Review : Mede8er MED500X Hi-Def media player
Share | Tweet |
ใใใภาพขณะใช้งานจริง ในภาพนี้คือผมได้ทำการเชื่อมเครื่อง Mede8er เข้ากับจอ LCD แบบ DVI ผ่านสายแปลง HDMI to DVI นะครับ ซึ่งจอที่จะนำมาใช้งานกับเครื่อง Mede8er นั้นจำเป็นที่จะต้องรองรับ HDCP ด้วย ภาพถึงจะขึ้น ถ้าเป็นจอรุ่นถูกๆหลายๆรุ่นที่ขายกันในปัจจุบันนั้น ถ้าหวังจะเอาสายแปลง HDMI to DVI ก็บอกได้เลยครับว่า หมดสิทธิ์ แต่จอ LCD TV สมัยนี้ส่วนใหญ่ ก็จะรองรับ HDCP กันอยู่แล้ว ซึ่งก็คงไม่ใช่ปัญหาครับสำหรับระบบโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์แนวใหม่แบบนี้
…สำหรับส่วนต่อไปนี้ของรีวิว ก็น่าจะเป็นส่วนที่ผมว่าน่าจะตอบคำถามหลายๆอย่างของเจ้าเครื่องตัวนี้ได้นะครับว่า มันสามารถทำอะไรได้บ้าง เรามาดูอินเตอร์เฟส และความสามารถของเจ้าเครื่อง Mede8er กันเลยดีกว่า…
ภาพรวมของเมนู หลังจากเปิดเครื่อง รอเครื่อง boot เสร็จสิ้นกระบวนการประมาณไม่ถึง 15 วินาทีดีนัก ก็จะพบกับเมนูด้านบน
ง่ายๆเลยครับถ้าหากต้องการที่จะเล่นไฟล์มีเดียต่างๆผ่านสื่อต่างๆที่ตัวเครื่องรองรับ ก็ให้เลือกเข้าไปที่เมนู Media library ก็จะปรากฏแหล่งข้อมูลให้เลือกครับว่าเราจะเล่นไฟล์จากไหน ในที่นี้เราก็จะเห็นได้เลยว่าเราสามารถที่จะเลือกเล่นไฟล์ทั้งจากตัว Harddrive ในเครื่อง หรือเล่นผ่าน USB, SD card หรือแม้กระทั่งจะ streaming ไฟล์ผ่านทางเน็ทเวิร์คจากตัวเครื่อง PC ที่สั่ง share ไฟล์เอาไว้ ก็สามารถทำได้ครับ
เมนูการ browse ไฟล์ ก็ใช้งานง่ายๆครับ ใช้แค่ปุ่มขึ้นลง enter และ return สำหรับย้อนกลับ
หรือว่าจะลองเข้าไปดูใน network ก็สามารถเข้าไปใน workgroup ของเครือข่ายภายในบ้านของผมได้
เมนูถัดมาก็คือ Internet Radio ซึ่งรองรับการฟังเพลงผ่าน internet radio server
ใใใตรงส่วนของการตั้งค่า Network นั้นก็สามารถทำได้ค่อนข้างง่ายครับ ตัวเครื่องนั้นรองรับระบบ DHCP ซึ่งสามารถรับค่า IP address มาใช้งานเองได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ WiFi IEEE802.11N แต่ต้องซื้อตัว adaptor เพิ่มเองนะครับ
ใใใส่วนหากต้องการที่จะทำให้ตัวเครื่องนั้นสามารถมองเห็นได้ใน network ก็ต้องไปทำการเปิด NAS Mode ซึ่งเป็นระบบ file server บนพื้นฐานของระบบ Samba (ปกติใช้ใน Linux) สำหรับให้เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือเครื่อง Mede8er เครื่องอื่น สามารถมาดึงไฟล์จากตัวเครื่องไปใช้งานได้ผ่านระบบเครือข่ายนั้นเอง ซึ่งระบบตรงนี้ สามารถใช้ร่วมกับ windows ได้ 100% ครับ
ดูจากโค้ดของอุปกรณ์ที่มันอ้างตำแหน่ง (eth0) (wlan0) อะไรแนวๆนี้ ผมก็เดาๆไปเองนะครับว่ามันเป็น firmware แบบ UNIX like คือระบบและคำสั่งภายในมันก็คงจะคล้ายๆ UNIX ซึ่งก็น่าจะการันตีความเสถียรได้ในระดับหนึ่ง
เมนู setting อื่นๆก็สามารถปรับค่าได้ละเอียดในระดับหนึ่งครับ ตัวเครื่องเองที่เด็ดก็คือสามารถทำการ format harddisk ที่เราติดตั้งไปได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องง้อ PC เลยครับ ดังภาพที่เราจะเห็นเมนูอยู่ โดยตัวเครื่องนั้นรองรับระบบไฟล์ทั้ง FAT32 และ NTFS ด้วย
.
