Review : Samsung 5 Series Ultrabook 530U4

…ก่อนนี้เราได้พบกับอัลตราบุคที่เปิดตัวก่อนใครไปแล้วถึงสองเจ้าด้วยกัน วันนี้ซัมซุงก็ได้ตามมาอีกเจ้าครับ ซึ่งมันคือ Samsung 5 Series Ultrabook เป็นโมเดลที่ท่านมักจะได้พบเห็นกันตามป้ายรถเมล์หลายๆแห่งในใจกลางกรุงเทพมหานคร ผมไม่ได้พิมพ์ผิดครับ ก็ทางทีมงานพีอาร์ของทางซัมซุงเล่นลงทุนลงแรงไปกับงานโฆษนาไปเสียมากมายขนาดนี้ เล่นเอาเสียผมช่วงนี้ที่ต้องโบกรถเมล์เป็นประจำเห็นเป็นภาพติดตากันเลยทีเดียวกับ Samsung 5 Series Ultrabook ที่มักจะมีสโลแกนจุดขายที่ผมพบเห็นในบิลบอร์ดกับคำว่า “เหนือกว่าด้วยความบาง มากกว่าด้วยความจุ”

…ผมเองค่อนข้างตะขิดตะขวงใจทุกครั้งที่ต้องเรียก Samsung 5 Series ว่าเป็น Ultrabook ด้วยขนาดหน้าจอใหญ่ถึง 14 นิ้ว และน้ำหนักที่เรียกได้ว่าไม่เบาสักเท่าไหร่ แต่ด้วยรายละเอียดเชิงเทคนิคแทบทุกด้าน ทั้งซีพียูอินเทลที่ลงท้ายด้วยเลข 7 แสดงถึงเป็นซีพียูที่ปรับปรุงการใช้พลังงานมาเพื่อ ultrabook ประกอบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบ Hybrid ระหว่างจานหมุนกับ SSD ที่ทำให้สามารถบูตเครื่องได้ภายใน 20 วินาทีและตื่นจา sleep mode ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มันยังคงถูกเรียกว่าเป็น ultrabook

…อย่างไรก็ดีหากมองเจ้า Samsung 5 Series อย่างถ่องแท้ถึงตัวของมันจริงๆ แล้วปิดตาไม่นึกถึง ultrabook บางเบา ก็จะพบว่าด้วยรายละเอียดต่างๆของเครื่องนี้นั้นมันก็คือโน๊ตบุ๊กไซส์ขนาดกลาง 14 นิ้วที่มาพร้อมกับบอดี้บางๆที่งานออกแบบค่อนข้างลงตัว ประสิทธิภาพก็ไม่ได้ขี้เหร่มากตัวหนึ่ง ซึ่งนั้นรวมไปถึงจุดเด็ดของมันที่มีกราฟฟิคการ์ดแยก Radeon HD7550 มาให้ต่างหาก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น Full option Ultrabook กันไปเลยทีเดียวซึ่งก็ต้องแลกมากับน้ำหนักและขนาดที่อาจจะมากกว่าผองเพื่อนไปเสียหน่อย

..

…งานออกแบบนั้นแน่นอนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบอดี้อะลูมิเนียมแบบนี้ มันช่างดึงดูดสายตาผู้คนเสียจริงๆ และก็ดูเหมือนจะเป็นลายเซ็นประจำตัวของโน๊ตบุ๊กจากทางค่ายนี้ไปเสียแล้ว ทั้งในเรื่องเส้นสายและรูปลักษณ์ภายนอกแบบนี้

ความบางของเครื่องในใบสเป็คระบุไว้ว่า 20มิลลิเมตร เรียกได้ว่าไม่ถึงกับบางมากเหมือน ultrabook ที่เราได้เคยเจอมาในช่วงก่อนหน้านี้ที่จะอยู่ที่ราวๆสิบมิลลิเมตรกว่าๆ แต่ต้องอย่าลืมว่า 5 series มาพร้อมกับ optical drive (DVD) แบบถาดเต็มๆใบ ซึ่งความบางในระดับนี้ก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นความบางขั้นสุดยอดเท่าที่วิศวกรของทางซัมซุงจะจัดการให้ได้แล้ว

…หน้าจอขนาด 14 นิ้วความละเอียด 1366×768 ผิวจอนั้นเป็นแบบด้านเสียด้วยครับ อย่างที่เคยได้กล่าวไปว่าจอไซส์นี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นขนาดที่น่าจะมีคนสนใจมากที่สุด สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะต้องใช้คอมตั้งอยู่กับที่บ่อยแค่ไหน และนานแค่ไหน แล้วยังต้องเผื่อสำหรับการพกพาไปไหนมาไหน ขนาด 14 นิ้วนี่แหละครับจะเป็นขนาดที่ดูเป็นกลางมากที่สุด ในขณะที่ 13นิ้วก็อาจจะเล็กไปสำหรับคนที่คุ้นเคยกับจอเดสก์ทอพ ส่วน 15 นิ้ว ก็จะทำให้มันใหญ่และมีน้ำหนักค่อนข้างมาก

