Review : Sony new VAIO Z (VPCZ217GH)
Share | Tweet |
Sony VAIO Z (VPCZ217GH)
…นับว่าเป็นหมัดเด็ดหมัดเมาที่แสบสรวงและเร้าใจมากเลยทีเดียวเชียวครับ กับการเปิดตัว New VAIO Z รุ่นปี 2011 ใหม่จากทางโซนี่ ที่นอกจากจะมีการรีเฟรชฮาร์ดแวร์ภายในทั้งหมด ไปใช้เป็นโปรเซสเซอร์ Core จากอินเทลใน Generation ที่ 2 นี้เสียที แต่มีอะไรมากกว่านั้นแน่นอนครับ ทั้งดีไซน์ใหม่ที่ทั้งบางกว่าและเบากว่า และในรีวิววันนี้ผมก็จะพาทุกท่านไปสัมผัสความเป็น top of the line ของโน๊ตบุ๊กภายใต้ร่มเงาของแบรนด์ “VAIO” ครับ
Processor | Intel Core i7-2620M |
Chipset | Intel HM67 |
Memory | 8GB DDR3-1333MHZ |
Graphics Adapter | Built in Intel GMA HD, Docking AMD Radeon HD6730 |
Display | 13.1″ 1920×1080 (matte) |
Harddisk | 128×2GB (SSD RAID0 config.) |
Optical Drive | N/A (Docking Blu-Ray) |
Network | Intel Centrino Advance N 6230 |
Connection Port | cardreader MS/SD/MMC,USB 2.0×1, USB3.0×1 VGA,HDMI, RJ45 |
Battery | 44Wh |
Weight | 1.16kg |
OS Bundled | Windows 7 Professional |
..ความเป็นที่สุด ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นเครื่องที่ประมวลผลได้เร็วที่สุดครับ VAIO Z มาพร้อมกับขุมพลัง Intel Core i7 แบบดูอัลคอร์ พร้อมกับดีไซน์เพียวลมกับขนาดจอ 13 นิ้วที่ต้องหยิบใบสเป็คขึ้นมาดูอีกรอบว่าเป็น 13 นิ้วแบบ Full HD (1080P) กันเลยทีเดียว กราฟฟิคการ์ดที่ติดมาให้ก็ยังคงเป็นแบบอินติเกรตภายในซีพียู แต่เพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้ได้ด้วยการติดตั้งชุด Docking ที่จะมากราฟฟิค Radeon HD6730M ติดมาให้พร้อมกับชุดไดร์ฟ Blu-Ray รวมไปถึงฮาร์ดไดร์ฟความเร็วสูงที่ถูกคอนฟิคมาจาก SSD ขนาด 128GB จำนวนสองลูก ทำ RAID 0 (Stripe) กัน นอกจากนี้อุปกรณ์แวดล้อมต่างๆก็ยังใส่ใจให้การ์ดไวเรสคุณภาพสูงใช้ชิป Intel Centrino Advance N มาให้อีกด้วย สเป็คแบบนี้ บอกได้คำเดียวเลยครับว่า น่าสะพรึงกลัว !
