Review : Sony Cybershot HX-1
Share | Tweet |
…สวัสดีชาว Vmodtech วันนี้ก็เป็นหน้าที่ของผมอีกครั้งสำหรับการอัพเดตข่าวสารและบทวิจารณ์อุปกรณ์ในแวดวงไอที ช่วงนี้อาจจะเห็นได้ว่า บท Review ในเว็บของเรานั้นจะมีอุปกรณ์ที่มากมายหลากหลายขึ้นสืบเนื่องมาจากผู้สนับสนุนใจดีหลายๆบริษัท ที่คอยให้การสนับสนุนสินค้าให้ทางทีมงานได้มาทดลองใช้กัน และสำหรับในวันนี้ ผมก็ได้รับกล้องดิจิตอล จากผู้สนับสนุนรายใหญ่ของเราเจ้าหนึ่ง นั้นคือโซนี่ กับดิจิตอลคอมแพค ในระดับ Prosumer อย่าง Cybershot รุ่น HX-1 มาทดลองใช้งานเป็นระยะเวลาสั้นๆครับ
รายละเอียดเชิงเทคนิค ของ HX1
Sensor |
Exmor CMOS
|
ความละเอียดใช้งาน
|
9.1 ล้านพิกเซล
|
ความละเอียดเซนเซอร์
|
10.3 ล้านพิกเซล
|
โปรเซสเซอร์
|
|
เลนส์
|
|
ความยาวโฟกัส
|
28 - 560 มม.(135 Eqiv.) 5-100mm Actual
|
รูรับแสง
|
F2.8 - F5.2
|
ออพติคอลซูม
|
20 เท่า
|
ดิจิตอลซูม
|
40 เท่า
|
ชัตเตอร์
|
|
ความเร็วชัตเตอร์
|
30 - 1/4000 วินาที
|
ถ่ายภาพต่อเนื่อง
|
10 fps, 10 images
|
การโฟกัส / ระบบวัดแสง
|
|
มาโคร
|
1 ซม.
|
ระบบวัดแสง
|
Multi-Pattern, Center-Weighted, Spot
|
ระบบชดเชยแสง
|
-2 to +2 EV in 1/3 EV steps
|
ความไวแสง (ISO)
|
Auto, 125, 200, 400, 800, 1600, 3200
|
สมดุลแสงสีขาว (WB)
|
8 positions plus manual
|
ช่องมองภาพและ LCD.
|
|
ช่องมองภาพ
|
EVF (Electronic View Finder)
|
ขนาดจอ LCD
|
3 นิ้ว
|
ความละเอียดจอ
|
230,400 พิกเซล
|
การปรับตำแหน่งจอ
|
ปรับก้มเงยได้
|
แฟลช
|
|
ระบบแฟลช
|
Auto, On, Off, Red-Eye reduction, Slow Sync, Front Curtain, Rear Curtain
|
ระยะแฟลช
|
9.2 m
|
แฟลชภายนอก
|
ไม่มี
|
หน่วยความจำ
|
|
หน่วยความจำภายใน
|
11 MB
|
หน่วยความจำที่ใช้
|
Memory Stick Duo / Pro Duo, Internal
|
ไฟล์และการเชื่อมต่อ
|
|
ไฟล์ภาพนิ่ง
|
JPEG (EXIF 2.21)
|
ไฟล์ภาพเคลื่อนไหว
|
Yes, 1440 x 1080(HD, 30fps), 1280 ? 720 (HD, 30 fps), 640 x 480 (30 fps)ในฟอแมต MP4
|
เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์
|
USB 2.0 High Speed
|
เชื่อมต่อทีวี
|
A/V output (PAL/NTSC switchable) HDMI Port
|
อื่นๆ
|
|
ชนิดแบตเตอรี่
|
Lithium-Ion (NP-FH50) & charger
|
กว้าง สูง ลึก
|
115 x 83 x 92 mm
|
น้ำหนักตัวกล้อง
|
544 กรัม
|
เมนูภาษาไทย
|
มี
|
อื่นๆ
|
ถ่ายภาพ Panorama ได้ , ถ่ายวีดีโอ HD 1080p
|
