สวัสดีครับ วันนี้ Vmodtech เราก็มีผลิตภัณฑ์ IT ที่น่าสนใจมานำเสนอกันอีกแล้วครับ สำหรับวันนี้ก็เป็น Mouse นั้นเอง สำหรับวันนี้ผมก็มีมากันถึงสามตัวด้วยกัน จากค่าย Genius สามรุ่น สองสไตล์ ที่ว่าสองสไตล์นั้นคือ สำหรับ Gamer นั้นคือ รุ่น Ergo 555 Laser และอีกสไตล์หนึ่งคือสำหรับนักเดินทางในรุ่น Traveller 515 และ 525 ครับ

Ergo 555 Laser เป็นเมาส์ในคลาสสำหรับเกมเมอร์ แบบมีสายความละเอียด 3200DPI และมีฟีเจอร์พิเศษที่น่าสนใจอย่างหนึ่งเกี่ยวกับความละเอียดคือ สามารถปรับความละเอียดแยกกันระหว่างแกน X และ Y ได้ โดยผ่านซอฟท์แวร์ Agama ที่แถมมาให้ในแผ่นซีดีครับ ตัวเมาส์มี Macro Key 7 ปุ่ม (ปุ่มที่มีไว้สำหรับตั้งเป็นคีย์ลัด) มากพอสำหรับเกมเมอร์ที่รักในการเล่นเกมแนว FPS และ RTS ได้ดีเลยทีเดียวครับ โดยในการโปรแกรมปุ่มต่างๆเหล่านี้ ข้อมูลในการโปรแกรมจะถูกบรรจุลงไปใน Flash Memory ในตัวเมาส์ ขนาด 32k และสุดท้าย ฟีเจอร์ที่ทำให้ตัวเมาส์มีดีไซน์ที่แปลกออกไปจากเมาส์ทั่วไปนั้นคือจอ OLED ที่ไว้แสดงผลการโปรแกรมตัวเมาส์เช่นความละเอียด และเลือกโปรไฟล์ที่เราตั้งเอาไว้ในโปรแกรม Agama นั้นเองครับ

ดีไซน์ทั่วไปของตัวเมาส์ เป็นพลาสติกบริเวณกระดอง และส่วนของ Grip ทำมาจากยางครับ จะเห็นได้ว่ามีความนูนขึ้นมาเป็นพิเศษโอบรับกับสรีระของผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย ไม่ต้องห่วงครับว่าคนมือเล็กจะใช้งานไม่ถนัด และคนที่มีขนาดมือค่อนข้างใหญ่ ก็จะได้รับประโยชน์จากการดีไซน์แบบนี้ไปเต็มๆเลยทีเดียว นอกจากนี้ลายของพลาสติกนั้นจะเป็นลักษณะทำให้รู้สึกถึงหิน ทำให้ดูหรูหราดีครับ

ให้ดูกันชัดๆ บริเวณ Handgrip ด้านซ้ายมือ จะเป็นบริเวณที่ถ้าคนถนัดขวา (ใช้เมาส์ด้านขวา) วางมือลงไปจะเป็นบริเวณวางนิ้วโป้งลงไปพอดี จะมีปุ่มๆ ทำให้เพิ่มความมั่นคงขณะบีบเมาส์เข้ากับอุ้งมือได้ดียิ่งขึ้น

จะสังเกตได้ว่าด้านขวามือจะไม่มีปุ่มๆที่ว่าครับ

การดีไซน์ปุ่ม Macro Key 5 ปุ่มด้านหน้า อยู่ในตำแหน่งที่พอใช้ได้ ส่วนสองปุ่มด้านข้าง ใช้นิ้วโป้งได้สะดวกดีครับ อาจต้องมีการขยับนิ้วบ้างในระดับหนึ่ง ส่วนตัว Scroll นั้นเป็นยางไม่มีการเซาะร่อง สุดท้าย ปุ่มคลิปซ้ายคลิกขวากดได้ถนัดมือได้ดีครับ

ด้านใต้เรียบๆง่ายๆ มีการระบุมาแน่นอนครับว่าใช้เทคโนโลยี Laser ซึ่งทำให้สามารถใช้งานได้ในแทบจะทุกพื้นผิว

สายเป็นสายถักอย่างดีครับ สวยงามจริงๆ

การใช้งาน และซอฟท์แวร์

ซอฟท์แวร์ Agama II ที่แถมมา สามารถตั้งโปรไฟล์ได้ 5 โปรไฟล์ (กดเลือกจาก Macro key ได้) และแต่ละโปรไฟล์ สามารถตั้งค่าความละเอียด และ Macrokey ที่แตกต่างกันออกไปได้ตามความต้องการครับ

จุดพิเศษอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือสามารถตั้ง Timelag ในการคลิกแต่ละครั้งได้ในระดับ Milli Second ครับ ดังรูป และสามารถเลือกวิธีการคลิปของปุ่มแต่ละปุ่มได้ เช่น คลิกแบบ Hold หรือ Continue (น่าจะมีประโยชน์ในบางเกม)

Macro Key ก็มีคำสั่งให้เลือกมากมาย หรือเราจะตั้งคำสั่งให้กดเป็นคำสั่งบนคีย์บอร์ดก็ได้ครับ (String Key)

จอ OLED แสดงโลโก้

จอ OLED แสดงการคอนฟิค G1 นี่คือโปรไฟล์ที่เราเซ็ตในตัวซอฟท์แวร์ ส่วน X และ Y คือค่า DPI ที่เราเซ็ตแยกกันในตัวซอฟท์แวร์ครับ

ของแถมไม่มากไม่มายครับ มีเพียงซีดีและคู่มือ

ทดลองใช้งาน - ความละเอียด 3200 DPI ให้ความละเอียดที่เรียกได้ว่า “เมาส์เทพ” เลยทีเดียวครับจากการที่ลองใช้งาน และการที่มีการปรับความละเอียดให้แยกกันระหว่างสองแกน ทำให้มีประโยชน์ในการเล่นเกมแนว FPS อย่างเช่น เราอาจจะปรับแกน Y ให้มีความละเอียดน้อยลงกว่าแกน X เพื่อที่จะให้มีผลให้ความเร็วช้าลงไปอีกในระดับหนึ่งนั้นเอง (เวลาเล็งปืน) ส่วน Macro Key ใช้งานได้สะดวกในระดับหนึ่งเท่านั้น ตัวปุ่มบางปุ่มอาจจะดูไม่มั่นคง แต่ก็สามารถใช้งานได้ ด้วยการขยับนิ้วนิดหน่อยนั้นเอง

โดยสรุปแล้ว Ergo 555 นั้นเหมาะสำหรับ Gamer ที่กำลังมองหาเมาส์เทพสักตัว ที่แปลกแตกต่างไปจากยี่ห้อที่วางขายกันเกร่อ มีดีไซน์ที่สวยงาม และสำหรับ Graphic Designer Ergo 555 ก็จะตอบสนองการใช้งานที่ละเอียดได้อย่างดีเช่นกัน ด้วยความละเอียดกว่า 3200DPI แต่ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็อาจจะไม่ได้ใช้งานกันสักเท่าไหร่ครับ

Genius Traveller 515 Laser

สำหรับเมาส์ตัวต่อไปคือ Traveller 515 Laser เป็นเมาส์สำหรับผู้ใช้งานที่ชอบเดินทาง ขนาดกระทัดรัด ความละเอียดสูง ถึง 1600DPI และเป็นเมาส์ในตระกูลที่มีเทคโนโลยี Opto-Wheel ของ Genius ลักษณะของปุ่ม Scroll จะเป็น Optical สามารถ Scroll ได้ทั้งแกน X และแกน Y รวมไปถึง Hot Key สองปุ่ม คือปุ่ม Smart IE Search และ Flip 3D สำหรับวินโดวส์วิสต้านั้นเองครับ

ดีไซน์โดยทั่วไป บอกตามตรงว่าผมค่อนข้างประทับใจดีไซน์ของเจ้า 515 มากกว่า Ergo 555 เสียอีกครับ เพราะว่ามันเรียบง่าย ไม่นูนจนเกินไป พกพาสะดวก และจับกระชับมือด้วย Handgrip ที่ทำจากยาง และฝาครอบที่เป็นพลาสติก แต่ก็ต้องทำใจนะครับว่าด้วยความที่เป็นเมาส์รุ่นเล็กกว่า พลาสติกที่ใช้ก็จะดูบอบบางกว่ารุ่นสูงๆอย่าง Ergo ไปบ้าง