บอดี้นั้นทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ทนทานต่อรอยขูดขีด น้ำหนักเบา แข็งแรงทนทานเลยทีเดียว ดีไซน์โดยภาพรวมก็ทำให้รู้สึกถึงความเป็น “Premium” ได้ไม่ใช่น้อย
VAIO Z รุ่นนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวมันนั้นมีความบางกว่ารุ่นที่แล้วๆมามากพอสมควร ครั้งหนึ่งผมเคยได้สัมผัสกับ Z ตัวแรกๆ ที่ยังคงมีไดร์ฟออฟติคัลติดมาให้ในตัวเครื่อง สมัยนั้น ความหนามากกว่านี้พอสมควร
ส่วนของขอบและมุม เน้นดีไซน์ที่เป็นเหลี่ยมสัน ทำให้ดูบึกบึนแข็งแรง และสง่าดีครับ ส่วนขอบจอด้านหลังเครื่องนั้น(สีเงินๆขาวๆ) จะทำหน้าที่เป็นคล้ายๆขาตั้ง เมื่อเราจับกางจอออกมาใช้งาน
ภายในก็ยังคงใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เช่นเดียวกับภายนอก เปิดออกมาก็จะพบกับจอขนาด 13.1″ ผิวด้าน ความละเอียดระดับ Full HD 1080P ซึ่งหากใครไม่คุ้นเคยก็อาจจะพบว่าตัวอักษรที่แสดงผลนั้นค่อนข้างเล็กพอสมควร แต่ถ้าเอาไว้ใช้งานรับชมสื่อ HD ต่างๆแล้วถือว่าสมบูรณ์แบบครับ
ปุ่มบนแป้นมีลักษณะตื้น กดและดีดตัวค่อนข้างเร็ว ใครไม่คุ้นก็อาจจะทำให้รู้สึกหนักๆมือเพราะความตื้นของปุ่ม นอกจากนี้เหมือนๆกับไวโอ้รุ่นอื่นๆ ที่จะมีไฟแบกไลท์คีย์บอร์ด ทำงานร่วมกับ ambient light sensor ที่จะคอยจับสภาพแสงโดยรอบ คอยปรับแสงสว่างหน้าจอและคีย์บอร์ดให้อัตโนมัติ
บริเวณคอนโซลด้านบก็ลักษณะคล้ายกับไวโอ้รุ่นอื่นๆ ที่จะมีปุ่ม hotkey อยู่สองสามปุ่ม และใน VAIO Z สวิชระบบไวเรสก็ถูกนำขึ้นมาอยู่บริเวณนี้ด้วย
ทัชแพดขนาดพอดีมือ มองในรูปอาจจะรู้สึกว่าเล็ก แต่ถ้าได้ลองใช้งานจริงๆแล้วก็จะพบว่ามันพอดีกับเครื่องขนาด 13 นิ้วแล้วแหละครับ ความแม่นยำถือว่าใช้การได้ สมราคาค่าตัวที่เกือบแตะหลักแสนบาทดี แต่ว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องความไวที่ต้องปรับเซ็ตกันใหม่เสียหน่อย เพราะความละเอียดจอที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ระดับ HD 1080P นั้นเอง ขืนใช้ความไวระดับเดิมๆที่ตั้งมา ก็อาจจะต้องสาวเคอร์เซอร์กันเมื่อยมือครับ
.
มาถึงส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่จะทำให้ VAIO Z นั้นเป็นโน๊ตบุ๊กได้อย่างเต็มตัว ก็คือชุด Docking ที่มีลักษณะคล้ายๆกับไดร์ฟ External Blu-Ray ทั่วๆไป แต่มันมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆครับ
ตัวชุด Docking นั้นเรียกได้ว่ามีน้ำหนักพอสมควร เพราะนอกจากจะบรรจุเอาไดร์ฟ Blu-Ray เอาไว้แล้ว ยังมีกราฟฟิคชิป AMD Radeon HD6730M ติดตั้งมาพร้อมกับฮีทซิงค์และพัดลมระบายความร้อนอยู่ด้วย
ซึ่งเมื่อเชื่อมต่อชุด Docking แล้ว ตัวเครื่องก็จะเปลี่ยนการทำงานของระบบกราฟฟิคมาอยู่ที่ตัวชิปกราฟฟิคของ AMD Radeon โดยอัตโนมัติ ส่งผลให้การใช้งานพอร์ตเชื่อมต่อที่เกี่ยวกับภาพทั้ง HDMI และ VGA นั้นต้องย้ายมาเสียบที่ตัว Docking และนอกจากนี้ ก็ยังมีพอร์ต USB มาให้สองพอร์ต เป็นแบบ USB2.0 และ 3.0 อย่างละหนึ่งพอร์ต
ซึ่งการใช้งานคร่าวๆก็คือ เสียบชุด Docking เข้ากับตัวเครื่องบริเวณช่องเสียบชาร์จไฟนั้นแหละครับ แล้วก็เสียบชุดอะแดปเตอร์เข้ากับตัว Docking อีกทีหนึ่ง ซึ่งเจ้าอะแดปเตอร์ที่ว่านั้น ในกล่องมันจะมีมาให้สองชุด ชุดหนึ่ง สำหรับเสียบเข้าตัวเครื่องเปล่าๆขณะที่ยังไม่ได้เสียบ Docking หรือถ้าจะใช้ Docking ก็ต้องใช้ อะแดปเตอร์อีกชุดหนึ่ง ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่า และไม่สามารถสลับกันใช้งานได้ครับ
และสำหรับการปลด Docking ก็สามารถทำได้ด้วยการกดปุ่มบนสายเชื่อมต่อพิเศษที่คล้ายๆ USB+DC Adaptor ที่โซนี่เขาเรียกว่า Light Peak กดให้ตัวเครื่องมันทำการสลับระบบกราฟฟิคให้เรียบร้อย แล้วก็ปลดออกได้ ถ้าขืนไปดึงออกเลย ก็จะพบกับอาการจอฟ้าครับ !
