…สวัสดีครับ ช่วงนี้ อากาศเปลี่ยนแปลง ปลายฝนต้นหนาว ผมก็มีฮาร์ดแวร์และคอมโพเนนท์ใหม่ๆ มานำเสนอกันครับ สำหรับชั่วโมงนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้น กระแส GT220 ที่ผู้ผลิตกราฟฟิคการ์ดแต่ละค่าย ก็ค่อยๆทยอยปล่อยการ์ดที่ใช้ชิป GT220 จากทาง nvidia ออกมาสู่ตลาดกัน เรียกได้ว่า เป็นการรีเฟรชตลาดกลุ่ม Entry level ก่อนที่จะมีกราฟฟิคชิปโครงสร้างใหม่อย่าง GT300 คลอดออกมาให้ได้สัมผัสถึงประสิทธิภาพกันนั้นเองครับ

…สำหรับวันนี้ ก็คงจะเป็นคิวของ Leadtek ที่ผมจะได้นำมาให้ผู้อ่านได้ชมกัน โดย Leadtek ผู้ผลิตการ์ดแบรนด์ Winfast นั้น เป็นที่รู้จักกันดี ของชาว nvidia ในยุคเก่าก่อน ที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำกราฟฟิคการ์ดที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์มายาวนาน และเป็นผู้ผลิตรายหลัก ที่สามารถยืนยันได้จากประวัติ ที่ไม่เคยทำกราฟฟิคการ์ดที่ใช้ชิปจากค่ายอื่นใด แถมยังเป็นหนึ่งในบริษัทไม่กี่บริษัท ที่ได้รับการไว้ใจให้ทำกราฟฟิคการ์ดตระกูล Quadro สำหรับตลาด Workstation อีกด้วยครับ

ก่อนอื่นก็ต้องพูดกันก่อนว่า GT220 นั้น เป็นกราฟฟิคการ์ดที่ใช้เทคโนโลยี 40นาโนเมตรในการผลิต นับได้ว่า รุ่นแรกๆของ nvidia เลยทีเดียวครับ ที่ได้เริ่มมีการใช้เทคโนโลยีนี้ ร่วมกับกราฟฟิคชิปโครงสร้างที่อิงมาจาก GT200 series รองรับ Direct X 10.1 และใช้โค้ดเนมในการพัฒนาว่า “GT216″

ตัวการ์ดที่ผมได้รับมาวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งค่ายครับที่มีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนานเกี่ยวกับการทำการ์ดภายใต้ร่มเงาของ nVidia อย่าง Leadtek Winfast ตัว PCB นั้น ก็มาในสีเขียวอร่าม มาตรฐานๆ ฮีทซิงค์ขนาดหยิบมือ เหมาะสำหรับการ์ดรุ่นเล็กอย่างนี้ครับ

พอร์ตเชื่อมต่อนั้น มีมาให้ครบครัน เหมาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายของตลาดที่ตัวการ์ดนั้นจะลงมาทำ คือยังคงรักษาไว้ซึ่งพอร์ต D SUB แต่ในขณะเดียวกัน หากผู้ใช้ต้องการนำการ์ดไปใช้งานกับ HTPC ก็มี HDMI มาให้

สติกเกอร์ Nameplate สไตล์ Leadtek สีเงิน

แผ่นหลังของตัวการ์ดนั้น ไม่มีเม็ดแรมปรากฏครับ

ภายจ่ายไฟเลือกใช้คาปาซิเตอร์แบบ Solid state ทั้งชุด สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานอย่างเราๆได้ขึ้นมาเลยทีเดียว

ขนาดของการ์ดนั้น ไม่ต้องกลัวว่าใส่แล้วจะไปชน hdd เลยครับ

เนื่องจากพอร์ตเชื่อมต่อการแสดงผลนั้นมีมาให้ครบครัน ภายในกล่อง ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีหัวแปลงอะไรแถมมาให้อีก