Cybershot HX-1 นั้น จะเรียกได้ว่าเหมือนกับมีพัฒนาการมาจากกล้อง Prosumer รุ่นก่อนๆอย่าง H50 ก็คงไม่ผิดนักครับ ด้วยความที่กล้องรุ่นนี้ถูกวางตำแหน่งให้อยู่ในกล้องระดับที่เรียกว่าเป็น Compact ระดับ Prosumer นั้นคือ เป็นกล้องที่มีขนาดเป็น “Compact” แต่มีลูกเล่น การปรับแต่งการถ่ายภาพต่างๆในระดับที่ผู้ที่จริงจังในการถ่ายภาพต้องการ รวมไปถึงการที่มีเลนซ์ที่เรียกได้ว่า Super Zoom ติดมาให้ จึงทำให้มันสามารถซูมภาพได้ไกลถึง 20 เท่า หรือเทียบกับระบบฟิล์ม 135 นั้นก็คือทางยาวโฟกัส 28-560mm (ทางยาวโฟกัสเลนซ์จริงๆอยู่ที่ 5-100mm) นั้นหมายถึงว่าคุณสามารถใช้ HX1 ถ่ายได้ตั้งแต่แมลงในสวน ไปจนถึงเรือรบที่อยู่ในทะเลอันไกลโพ้นได้เลยทีเดียว นับได้ว่า เป็นกล้อง “ครอบจักรวาล” ที่มีการทำตลาดกันมานมนาน กล้องระดับนี้ ส่วนใหญ่มักจะมีฟีเจอร์แปลกๆที่มีความคาบเกี่ยวระหว่างความเป็น Compact กับความเป็นกล้องสำหรับผู้ที่จริงจังกับการถ่ายภาพอยู่มากเลยทีเดียวครับ สำหรับฟีเจอร์ที่ว่าน่าสนใจจะเป็นอะไร ก็ขอให้ได้ติดตามดูในบทรีวิวบทนี้ก็แล้วกันนะครับ
มาเริ่มที่สิ่งที่เป็นอะไรที่จับต้องได้กันก่อน นั้นคือบอดี้ กล่าวกันตามเนื้อผ้าก็คือ มันไม่ใช่ผ้า อืมม .. มันคือพลาสติกครับ พลาสติกสีดำ ที่ออกแบบสไตล์กล้อง DSLR สมัยใหม่ๆนี้ที่เขานิยมกันแหละ แต่ถ้าถามถึงคุณภาพการประกอบ ให้นึกถึงกล้อง DSLR ระดับ Entry Level ยอดนิยมในตลาดบ้านเรา นั้นแหละครับ ประมาณนั้น แต่มันเล็กกว่า และบอบบางกว่าเล็กน้อย
.
เลนซ์ไม่ยื่นมาจากตัวบอดี้กล้องมากนัก แต่มีการดีไซน์ให้รับกับมืออีกข้างที่จะมาอุ้มถือเลนซ์ได้ค่อนข้างดี
.
เมื่อถอดฝาเลนซ์ออกมาครับ
.
บริเวณ Hand Grip หลักมีการหุ้มยางบางๆ ทำให้รู้สึกกระชับและหนืดมือเมื่อจับถือ สร้างความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง
.
แฟลชปอปอัพนั้นมีความสูงไม่มากนัก
ก.
มาดูภาพเลนซ์ จากด้านข้าง เมื่อเปิดกล้อง เลนซ์จะอยู่ในสภาพนี้
.
เมื่อซูมภาพจนสุด (20เท่า) เลนซ์ก็จะยืดออกมาในสภาพนี้
.
ด้านหลังของตัวกล้อง มีจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว และปุ่มควบคุมที่มีมากกว่า Compact ทั่วๆไป แต่ก็ยังถือว่าไม่เท่า DSLR แน่นอนครับ
.
จอพับได้ เห็นแล้วนึกถึง Konica Minolta A200 ครับ ที่ตอนนี้บริษัทนี้ได้โดนโซนี่เทคโอเวอร์ไปเรียบร้อยแล้ว
.
มันพับได้สนุกดีจริงๆครับ จอเนี่ย…
.
ฝาเปิดปิดรังถ่าน กับการ์ด Memory Stick นั้นเป็นฝาเดียวกัน ทำให้รู้สึกขัดๆเหมือนกันครับเวลาที่ทำการเปลี่ยนการ์ด
.