ด้านหน้า ปุ่มคลิกทั้งสองปุ่มแยกกันครับ สามารถกดได้เต็มไม้เต็มมือดี ส่วนที่ Scroll ก็เป็นแบบ Optical สามารถใช้ Scroll ได้ตามปกติ(ขึ้นลง) และสามารถใช้งาน Scroll ในแกน X Y ได้ก็ต่อเมื่อลงไดร์เวอร์ที่แถมมาให้แล้ว ส่วน Hot Key ก็สามารถใช้งานได้เมื่อลงไดร์เวอร์แล้วเท่านั้นครับ สังเกตว่า

Grip ด้านซ้ายและขวาเป็นยาง ทำให้จับกระชับ แต่ฝุ่นก็จับง่าย และเช็ดยาก เสียด้วยครับ ดังรูปเลย

ด้านใต้ท้องเมาส์ก็เรียบๆตามสไตล์เมาส์เลเซอร์ครับ สังเกตว่าไม่มีสวิชสลับระหว่างความละเอียด 800 และ1600 DPI ตามเสป็คที่บอกว่าเปลียนได้ ทั้งนี้ จากที่ได้ศึกษาคู่มือดู พบว่ามีวิธีการกดอยู่ครับ (ต้องลงไดร์เวอร์) และทำตามในคู่มือไป จะสามารถเปลี่ยนความละเอียดในการใช้งานได้ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมว่า 1600DPI นั้นเป็นความละเอียดที่เหมาะสมในการใช้งานออฟฟิศทั่วๆไป และสามารถทำงานกราฟฟิคได้ดีทีเดียวเลยครับ

ทดลองใช้งาน - ความละเอียด 1600DPI กับเมาส์ที่ดูรูปทรงธรรมดาๆ แต่จับได้ถนัดพอดีมือ ทำให้เกิดความรู้สึกประทับใจในตัวเมาส์ครับ ทั้ง Grip ยางที่ทำให้ดูน่าใช้งาน จับกระชับมือ และเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ให้ความแม่นยำในทุกสภาพพื้นผิวการใช้งาน แต่ว่าก็ยังมีข้อเสียอยู่เล็กน้อยตรงที่ตัวกรอบเมาส์นั้นอาจจะดูบอบบางไปสักนิดนั้นเอง

Genius Traveller 525 Laser

สำหรับตัวต่อไปก็คือ Traveller 525 ดูจากเสป็คด้านบนแล้ว แทบจะไม่มีอะไรต่างจากตัว 515 เลยครับ (ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นพี่น้องกัน) จะแตกต่างกันตรงที่ดีไซน์ของ 525 นั้นเหมือนจะออกไปทางแนวเมาส์ของ Apple ใครที่เคยใช้เครื่อง iMac คงจะเคยเห็นครับ มันเป็นเมาส์ที่สวยแต่รูป จูบไม่หอมจริงๆ(ก็ว่ากันไป) แต่สำหรับ Traveller 525 Laser ของเราในวันนี้ ขอบอกได้เลยว่า ฟีเจอร์การทำงาน เหมือนกันกับ 515 ทั้งหมด โดยไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก

สิ่งที่จะดูแตกต่างไปจากตัว 515 ก็คือ Grip ที่ไม่มียางหุ้มมาให้ ทำให้ขาดความมั่นใจในเวลาจับถือไปพอสมควร

ปุ่ม ก็เหมือนกันครับ ดีไซน์ออกไปในแนวของ Apple ไปสักหน่อย เหมือนเลียนแบบกันมา และเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบคือ คลิกซ้ายและขวาเป็นปุ่มเดียวกัน มันทำให้รู้สึกกดยากยังไงชอบกลนักครับ

ด้านใต้ก็เรียบๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ของแถมในกล่อง มาตรฐาน

ทดลองใช้งาน - ความลื่นไหล ฟีเจอร์ต่างๆ ไม่ต่างอะไรไปจากตัว 515 มากนักครับ แต่ว่าความรู้สึกที่ได้ใช้งานจริงๆแล้วบอกได้เลยว่า ผมรู้สึกมั่นใจตัว 515 ในการคลิก หรือขยับเคอร์เซอร์มากกว่าตัว 525 มาก เนื่องมาจาก Body Design ที่ตัว 525 นั้นจะเป็นพลาสติกทั้งดุ้น ประกอบกับปุ่มคลิกซ้าย-ขวา เป็นปุ่มติดกันไป ทำให้คลิกได้ยากกว่าปุ่มแยกแบบตัว 515 นั้นเอง

สำหรับวันนี้ ผมก็ต้องขอจบ บทความรีวิวเมาส์จากค่าย Genius รวดเดียวสามตัวไปเท่านี้ครับ สวัสดีครับ