Review : Lenovo Yoga 2 Pro
Share | Tweet |
…หลายๆคนคงจะเคยได้เห็น Lenovo Yoga รุ่นแรกกันมาแล้ว ซึ่งตอนนั้นผมก็ได้จับ Yoga 11 ตัวนั้นก็เรียกได้ว่าเป็น "Hybrid Ultrabook" ที่มีรูปทรงเพรียวบาง ดีไซน์เรียบง่าย และสามารถพลิกแพลงท่าได้ด้วยบานพับที่สามารถกางได้ถึง 360 องศา ซึ่งทางผมเองก็เคยได้รีวิวตัวที่เป็น Windows RT และในวันนี้ ผมก็ได้รับ Yoga II ซึ่งเป็นรุ่น "Pro" ที่จะเป็นซีพียูแบบ Intel Core i5 เหมือนๆกันกับโน๊ตบุ๊คทั่วๆไปทุกประการ แต่มีหน้าจอขนาด 13 นิ้ว พร้อมความละเอียดระดับสูงถึง 3200×1800 พิกเซล
…ส่วน Yoga II "Pro" ตัวนี้นั้นก็เรียกได้ว่ามีภาพรวมที่ไม่ได้แตกต่างไปจาก Yoga ตัวแรกที่เราเคยได้ดูรีวิวไป ดังลิงค์นี้ โดยมีการปรับปรุงในเรื่องของความบางที่บางลงกว่าเดิม และความละเอียดของจอที่มากขึ้น ตลอดจนได้มีการอัพเกรดมาใช้ซีพียูของ Intel 4th generation กันแล้ว ส่วนตัวผิวภายนอกนั้นก็เป็นพื้นผิวสีเทา ตัดกับโลโก Lenovo สีเงิน สัมผัสที่ได้จากตัวเครือ่งก็ยังคงเป็นสัมผัสที่หนืดๆ คล้ายๆกับผิวของหนังอยู่เหมือนกับรุ่นเก่า แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียวครับ
เมื่อเปิดมาดูภายในฝาเครื่อง ก็จะพบกับหน้าจอขนาด 13 นิ้วมัลติทัช ความละเอียดระดับ QHD 3200×1800 พิกเซล และแน่นอนสำหรับหน้าจอความละเอียดระดับนี้ ก็มาพร้อมกับกล้องเว็บแคม HD 720P
วัสดุที่ใช้ภายใน ที่เป้นสีดำนั้น จะเห็นได้ว่ามีความคล้ายคลึงกับ Yoga รุ่นแรกอยู่พอสมควร ตัวบริเวณที่วางมือ ตลอดจนบริเวณรอบๆคีย์บอร์ด ก็ทำมาจากวัสดุคล้ายๆกับหนัง ให้สัมผัสที่ดี คล้ายๆกับเรากำลังถือกระเป๋าหนังสวยๆกันเลยทีเดียว ส่วนทัชแพดนั้นเป็นปุ่มแบบแยกชิ้น ความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่ผมค่อนข้างชอบมากเลยทีเดียวครับ และขนาดและความไวในการรับรู้ของตัวทัชแพด ก็สามารถทำ gesture ได้ค่อนข้างสะดวกมาก
ตัวคีย์บอร์ดนั้น เรียกได้ว่าถึงแม้จะใช้พื้นที่ไม่เต็มบริเวณภายใน แต่ก็มีการจัดวางเลย์เอาท์มาได้ค่อนข้างลงตัว และวางปุ่มได้ห่างในระดับที่สามารถพิมพ์สัมผัสได้อย่างลื่นไหล ไมต่างอะไรจากคีย์บอร์ดพีซีเท่าไรนัก ตลอดจนดีไซน์ปุ่มแบบเว้าลง ที่เป็นเอกลักษณ์ของ lenovo มาหลายรุ่น ก็ให้สัมผัสที่ดี และนอกจากนี้ตัวคีย์บอร์ด ก็ยังมีไฟ backlight สีขาวมาให้อีกด้วย