มี Tripod Mount แบบปกติที่กล้องทั่วๆไปควรจะมีกัน
.
แบตเตอร์รี่ลิเธียม ขนาดเล็กกำลังดี
.
————————————————–
Operation & Control
.
ด้านหลังกล้อง ปุ่มควบคุมนั้นก็ดูเหมือนจะเหมือนกับกล้องคอมแพคจากโซนี่ในรุ่นอื่นๆ เล่นปุ่มลูกศร 4 ทิศ ที่ใช้ปรับเปลี่ยนระบบแฟลช หรือมาโครโหมด หรือการตั้งเวลาถ่ายภาพ ปุ่มเมนู หรือปุ่มลบรูป ที่จะดูแปลกๆไปก็คงจะเป็น Command Dial แบบกล้อง DSLR ด้านบนขวามือ (อันสีดำๆ) ที่สามารถใช้ทำการเลื่อนไปเลื่อนมาแทนปุ่มลูกศรได้ และใช้ในการปรับค่าต่างๆในโหมด M A S และ P เช่นค่าความไวแสง ความเร็วชัตเตอร์ จุดโฟกัส หรือรูรับแสง (กดตัว Dial ลงไปหนึ่งที เพื่อเืลือกว่าจะปรับค่าอะไร)
.
ด้านบนของตัวกล้องนั้นจะมีแป้นหมุนเปลี่ยนโหมดตามปกติของกล้องระดับนี้ควรจะมี ปุ่ม Play รูป และปุ่ม C (Custom Function) ที่เราสามารถตั้งค่าได้ว่าจะเลือกให้เป็นปุ่มสำหรับใช้ทำอะไร นอกจากนี้ยังมีปุ่มสำหรับการถ่ายภาพ High speed Burst หรือถ่ายภาพคร่อม (Bracketing) และสุดท้ายบริเวณปุ่มชัตเตอร์ สามารถปรับเลื่อนซูมได้ อ้อ เรื่องหนึ่งคือ กล้องตัวนี้ ไม่มีฐานเสียบแฟลช Hot Shoe มาให้นะครับ จะสังเกตว่าบริเวณแฟลชป๊อปอัพนั้นจะมีชุดไมค์แบบเสตอริโอสำหรับงานวีดิโอติดตั้งมาให้
.
ด้านซ้ายมือก็จะเป็นปุ่มสลับเปลี่ยนไปใช้ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ หรือจอ LCD ในการเล็งเพื่อถ่ายภาพ
.
ระบบค้นหารอยยิ้ม และถ่ายภาพอัตโนมัติ
มันเป็นโหมดที่ทำให้ผมและเพื่อนๆในชมรมถ่ายภาพที่มหาวิทยาลัยสนุกสนานในการใช้งาน ซึ่งสามารถใช้งานได้จริงในหลายสถานการณ์นะครับ โดยมีเกจด้านซ้ายมือคอยวัดระดับรอยยิ้มอยู่ โดยผลการใช้งานเท่าที่ผมลองดู สามารถจับรอยยิ้มได้ว่องไวในระดับหนึ่ง
.
Super SteadyShot
เป็นเทคโนโลยีลดความสั่นไหวของภาพที่เกิดขึ้นจากความสั่นไหวของมือ ที่โซนี่ได้รับการถ่ายทอดและพัฒนามาจากเทคโนโลยี Anti Shake ของ Konica Minolta เดิมที่ไปซื้อกิจการมาครับ โดยระบบจะทำการขยับ Sensor รับภาพตามแรงสั่นไหว โดยจะมีสามโหมด คือเปิดตลอด เปิดเฉพาะเวลากดชัตเตอร์ครึ่งหนึ่ง หรือปิด
.
ถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 Frame per Sec. !!!
