Review : HP SlateBook X2 แท็บเล็ต + โน๊ตบุ๊ค Android Tegra 4 Quadcore
Share | Tweet |
…เท่า ที่พอจะนึกจำความได้ เราน่าจะห่างหายจากการรีวิวแท็บเล็ตแอนดรอยด์กันมานานพอสมควรครับ วันนี้ผมกลับมา พร้อมกับโน๊ตบุ๊ก / แท็บเล็ต ที่ไม่รุ้ว่าจะเรียกมันว่าอะไรดี เพราะมันคือ HP "SlateBook" X2 ซึ่ง HP เคลมว่ามันเป็น 100% Notebook, 100% Tablet แต่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่มาพร้อมกับขุมพลังสุดฮอตอย่าง NVIDIA Tegra 4 Quad-Core โดยตัวเครื่องจะมีกำหนดเปิดวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ครับ ซึ่งในรีวิวนี้เราก็จะมาชมความแรง และการใช้งานกันไปพร้อมๆกันในรีวิวนี้เลยครับ
Slatebook X2 นั้นจะว่าไปจริงๆแล้ว มันก็คือๆว่าเป็นแอนดรอยด์แท็บเล็ตทั่วๆไป ที่สามารถแยกตัวบอดี้ได้เป็น 2 ส่วน คือตัวส่วนแท็บเล็ต ขนาด 10 นิ้ว และตัวส่วนคีย์บอร์ด ที่มีแบตเตอร์รี่เสริมติดตั้งมาให้
แต่การออกแบบ โดยภาพรวมนั้นเรียกได้ว่าเหมือนจงใจ มาให้เน้นใช้งานในลักษณะที่เหมือนๆกับเน็ทบุ๊คขนาดเล็กๆ เลยทีเดียว ตัวแท็บเล็ต แผงเมนบอร์ดต่างๆ ฝังอยู่บนตัวชิ้นเดียวกับจอ ปุ่มเพาเวอร์และคีย์บอร์ด ดังที่เห็นในรูปแรกของบทความนั้น ตรงนี้จะกดไม่ค่อยสะดวกสักนิดหนึ่งครับ ต้องอาศัยความคุ้นเคยกันหน่อย
ตัว เครื่องโดยรวมๆนั้นทำมาจากวัสดุโลหะ ที่ดูหรูหรา และแข็งแรงทนทานเลยทีเดียวครับ ซึ่งผมคิดว่า HP ทำตัวเครือ่งมาได้เกินราคาจริงๆ (ราคาเปิดตัวท่ 480USD) ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือ ถึงแม้จะมีขนาด 10 นิ้ว เหมือนๆกับแท็บเล็ตแอนดรอยด์หลายๆรุ่นที่วางจำหน่ายกัน แต่เจ้า SlateBook X2 นั้นก็จะมีสัดส่วนรูปร่าง ที่ทะมัดทะแมง และกระเดียดไปทางความน่าจะเป็นเน็ตบุ๊ค มากเสียกว่าจะเกิดมาเพื่อเป็นแท็บเล็ต ที่พูดนี่คือกล่าวรวมถึงเรื่องของความเหมาะสมของน้ำหนักด้วยครับ
ให้ ดูว่า การจับถือด้วยมือข้างเดียว ยังพอเป็นไปได้ แต่สำหรับผม ขอติงว่า มันไม่ค่อยถนัดมือนักนะครับ น้ำหนักมันมีอยู่พอสมควร ซึ่งตรงนี้ทำให้มัน มีปัญหาเวลาที่นำไปติดตั้งกับ keyboard docking เหมือนๆกับ convertible tablet ทั่วไป คือตัวเครื่องจะหงายหลังลงไปง่ายพอสมควร เพราะน้ำหนักตัวแท็บเล็ต มันหนักกว่าตัวคีย์บอร์ดนั้นเอง
หน้า จอนั้นเป็นขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมความละเอียด 1920×1200 ซึ่งสูงกว่าแท็บเล็ตแอนดรอยด์หลายๆรุ่นที่เรามักเห็นกัน ส่วนพาแนลผมขอเคลมด้วยตัวเองไปก่อนครับว่าน่าจะเป็น IPS แหล่งข่าวหลายๆแหล่ง ยังไม่มีใครบอกไว้ สีสันที่ได้ ก็สดใสสวยงามดี และตัวจอก็มีกระจกที่ดูน่าจะแข็งแรงดีพอสมควรเลย
ตัวคีย์บอร์ดด้านล่างมีลูกยางกันลื่นอย่างดีติดมาให้
กลไก การล็อค ก็เหมือนๆกับแท็บเล็ตที่เป็นพวก Convertible ทั่วๆไป คือสไลด์ ล็อค และจะมีส่วนเชื่อมต่อที่เชื่อมทั้งคีย์บอร์ด และแบตเตอร์รี่เสริม ซึ่งจากการทดลองใช้งาน ผมได้มีโอกาสได้เล่นๆจิ้มๆอยู่น่าจะเป็นเวลาราวครึ่งวัน ซึ่งน่าจะเป็นครึ่้งวันที่หนักหน่วงพอสมควร กับการทดสอบ benchmark ด้วย แบตเตอร์รี่ ยังลดลงไปไม่ต่ำกว่า 50% ของตัวแท็บเล็ต เรียกได้ว่าก็น่าจะอึดใช้การได้อยู่ครับ
คีย์บอร์ด นั้น มีการจัดวางเลย์เอาท์มาได้สมตัวครับ คือสมเหตุสมผลกับขนาด 10.1 นิ้ว ซึ่งก็จะมีอารมณ์ประมาณว่าอึดอัดๆนิดหน่อย สามารถใช้พิมพ์อีเมลเล็กๆน้อยๆ ตลอดจนพิมพ์จดหมายสัก 3-4 หน้าได้ ถ้ามากกว่านั้นก็อาจจะเมื่อยและล้าได้ ตัวแป้นนั้นมีลักษณะที่ดีดตัวขึ้นมาเร็วๆ และมีความลึกอยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้งานได้ครับ ไม่ลึกมากนัก เพราะขนาดเครื่องไม่ได้ใหญ่โตอะไร
ส่วนตัวทัชแพด ก็เรียกได้ว่ามีความแม่นยำดีมาก ไม่มีอาการหน่วง และมีความเป็น linear ที่ดี ตลอดจนสามารถทำ gesture ลงบนทัชแพดได้
ถ้า ใครสังเกตรูปก่อนหน้านี้จะเห็นว่าได้ทำการเสียบตัวรับสัญญาณไร้สายของเมาส์ ออฟติคัลไว้ ใช่แล้วครับ USB 2.0 ที่มีติดมาให้ในเครื่องนี้ เป็นพอร์ตแบบ host port ทั่วๆไป เสียบใช้งานอุปกรณ์อินพุตได้หลากหลาย ตลอดจนเสียบอุปกรณ์จำพวก storage อย่างแฟลชไดร์ฟ หรือฮาร์ดดิสก์ external ได้เลย
ส่วน ด้านนี้จะเป็นพอร์ต HDMI และ สลอตสำหรับเสียบ SD Card ซึ่งนอกจากนี้ภายในตัวเครื่องก็จะมีหน่วยความจำขนาด 64GB ออนบอร์ดมาให้อยู่แล้ว