.
…สำหรับเครื่อง Mede8er นั้นก็เรียกได้ว่าเป็นเครื่องตามเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงในโลกของ Home entertainment system กันเลยทีเดียวครับ กับเครื่องเล่นที่เริ่มเข้าสู่ความเป็นจริงของโลก Hi-def มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องไปพึ่งระบบแผ่น Optical disc กันแม้แต่น้อย เพราะปัจจุบันนี้ ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้แล้วครับว่า คนที่ดูหนัง Hi-Def ส่วนใหญ่นั้นก็มักจะนิยมเก็บตัวหนังไว้เป็นในระบบของไฟล์ในคอมพิวเตอร์กันมากกว่าหยิบแผ่นมาดูกันแล้วนั้นเอง
…ซึ่ง Mede8er นั้นผมบอกได้เลยครับว่า มันสามารถตอบโจทย์ lifestyle ของคนยุคใหม่อย่างเราๆได้อย่างค่อนข้างจะสมบูรณ์เลยทีเดียว ไล่ตั้งแต่ความสามารถในการอ่านไฟล์ได้หลากหลายชนิด ถอดรหัสไฟล์ได้แทบจะทุกอย่างในโลก เล่นไฟล์ ก็ไม่จำเป็นจะต้องกอปปี้ไฟล์มาวางไว้ในตัวเครื่อง ก็สามารถที่จะเล่นไฟล์ผ่าน network ได้หรือจะอัพเกรดระบบ storage ในตัวเครื่อง ก็สามารถทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เรียกได้ว่าทำให้ชีวิต hi-definition ของเราๆนั้น หลีกหนีให้พ้นๆไปจากคอมพิวเตอร์ ที่เครื่องใหญ่กว่า กินไฟกว่า ยุ่งยากกว่าไปได้เยอะเลยทีเดียว
…แต่ตอนนี้ก็จะติดอยู่แค่สุดยอดระบบเสียงอย่าง DTS-HD หรือ Dolby True HD ที่ตัวเครื่องนั้น ทางฮาร์ดแวร์ ก็ยังเรียกได้ว่าซัพพอร์ต แต่ตัวซอฟท์แวร์นั้นยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาอยู่ ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องเล็กครับ และอีกไม่นานก็คาดว่าน่าจะมีเฟิร์มแวร์ใหม่มาให้อัพเดตกันอยู่แล้ว
…ด้วยความสามารถที่หลากหลาย รองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงความสามารถในการเล่นไฟล์ได้แทบจะทุกแบบ กับราคาขายหน้าเว็บเท่าที่ผมเห็นก็คือ 159 ยูโร สำหรับรุ่นที่ไม่มีฮาร์ดดิสติดมาให้แบบในบทความนี้ ผมว่าคุ้มค่ามากๆครับ ถ้าหากว่าคุณเป็นคอหนัง Hidef ตัวจริง และกำลังคิดที่จะเปลี่ยนโยกย้ายจากการทีใช้ PC เล่นไฟล์พวกนี้ มาเป็นการมองหาเครื่องเล่นดีดีสักเครื่อง ที่มาทำหน้าที่แทน PC เครื่องเก่งของคุณ หรือกำลังคิดๆถึงที่จะมองหาเครื่องเล่นที่มาแทนดีวีดีสักเครื่อง
สำหรับวันนี้ก็คงต้องขอลาไปก่อน สวัสดี