…อีกสิ่งหนึ่งที่น่าจะเป็นสิ่งที่กล้องคอมแพคทั่วไปไม่สามารถ แต่ HX1 สามารถทำได้ นั้นคือถ่ายภาพต่อเนื่องได้ถึง 10fps … ไม่ต้อง งง ครับ Nikon D3 หรือ EOS 1D ยังต้องเรียกพี่ กับ 10fps ของ HX-1 ด้วยผลพวงจากการที่ HX1 นั้น เลือกใช้ชุดชัตเตอร์แบบกลไก ทำให้มันสามารถรัวได้ถึง 10 รูปต่อวินาที และขอย้ำว่า 10 ภาพนี้ ได้เต็มที่ ที่ความละเอียดสูงสุด 9 ล้านพิกเซลเลยนะครับ ถามว่าเท่านี้ สำหรับ Digital Compact ถือว่าดีแค่ไหน ผมให้คำว่า “สุดยอด” ได้เลยครับ สำหรับฟีเจอร์เด็ดอันนี้
.
เมื่อแช่ไว้จนครบ 10 shot แล้ว ก็จะต้องรอการประมวลผล ดังรูปนี้ครับ ขึ้นอยู่กับความเร็วของการ์ดที่ใช้ด้วยนะครับ
.
Panorama ยืดรูปเองอัตโนมัติ
เป็นอีกโหมดหนึ่งที่เล่นได้สนุกสนาน เพียงแค่หมุนแป็นเลือกโหมดเข้ามาในโหมด Panorama แล้วทำการกดชัตเตอร์ และแพนกล้องไปในทิศทางที่กำหนด กล้องจะทำการประมวลผลและประติดประต่อรูปภาพให้กลายเป็นสุดยอดภาพพาโนราม่าได้อย่างง่ายดาย (ผมลองเล่นอยู่พักใหญ่ๆ สนุกมาากกก ครับ ขอบอก !!)
มีคำแนะนำภาษาไทย ทำให้ผมมึนงงกับคำแนะนำเล็กน้อย และเมื่อลองๆไปสักพัก ก็พบทางสว่างว่า โหมดนี้ ถ้าใช้งานร่วมกับขาตั้งกล้อง จะใช้งานได้ง่ายมากๆ แต่การใช้มือ ถือถ่ายเอาก็สามารถทำได้ไม่ยากเลยครับ เพียงแค่ต้องประคองให้ดีๆเท่านั้น
.
ความละเอียดรูปที่ได้นั้นคือ 4912 x 1080 พิกเซล ครับ และสังเกตว่า มันจะทำการยืดให้เราอัตโนมัติ เป็นเส้นที่สวยงามและไม่มีอาการภาพแตกให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
.
ภาพนี้เป็นการแพนกล้องโดยการตั้งกล้องให้อยู่แนวตั้ง เพื่อเก็บรายละเอียดส่วนสูงให้มากขึ้น แต่จะได้รายละเอียดส่วนกว้างลดลง (สามารถเลือกได้ในโหมดว่าจะเอาแนวตั้งหรือแนวขวาง)
.
Zoom Test.
ในการทดสอบนี้เราจะทำการทดลองถ่ายภาพระยะซูมในแต่ละระยะ โดยเปิดใช้งาน F-Stop ที่กว้างที่สุดของทุกระยะซูม ตั้งแต่ f/ 2.8 - f/ 5.2 ที่ 20 เท่า โดยเพื่อทดสอบดูคุณภาพของเลนซ์ เช่น มีขอบม่วงเยอะไหม ? ความคมชัด หรือ การแยกรายละเอียดที่ช่วงซูมไกลๆ โดยจะมัรูป Crop 100% ให้ดูบริเวณริมภาพด้านขวาล่าง และรูปใหญ่ที่แสดงเต็มเฟรม จะเป็นรูปที่ใช้โปรแกรม Photoshop ทำการ Resize และ Unsharp mask มาแล้ว
1X (5mm) F/2.8
รูปบนคือทดสอบที่กำลังขยาย 1 เท่า (ทางยาวโฟกัส 5 มม.) จะเห็นได้ว่ายังไม่มีอาการขอบม่วง แต่ดูเหมือนว่าการแยกเส้นสายของหลังคาบ้านจะทำได้ไม่ดีนัก เนื่องด้วยข้อจำกัดของไฟล์ภาพ
.
3X (15mm) F/4
จะเริ่มเห็นขอบม่วงนิดหน่อย การแยกเส้นสายยังทำได้ดีระดับหนึ่ง
.
5X (25mm) F/4
อาการขอบม่วงดูเหมือนจะไม่มีวี่แววว่าจะเพิ่มขึ้นจนน่าเกลียด
.