บรรยากาศในการทดสอบ

GPUZ โชว์ความเร็วต่างๆ เป็นไปตามค่าที่ทาง nvidia กำหนดมาทุกอย่างครับ

ทดสอบเบิร์นด้วยโปรแกรม Furmark ฟูลโหลดอยู่ที่ 50c ในห้องปรับอากาศ 25 องศาเซลเซียส (นอกเคส) จัดได้ว่า ไม่ร้อนเหมือนการ์ดรุ่นใหญ่ๆ เป็นอันว่าใช้งานได้ดีในเคสเล็กๆ แน่นอนครับ

ระบบที่ใช้ในการทดสอบ

OpenGL Performance (Cinebench R10)

โปรแกรมนี้ดูเหมือนพลังของซีพียู จะช่วยฉุดให้ OpenGL Performance ขึ้นมาสูงพอสมควรเลยครับ

3Dmark03

3Dmark05

3Dmark06

3Dmark Vantage (Performance)

Devil may cry 4 DX10 Benchmark

Crysis Benchmark 800×600

ถามถึงประสิทธิภาพของเกม ดูจาก Crysis แล้ว ผมพูดได้เลยว่า ถ้าแค่ซิสเต็มระดับธรรมดาๆ Crysisนั้น เล่นไม่ได้แน่ๆครับ เพราะนี่ขนาดเป้น i7 วิ่ง 4ghz แล้ว ยังทำ fps ได้เพียงแค่นี้ แต่ถ้าจะนำมาใช้เล่นเกมที่ไม่ได้เรียกร้องความแรงของกราฟฟิคการ์ดและซีพียูมากมายอะไรนัก GT220 ก็จะสามารถอยู่กับคุณได้อย่างแฮปปี้ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ

สรุปส่งท้าย

ก็คงไม่มีอะไรมาก สำหรับน้องใหม่ใน GT200 ในช่วงท้ายของอายุการตลาดของกราฟฟิคชิปตระกูลนี้ หลังจากปล่อยให้รุ่นพี่ในโครงสร้าง G9x แสดงศักยภาพในตลาดเซกเมนท์ล่างๆมานานพอสมควร ซึ่งจากประสิทธิภาพแล้ว ผมว่าก็ไม่มีอะไรน่าหวือหวานัก นอกจากเทคโนโลยีใหม่ๆอย่าง DX10.1 หรือ PHYSX ที่เป็นจุดแข็งของกราฟฟิคจาก nvidia อยู่แล้ว ดังนั้นตัวการ์ด ก็คงจะเหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหากราฟฟิคการ์ด ราคาไม่แพง อินเตอร์เฟสครบ ประหยัดไฟ และได้เทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมที่จะนำมาใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือดูภาพยนตร์ระดับ Hi Definition

แต่แอบอุปทานเองนิดหนึ่งนะครับ ว่าการ์ดจาก Leadtek ตัวนี้ ต่อ หัวต่อแบบ Analog ออกจอ 22″ แล้ว ภาพมันชัดกว่าการ์ดหลายรุ่นที่ผมเคยเล่นมาเลยทีเดียว  หรือแม้กระทั่งการ์ด GT220 รุ่นอื่นๆที่ตอนนี้กำลังทยอยเข้ามาใน lab ของพวกเรา จะเชื่อหรือไม่ก็คงต้องลองเองนะครับ แต่ที่ผมสังเกตด้วยสายตา ผมพบอย่างนั้นจริงๆ ปกติแล้ว การต่อ Analog ออกจอขนาดใหญ่ ความละเอียดสูงๆระดับ 1680×1050 นั้นอาจจะทำให้ผลลัพท์ที่ได้นั้นคือภาพจะมีอาการเบลอ ไม่คมอยู่บ้าง เนื่องจากอินเตอร์เฟส DSUB นั้นมีข้อจำกัดในเรื่องของแบนด์วิดท์ และการสูยเสีญของสัญญาณระหว่างการส่งผ่านสาย  ซึ่งมันคงอธิบายเป็นคำพูดหรือรูปภาพลำบาก เพราะมัน print screen ไม่ได้ ถ่ายรูปออกมา ก็คงไม่เห็นความต่างนั้นเองครับ

สำหรับวันนี้ ก็ต้องขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

.

.

ขอขอบคุณ บริษัท Com7