ถ่ายมามุมนี้ ผมจะให้ดูความบาง และการใช้งานขณะกางฝาจอออกมาเท่านั้นนะครับ สังเกตได้ว่าขอบจอจะทำหน้าที่คล้ายๆขาตั้งไปในตัว
พอร์ตเชื่อมต่อนั้นมีมาแบบง่ายๆบางๆเบาๆ ด้านซ้ายมือจะมีเพียง VGA และช่องระบายความร้อน
ส่วนอีกด้านหนึ่งก็จะพบกับช่อง USB3.0 และ 2.0 , HDMI และ RJ45 ที่ถูกซ่อนเอาไว้ ซึ่งช่อง USB3.0 ดังกล่าวนั้น เมื่อทำการใช้งานชุด docking ตัวของมันจะทำหน้าที่เป็นพอร์ต “Light peak” เสียบคู่กับช่อง DC 19.5V ทำหน้าที่เชื่อมต่อ Docking กับตัวเครื่องหลัก
น้ำหนักเครื่องเปล่าๆรวมแบตเตอร์รี่แบบแผ่นแล้ว อยู่ที่ 1.145 กิโลกรัม ถือว่า เบามากๆ ผมทดลองถือเดินหล่อไปหล่อมาอยู่ได้สักพัก ก็รู้สึกสบายมือจริงๆครับ
เมื่อรวมกับชุดอะแดปเตอร์ตัวเล็ก ที่มีไว้เสียบใช้งานกับตัวเครื่องอย่างเดียว ก็จะหนักเพียง 1.46 กิโลกรัม
แต่เมื่อรวมกับชุด Docking และอะแดปเตอร์อันใหญ่ที่จำเป็นจะต้องใช้งานร่วมกับชุด Docking นี้แล้ว (ใช้อะแดปเตอร์เล็กไม่ได้) ก็จะหนักถึง 2.31 กิโลกรัม ซึ่งก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ของโน๊ตบุ๊ก 13 นิ้วทั่วๆไปอยู่ครับ
Performance
- รายละเอียดเครื่อง
รายละเอียดนั้นชัดเจนดังที่ได้กล่าวไปแล้วเมื่อตอนต้นบทความครับ รูป GPUZ นี้ผมกด cap มาตอนที่เสียบ docking ซึ่งระหว่างการทดสอบผมทำการเสียบ Docking ตลอดเวลา ยกเว้นการทดสอบแบตเตอร์รี่ครับ
Super PI 1M
ตอกเวลาไว้ที่ 11.81 วินาที เร็วปานฟ้าผ่าเลยทีเดียว
- Cinebench R10
หลับหูหลับตาดูคะแนนอาจจะมองว่ายังไม่โดน จนหากว่าได้มาลืมตาแล้วพบว่านี่เป็นเครื่อง 13 นิ้ว น้ำหนักรวมๆ Docking แล้วไม่ถึงสองกิโลกรัมดีนัก ก็อาจจะตกใจได้ครับ
Ciebench R11.5
Batterry Eater (60-5%) ทดสอบในโหมดประหยัดพลังงาน
…การทดสอบ ล็อคความเร็วซีพียูในโหมดประหยัดพลังงานให้ได้ความเร็วต่ำที่สุด และ ทดสอบด้วยโปรแกรม Batterry Eater ในโหมด Classic ซึ่งซีพียูและกราฟฟิคจะทำงานเต็ม 100% เวลาที่ได้ สามารถบ่งบอกได้ถึงเวลาที่สามารถนำเครื่องออกไปใช้งานในสถานการณ์จริงได้ ค่อนข้างใกล้เคียง
http://vmodtech.com/main/wp-content/uploads/northbridge/vaioz2/b/21_8_2011_1/Report.html
ประมานการจากการทดสอบ ตั้งแต่ 60 เปอร์เซนต์ จนแบตเหลือ 5 % ก็น่าจะได้ว่าใช้งานจริง คงจะอยู่ที่ประมาณ สามชั่วโมงกว่าๆครับ
AIDA64 Benchmark
CACHE & MEMORY BENCHMARK
CrystalDisk Benchmark
สำหรับการทดสอบ Disk benchmark ต่างๆก็ชัดเจนครับว่าพลัง SSD RAID0 นั้นน่าสะพรึงกลัวแค่ไหน ทั้ง Access Time ที่ต่ำ และ Read ที่สูงระดับ 400mb/s เลยทีเดียว
PCmark 05
คะแนน PCMark05 ทะลุหลักหมื่นไปด้วยคะแนน HDD Score ล้นหลามครับ กว่า 35436 คะแนนเลยทีเดียว ฮาร์ดดิสก์จานหมุนทั่วๆไปทำคะแนนตรงนี้ได้ราวๆ 4-6 พันแต้มเท่านั้น
3Dmark06
คะแนน 3Dmark ออกมาก็ถือว่าอยู่ในระดับดีเลยทีเดียว ยิ่งถ้าบอกว่านี่คือเครื่องขนาด 13 นิ้วด้วยแล้ว แค่นี้ถือว่าเหลือๆครับ
.
