Review : Sony Walkman X-Series “NWZ-X1000″
Share | Tweet |
…สวัสดีครับ วันนี้ก็กลับมาพบกับรีวิวอุปกรณ์ IT กันรายวันเช่นเคย สำหรับช่วงนี้คงเป็นช่วงที่เพื่อนๆที่เป็นนักเรียน นักศึกษา กำลังจะเข้าสู่หรืออยู่ในฤดูสอบมิดเทอมกันนั่นเอง ถือได้ว่าวุ่นวายมากเลยทีเดียวสำหรับชีวิตผม เพราะในห้วงเวลานี้ ผมได้รับอุปกรณ์ จำพวก Gadget จากผู้สนับสนุนหลักของเรา นั้นก็คือ Sony Thai กับเครื่องเล่น MP3 หน้าจอแบบทัชสกรีนรุ่นล่าสุดอย่าง Walkman X series มาทำการทดสอบพร้อมกับระยะเวลาอันน้อยนิด แต่Vmodtechเราสามารถอยู่แล้วครับ เรามาชมกันดีกว่าครับว่าทางโซนี่จะมีไม้เด็ดอะไรมาต่อกรกับคู่แข่งค่ายผลไม้นอกที่กำลังโด่งดังในขณะนี้
…ฟีเจอร์หลักๆของ Walkman X นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นความเป็นเครื่องเล่น MP3 ระดับพรีเมียมจากโซนี่ พร้อมเทคโนโลยี Noise Canceling แบบ Digital ที่แตกต่างกันเล็กน้อยจาก S Series ที่เราเคยได้รับมารีวิวและจัดกิจกรรมไปเมื่อประมาณช่วงปลายปีที่แล้ว Walkman X นั้นมาพร้อมกับจอทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว แบบ OLED ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่ให้ความสว่างและมุมมองในการรับชมภาพที่ดีกว่าจอแบบ LCD แบบเดิมๆอย่างเห็นได้ชัด พร้อมรองรับการเล่นไฟล์เพลงทั้งแบบ MP3 WMA AAC และ Linear PCM ระบบเสียงนั้นมีฟังก์ชั่น Noise Canceling แบบ Digital ช่วยตัดเสียงรบกวน ซึ่งมาพร้อมกับหูฟัง Noise Canceling และระบบ WiFi มาตรฐาน IEEE802.11 B/G พร้อมบราวเซอร์อินเตอร์เนต และ Youtube session ในตัว และลูกเล่นระบบเสียงอีกมากมาย
.
*ข้อมูลจากเว็บไซต์ Pre booking walkman X Series
Walkman X-Series “NWZ-X1000″ นั้นมีความจุให้เลือกสองรุ่น นั้นคือ 16 และ 32GB
.
ตัวเครื่องของ Walkman X นั้นก็โล่งๆตามสไตล์ของเครื่องแบบทัชสกรีน ด้วยจอขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 432*240 พิกเซล แบบ OLED และปุ่มกดที่มีให้เห็นคือปุ่ม Home สำหรับการกลับมาที่หน้าจอของเมนูหลักของเครื่องนั้นเอง ตัวบอดี้นั้นให้ความรู้สึกหนักแน่นดีมากๆ กับลายเครื่องที่แฝงประกายระยิบระยับ ก็แน่นอนล่ะครับ จะไม่หนักแน่นได้อย่างไร ก็ในเสป็คเขาเคลมมาว่าน้ำหนักตัวเครื่อง 98 กรัม ถือได้ว่า หนักพอสมควรเลยทีเดียว
.
ต้องยอมรับว่าเนื้องานนั้นสวยและเนียนจริงๆแต่ก็แลกมาด้วยน้ำหนักที่อาจจะมากไปสักนิดสำหรับการใส่กระเป๋าเสื้อสำหรับคนที่มีรูปร่างไม่ใหญ่มากอย่างผม แต่ความรู้สึกในขณะจับถือ ถือได้ว่าดีมากๆสำหรับเครื่องที่มีบอดี้ที่สวยงามแบบนี้ ด้านหลังเครื่องมีปุ่ม Hold ใช้วิธีการเลื่อนขึ้น-ลง เป็นปุ่มขนาดใหญ่ เลื่อนง่ายดีมากๆครับ
.
ด้านข้างซ้ายมือ ดูจากลักษณะพื้นผิวของวัสดุ น่าจะพอบอกได้ครับว่ามันแน่นหนาขนาดไหน พร้อมกับสัญลักษณ์ walkman พิมพ์ติดอยู่ด้านข้างตามสไตล์ของเครื่องเล่น Walkman ทรงสี่เหลี่ยมสมัยนี้
.
ด้านขวามือ เหมือนจะบรรยายสรรพคุณไว้บ้าง ด้วยปุ่มเปิดปิดระบบ Noise Canceling และโลโก้ Digital NC (Noise Canceling) และรูสำหรับกดทำ Hard Reset กรณีที่โปรแกรมเครื่องมีปัญหา และปุ่มปรับโวลุ่มที่ยังคงเป็นปุ่มกดขึ้นๆลงๆเหมือนเคย
.