10X (51mm) F/4.5
มาที่ 10 เท่า ขอบม่วงที่มีให้เห็นยังคงเหมือนเดิมครับ
.
15X (77mm) F/5
แทบจะหาจุดจับผิดยากจริงๆครับสำหรับคุณภาพของ G lenses ในการซูมไกลและเปิืด f stop กว้างสุดที่สามารถทำได้
.
20X (100mm) F/5.2
จนมาถึง 20x อาการขอบม่วงที่มีให้เห็นนั้น ถือว่าน้อยมากจนน่าตกใจ แต่คงจะเนื่องด้วยข้อจำกัดของไฟล์ ที่ยังไงก็คงสู้ DSLR ไมไ่ด้อยู่แล้ว ทำให้ภาพดูแล้วถ้าใครที่ดูภาพขยายจากกล้อง DSLR บ่อยๆ ก็คงจะรู้สึกว่าไม่ค่อยคมครับ
.
ทดสอบอัดวีดีโอคลิป ความละเอียด 1080p
(สามารถกด HQ เพื่อดูความละเอียดเต็มๆได้)
สีสันที่ได้ ก็แล้วแต่สภาพแสงในการถ่ายนะครับ กดดูคลิปด้านบนเลยจะดีกว่าครับ
.
Noise Test
ในหมวดนี้เราจะทำการทดสอบดูเกรน และ สัญญาณรบกวนของภาพในแต่ละย่านความไวแสง (ISO) ถ่ายด้วยโหมด P เพื่อแก้ไขค่า ISO ให้ได้ตามที่ต้องการทดสอบ ถ่ายที่ความละเอียด VGA (เลือกจากกล้อง) เพื่อทำการโพสต์ภาพลงในเว็บครับ.
ISO 125
Noise และเกรน พอมีให้เห็นบ้างในย่านนี้ครับ
.
ISO200
เริ่มมี เกรนโผล่ขึ้นมาให้เห็นบ้างในย่าน 200
.
ISO400
.
ISO800
.
ISO1600
น่าแปลกใจที่พอมาถึงระดับ 1600 แล้ว ในบริเวณพื้นที่สีขาว และสีดำของรูป ยังไม่ปรากฏเป็นเม็ดน๊อยซ์ที่เป็นสีแดงๆส้มๆให้เห็น จะปรากฏก็แต่เกรนของภาพที่ดูหยาบขึ้น และดูเหมือนระบบจัดการลด Noise ของกล้องจะทำการลบ Noise จนทำให้ไฟล์ดูไม่ค่อยคมลงไปบ้าง แต่ก็เพียงพอสำหรับการ Resize และโพสต์ลงในอินเตอร์เน็ตได้แบบนี้แหละครับ
.
ISO3200
และสุดท้าย ที่ ISO 3200
.
Conclusion
…สำหรับ Sony Cybershot HX-1 นั้น หลังจากที่ผมได้ลองทดสอบมาระยะหนึ่ง ผมว่ามันเป็นกล้องคอมแพคโปรซูมเมอร์ที่ผสมความเป็นคอมแพคท์ที่ใช้งานง่าย มีลูกเล่นแปลกๆให้ได้ลองกันอย่างหลากหลาย เช่น panorama ที่ใช้งานได้ดี หรือแม้กระทั่งความสามารถในระบบตรวจจับรอยยิ้มก่อนการถ่ายภาพ คุณภาพไฟล์ที่ถือได้ว่าดี สำหรับกล้องคอมแพค การจับถือที่ดี ขนาดที่เล็ก และเบา การควบคุม และปรับค่าต่างๆสามารถทำได้ดี คุณภาพเลนซ์ที่เยี่ยมยอด สำหรับกล้อง Super Zoom ติดเลนซ์ครอบจักรวาลแบบนี้ กล่าวคือ HX-1 เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ และจริงจังกับคุณภาพในการถ่ายภาพระดับหนึ่ง โดยที่ไม่ต้องวุ่นวายพกกล้องอย่างDSLR ที่ต้องพกเลนซ์ไปทีหลายๆตัว และสำหรับวันนี้ก็คงจะต้องจบแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ…
ขอขอบคุณ บริษัท โซนี่ ประเทศไทย