.
…ความ เป็นโน๊ตบุ๊กระดับ top of the line จากทางโซนี่ ผมสังเกตเห็นว่านิยามของเขา ค่อนข้างต่างจากโน๊ตบุ๊กแบรนด์จากทางไต้หวันหรือจากจีน มากพอสมควร VAIO นั้น ตอบโจทย์ตัวของมันเองกับการที่มันเป็นคอมพิวเตอร์ “NOTEBOOK” ได้สมกับสิ่งที่มันเป็นครับ ทั้งความบางเบาสะดวกในการพกพา VAIO Z นั้นเลือกที่จะใช้จอ 13.1″ แบบ Full HD ซึ่งผมว่าเป็นขนาดที่ลงตัวสำหรับการใช้งานที่ต้องการทั้งความสะดวกในการใช้งานที่ไม่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป และยังคงความสามารถในการพกพาได้ดีเยี่ยม ประสิทธิภาพที่สามารถนำมาใช้งานเหมือนกับคอมพิวเตอร์เดสก์ทอพได้จริงๆ และความสุดยอดของฮาร์ดไดร์ฟแบบ SSD ที่นำมาคอนฟิคกันแบบ RAID 0 ทำให้ระหว่างการทดสอบนั้นผมประทับใจมากระหว่างโหลดหรือรอ start เข้าระบบปฏิบัติการ
…ถึงแม้ว่าผมจะยังคงคิดถึง VAIO Z ในรุ่นก่อนๆ ที่ติดเอาออฟติคัลไดร์ฟมาให้ภายในตัว โดยไม่ต้องต่อสายอะไรให้วุ่นวายแบบนี้ แต่ผมก็ยังปฏิเสธไม่ได้ครับว่า VAIO Z ในรุ่นปีนี้ ถือได้ว่ายังทำตามสโลแกน “No Compromise” ที่โซนี่เคยใช้ไว้ได้อย่างไม่เสื่อมคลายจริงๆ ผมไม่มีข้อกังขาใดๆที่ใครจะมาบอกว่านี่น่าจะเป็นโน๊ตบุ๊กที่ดูแล้วลงตัวสมกับคำว่ามันเป็น “Notebook” ไม่ใช่แค่คอมพิวเตอร์หนักๆที่เอาไว้ยกไปยกมาระหว่างห้องรับแขกกับห้องนอน รวมไปถึงดีไซน์ในรุ่นนี้ที่ต้องบอกได้เลยว่า โดนกว่ารุ่นที่แล้วๆมาจริงๆทั้งความบางและวัสดุที่เย้ายวนใจ
…สุดท้ายผมคงจะมีข้อกังขากับ VAIO Z อยู่เรื่องเดียวครับ ก็คือเรื่องของราคาที่หลายๆท่านตามรีวิวของผมมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้แล้วอาจจะสงสัย ผมสืบทราบมา เคาะราคาตลาดอยู่ที่ 94,900 บาท ตามนี้ครับ ว่าง่ายๆก็คือ แสนนึง มีทอนนิดหน่อย หรือจะเอาไปดาวรถแทนที่จะซื้อเจ้านี่ก็ได้ไม่ว่ากัน .. สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ
.
.
ขอขอบคุณ Sony Thai
fgsdfgsdD