…คีย์บอร์ดนั้นมีการจัดเรียงปุ่มมาด้วยดีไซน์ที่ดูทันสมัยพอสมควร ปุ่มแบบปุ่มแยกจัดเรียงกันมาให้ระยะห่างที่ค่อนข้างพอใช้ได้ครับ ไม่บีบอัดหรือไม่หลวมจนเกินไป โดยรวมผมไม่รู้สึกอึดอัดอะไรเลย

…ทัชแพดนั้นก็มาในแนวคือๆกันของโน๊ตบุ๊กสมัยนี้ที่มักจะเป็นแบบ gesture คือทำมัลติทัช(จิ้มหลายนิ้วพร้อมกันได้) และนั้นก็คงจะเป็นผลทำให้การตอบสนองของมันไม่ค่อยถูกใจพวกหัวโบราณแบบผมเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะครับ ผมใช้งานแล้วบอกได้เลยว่าไม่ได้แย่ไปกว่าพวก MacBook ไปเสียเท่าไร แต่ผมไม่ชอบจังหวะการเลื่อนเคอร์เซอร์ที่จะเลื่อนทีต้องสาวนิ้วกันยาวพอสมควร (ถ้าไม่ได้ไปตั้งความเร็วใหม่เสียก่อน) ส่วนปุ่มกดนั้นยังคงมีให้เห็นเป็นสองปุ่มแยกแบบปกติที่เราจะพบได้ในโน๊ตบุ๊กพีซีทั่วๆไป ซึ่งก็เหมาะสมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ดีอยู่แล้วครับ

.

ดังที่ได้เกริ่นไปแล้วครับว่า 5 Series เป็นอัลตราบุคที่มาพร้อมกับออฟชั่นจัดเต็มจริงๆ พอร์ตเชื่อมต่อดังที่ท่านจะเห็นคือมี HDMI ขนาดปกติ VGA USB3.0 ถึงสองพอร์ต และ RJ45 สำหรับแลนกิกาบิท ที่จะให้ไปพลิกหาในอัลตราบุคเครื่องบางๆรุ่นอื่นผมว่าก็ไม่น่าจะหากันได้ง่ายๆครับ

ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นที่อยู่ของ USB อีกหนึ่งพอร์ต การ์ดรีดเดอร์ และไดรืฟออฟติคัลที่เป็น DVD-RW

ฝาด้านใต้ยังใจดีอนุญาตให้เปิดในส่วนของเมมโมรีมาอัพเกรดได้บ้าง

น้ำหนักถือว่าค่อนข้างน่าผิดหวังถ้ายังคงเรียกมันว่าเป็น ultrabook แต่ถ้าหากมองว่านี่คือ mid-size notebook เครื่องหนึ่ง น้ำหนัก 1.8 กิโลกรัม เรียกได้ว่า “เบามาก” สำหรับเครื่องไซส์นี้

และเมื่อรวมกับอะแดปเตอร์ก็ยังถือว่าสามารถพกพาไปไหนได้สบายๆกับน้ำหนักเพียง 2.1 กิโลกรัมกว่าๆ

Performance

- รายละเอียดเครื่อง

…รายละเอียดดูกันให้ชัดเจนสำหรับซีพียู Core i5 ใน ultrabook ที่มีรายละเอียดเชิงเทคนิคเหมือนกับ Core i5 รุ่นมาตรฐานเกือบทั้งหมด (ชุดคำสั่ง แคช บัส) เว้นเสียแต่ความถี่ที่อาจจะต่ำกว่ารุ่นปกติไปบ้าง และสำหรับกราฟฟิคการ์ด HD7550M ต้องใช้โปรแกรม GPUZ เปิดถึงจะเห็น เนื่องมาจากมันใช้ชุด RAMDAC ส่งสัญญาณภาพออกจอร่วมกับตัวกราฟฟิคชิปของอินเทลภายในซีพียู ซึ่งจะทำให้สามารถจัดการเลือกตัวประมวลผลกราฟฟิคที่ใช้แยกกันแต่ละงานได้นั้นเองครับ

Super PI 1M

18.729 วินาทีนี้ถือว่ากลางๆสามารถใช้งานได้ในระดับหนึ่งครับ

Cinebench R10

คะแนนส่วนของกราฟฟิคออกมาค่อนข้างพอใช้ได้เลยทีเดียวครับสำหรับ ultrabook แต่ถ้าเทียบกับ 14″ ด้วยกันทั่วๆไปก็อาจจะดูด้อยๆไปบ้างเล็กน้อย

Ciebench R11.5

คะแนนที่ผมบอกว่าอาจจะดูด้อยๆไปบ้าง ก็คงจะแลกมาซึ่งความสามารถในการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า

Batterry Eater (100-95%) ทดสอบในโหมดประหยัดพลังงาน

…การทดสอบ ล็อคความเร็วซีพียูในโหมดประหยัดพลังงานให้ได้ความเร็วต่ำที่สุด 50% และ ทดสอบด้วยโปรแกรม Batterry Eater ในโหมด Classic ซึ่งซีพียูและกราฟฟิคจะทำงานเต็ม 100% เวลาที่ได้ สามารถบ่งบอกได้ถึงเวลาที่สามารถนำเครื่องออกไปใช้งานในสถานการณ์จริงได้ ค่อนข้างใกล้เคียง

http://vmodtech.com/main/wp-content/uploads/northbridge/samsung530u/b/11_4_2012_1/Report.html

