเฟสบุ๊คระหว่างเวลางานบ้างประปราย ถ่ายรูปอัพรูปนิดหน่อย เปิดดูฟีดข่าวในทวิตเตอร์เรื่อยแค่ช่วงที่มีสถานการร้อนช่วงเวลาบ่าย แบตเตอร์รี่ขนาด 3000 มิลลิแอมป์ชั่วโมง สามารถใช้งานวันต่อวันแบบ 12 ชั่วโมงได้อย่างสบายๆ โดยที่เปิด data 3G ไว้ตลอด

.

.

…จะ กล่าวได้ว่า มือถือสองซิม คงจะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงของมือถือราคาถูกจากจีนอีกต่อไปแล้วครับ เพราะหลายคนก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันใช้งานได้จริง และเวิร์ค สำหรับคนที่ต้องการจะใช้ ตลอดจนราคาขาย และสเป็คซีพียู และหน้าจอที่ให้มาใน Slate6 Voice Tab ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ล้าสมัย ใช้งานแอพปัจจุบันได้ลื่นไหล เนื้องานประกอบที่ดูแล้วก็ well built ในระดับหนึ่ง สมราคาที่จ่ายไป ทำให้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของ Phablet 6 นิ้วที่น่าสนใจสำหรับทุกวันนี้ตัวหนึ่งครับ