ด้านหลังเครื่องนอกจากจะเห็นตัวบานพับ ก็จะพบกับแนวช่องลม ที่ผมเข้าใจเองครับว่ามันน่าจะดูดลมเอาจากบริเวณคีย์บอร์ด และเป่าออกบริเวณด้านหลังนี้ ระหว่างใช้งานเอาจริงๆ ก็ยังมีอุ่นๆมืออยู่บ้าง แต่ไม่ร้อนบริเวณด้านใต้และมือ จนน่าเกลียดแน่นอน
พอร์ตด้านซ้ายมือก็จะมีช่องสำหรับเสียบไฟชาร์จแบต (สีเหลือง) USB3.0, microHDMI, และช่องใส่ SD Card
อีกด้านหนึ่งก็จะพบว่ามีลักษณะการให้ปุ่มและพอร์ตมา คล้ายคลึงกับเครื่องแท็บเล็ตมากขึ้น ตั้งแต่ปุ่มเพาเวอร์ ปุ่มล็อคหน้าจอไม่ให้ rotate และปุ่มโวลุม ตลอดจนช่องเสียบชุดเฮดเซ็ต และพอร์ต USB 2.0
ไฮไลท์ของเครื่อง Hybrid Ultrabook แบบนี้ ก็อยู่ที่รูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย บานพับที่ยืดหยุ่นนั้นเองครับ
ใช้งานใน Tablet Mode จะเห็นได้ว่าบานพับนั้นก็จะเรียบเนียนติดไปกับตัวเครื่องเลย
.
การจับถือ ก็สะดวกโยธินดี แต่ว่าเครื่อง 13 นิ้ว มาถือแบบ Tablet แบบนี้ ถ้าถือมือเดียว ก็อาจจะมีเกร็งๆ ข้อมือกันบ้าง
หรือจะเป็น Tent mode ไว้นั่งดูหนัง หรือจิ้มเล่นเกม puzzle กันเพลินๆก็ดีไม่แพ้กัน
โดยทาง Lenovo ก็ได้มีซอฟท์แวร์ preload มาให้พร้อมกับระบบปฏิบัติการ คือ Yoga Picks ที่จะช่วยแนะนำการใช้งานในโหมดต่างๆของตัวเครื่อง ตลอดจนแอพพลิเคชั่นที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง ที่สามารถใช้งานได้ดีในโหมดนั้นๆ มารอให้โหลดไปเล่นกันอีกมากมาย อย่างในรูปก็จะเป็น Tablet mode ที่ก็จะมีเกมดังๆอย่าง Fruit ninja ไว้ให้รอโหลดไปเล่นกัน
นอกจากนี้ ฟีเจอร์ที่ผมชอบมาก เหมาะสำหรับคนที่ใช้เครื่องใช้นำเสนองานบ่อยๆก็คงจะเป็น lenovo transition ครับที่จะสามารถเลือกได้เวลาเราเปลี่ยนโหมดว่าจะให้เรียกโปรแกรมอะไรขึ้นมา และให้เข้าสู่โหมดฟูลสกรีนเลยหรือไม่
มาถึงในเรื่องของชุดอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ ก็มีดีไซน์ที่ทันสมัยและสวยงาม ดังรูปครับ แต่คิดว่าคงจะไม่ได้พกพากันบ่อยๆแน่ เพราะเท่าที่ทดลองใช้งานมา ในรูปแบบของการใช้งานในออฟฟิศ และยกเครื่องไปใช้งานนำเสนอสั้นๆ และเปิดเว็บบราวเซอร์ใน 1 วัน ในสภาวะ เปิดๆ ปิดๆ แบตเตอร์รี่สามารถอยู่ได้ราวๆ 5-6 ชั่วโมงเลยทีเดียวครับ