พิจารณาอัตตราการเปลี่ยนแปลงของกราฟจากแบตเตอร์รี่เต็มสเกล 100% มาเหลือ 95 % ก็พบว่าใช้เวลาไป 12 นาที ดังนั้นหากจะให้แบตเตอร์รี่ลดลงจนหมด ก็น่าจะใชเวลาเป็น 12×20 เป็นราว 240 นาที หรือราว 4 ชั่วโมง ซึ่งในเครื่อง Ultrabook ก่อนๆมานี้ที่เคยทดสอบก็มักจะทำเวลาได้ราว 5 ชั่วโมง ก็ถือได้ว่าขนาดจอที่ใหญ่กว่าเดิมนั้นอาจจะส่งผลให้มีการกินแบตเตอร์รี่มากขึ้นบ้างเล็กน้อยครับ

หมายเหตุ โปรแกรมแสดงค่าแบตเตอร์รี่ที่ความจุประมาณ 4600วัตต์.ชั่วโมง

PCMark 05

คะแนนของ PCMark เมื่อเราไม่ได้เห็นฮาร์ดดิสก์แบบ SSD แท้ๆติดตั้งในเครื่อง Ultrabook ก็พบว่าประสิทธิภาพของมันนั้นก็ดูแล้วธรรมดาๆพอใช้งานได้ทั่วไปไม่โดดเด่นมากนักครับ

PCmark 7

3Dmark06

แต่ที่โดดเด่นสำหรับ 5 Series โมเดลนี้คือคะแนนของกราฟฟิคจากโปรแกรม 3DMark 06 ที่เรียกได้ว่าโดดเด่นมากเมื่อเทียบกับอัลตราบุคเครื่องอื่นๆ และหากเทียบกับโน๊ตบุ๊กขนาด mid-size ทั่วไปแล้ว คะแนนระดับห้าพันแต้มแบบนี้ก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวครับ

3Dmark 11

3Dmark 11 ทดสอบแบบระดับกลาง ก็ทำคะแนนออกมาพอใช้งานได้ครับ

.

… อย่างทีได้กล่าวไปในตอนต้นที่พูดถึงรายละเอียดเครื่องแล้วครับว่า 5 Series Ultrabook นั้นเรียกได้ว่ามีความก้ำกึ่งในตัวมันเองทั้งเรื่องขนาดและน้ำหนัก ที่ดูเหมือนว่าน่าจะเรียกมันว่าเป็น Slim Mid-size notebook มากเสียกว่าจะเรียกว่า Ultrabook แต่ด้วยรายละเอียดทางเทคนิคสำคัญๆอย่างซีพียู และฮาร์ดไดร์ฟที่ถูกเลือกสรรมาให้สามารถตอบสนองการทำงานได้รวดเร็วในแบบฉบับ ultrabook ก็จึงถูกเรียกว่า ultrabook ไปโดยปริยาย ซึ่งแน่นอนว่ามันมีข้อดีคือเป็น ultrabook ที่มาพร้อมออฟติคัลไดร์ฟ พอร์ตที่คุณจำเป็นต้องใช้ที่ขาดหายไปในอัลตราบุคเครื่องเล็กๆบางๆ 5 Series มีมาให้ครบครับ รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ขนาดถึง 500GB ซึ่งหาไม่ได้แน่กับเครื่องที่เป็น SSD เพียวๆ

…อย่างไรก็ดี หากลบภาพ ultrabook ทิ้งไปแล้วมองมันเสียใหม่ 5 Series นั้นจัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊ก mid-size ที่ผมคิดว่ามีการออกแบบที่ลงตัว และละเมียดละไมตามสไตล์สินค้าเกาหลียุคนี้ ความแรงที่เรียกได้ว่าไม่ถึงกับแรงจนสุดโต่งแต่ก็สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างดี กราฟฟิคการ์ดแยกที่มีมาให้ก็เรียกได้ว่ามีความแรงไม่เป็นรองใครในตลาด ในขณะที่ซีพียูอาจจะช้ากว่าเพื่อนเขาไปบ้างเพราะเป็นซีพียูที่ทำมาไว้สำหรับประหยัดพลังงานตามสไตล์ ultrabook พอร์ตเชื่อมต่อที่มีมาให้แบบไม่มีกั้ก พร้อมทั้งไดร์ฟ DVD ในบอดี้บางเฉียบเพียง 20 มม กับหน้าจอ 14 นิ้วแบบด้าน เรียกได้ว่าก็เป็น mid-size notebook ที่น่าซื้อหามาไว้ในครอบครองในระดับหนึ่งแล้วครับหากชอบจริงๆ กับราคาที่ไม่รุนแรงมากนัก เท่าที่ทราบอยู่ที่ราวๆ 32000 บาทเท่านั้นครับ

.

.

ขอขอบคุณ Samsung

.