ด้านบนเป็นช่องสำหรับใส่หูฟัง และปุ่มควบคุมการเล่นเพลงอีกสามปุ่ม ที่ดูเหมือนว่ามันจะออกแบบมาเพื่อรอบรับการใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ ทำให้สามารถกดหยุด เล่น หรือเลื่อนเพลงไปมาได้โดยไม่ต้องหยิบออกมาจากกระเป๋า รวมไปถึงช่องเสียบหูฟังที่อยุ่ด้านบน ป้องกันการหักงอ เมื่อเราใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อนั้นเอง จะสังเกตได้ว่า ระบบ Noise Canceling ในเครื่อง Sony รุ่นนี้นั้นไม่จำเป็นจะต้องมีรูบากสำหรับสัญญาณการตัดเสียงรบกวนแต่อย่างใด เพราะเป็นระบบ Digital แบบใหม่ที่ไม่เหมือนกับ Walkman S Series ที่เราได้เคยรีวิวไปแล้วในบทความนี้ ในรุ่นก่อนที่ต้องมีรู บาก บริเวณช่องหูฟังเพื่อใส่หูฟังที่รองรับกับระบบตัดเสียงรบกวน
.
ส่วนด้านใต้ก็เป็นพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับ USB ด้วยสายที่มีมาให้ในกล่อง แต่สำหรับในวันนี้ เราได้รับมาเพียงแค่สาย และหูฟังสำหรับการทดสอบเท่านั้นครับ
.
อันนี้คือตัวหูฟังที่ติดมากับเครื่องครับ ดีไซน์นั้น เหมือนกับที่มีอยู่ในตัว Walkman S Series เลยทีเดียว เพราะเป็นหูฟัง Noise Canceling เหมือนกัน ตัว Ear Bud นั้นทำมาจากซิลิโคน ซึ่งถามว่านิ่มมั้ย ก็นิ่มในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มากมายนัก
.
แจ๊กหูฟังชุบทอง เพิ่มความสามารถในการนำสัญญาณ สังเกตได้ว่ามันไม่มีขั้วสำหรับระบบ Noise Canceling แบบเก่าอีกต่อไป
.
ความสามารถของจอ OLED มุมมองจอ เคลมว่า180องศา !! จริงหรือไม่ !!!
จุดเด่นที่น่าสนใจของ X Series ที่ดูแล้วมันเหนือกว่าคู่แข่งทุกแบรนด์ในโลก ที่เด่นสุดๆก็คงจะเป็นจอ Touch Screen แบบ OLED ขนาด 3 นิ้ว ที่ให้อัตรา Contrast Ratio ที่สูงถึง 10,000:1 ซึ่งสูงกว่าจอ LCD ขนาดเล็กทั่วๆไปอยู่มากมายเลยทีเดียว นอกจากนี้ จุดแข็งของจอแบบ OLED ก็คือความเร็วในการตอบสนอง ที่ต่ำกันถึงระดับ 0.01ms ในขณะที่ LCD สมัยใหม่ทั่วไปนั้นจะอยู่ที่ 2-8ms ต่างกันราวฟ้ากับดินเลยครับ ลองดูตัวอย่างภาพที่เห็นนะครับว่าสีมันสดและจัดขนาดไหน นี่ขนาดภาพถ่ายนะครับ ถ้าท่านได้ไปสัมผัสของจริงล่ะก็รับรองตะลึงแน่นอนครับ
.
จุดแข็งอีกประการหนึ่งของจอแบบ OLED นั้นคือมุมมองในการรับชมภาพในทุกระนาบ ที่มากถึง 180 องศา ดังนั้นเราจะสังเกตได้ว่า จอ OLED จะไม่มีอาการสีเพี้ยน หรือจอมืดเวลาที่เรารับชมภาพจากทางด้านข้างของจอ ดังรูปครับ ถ้ายังไม่เชื่อ ลองมาดูมุมอื่นกันบ้างดีกว่า …
.
ผู้รีวิวเริ่มเกิดอาการมันส์ในอารมณ์กับการพลิกไปพลิกมา ขอแสดงให้ดูอีกรูปนะครับ
.
เอียงจนระยะชัดของกล้องที่ผมใช้ถ่ายมันทำได้ไม่ถึงแล้ว ก็ยังคงความสว่าง และสีไม่เพี้ยนอยู่เหมือนเดิม เรียกได้ว่าเป็นจุดแข็งที่น่ากลัวสำหรับคู่แข่งมาก แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างจะสูงกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควรเหมือนกัน
และในหน้าต่อไป จะว่าด้วยเรื่องของฟีเจอร์หลักๆที่น่าสนใจ และการทดลองฟังเสียงครับ
.
Menu & Features Walkman X Series
หน้าจอเมนูหลัก สามารถเข้าถึงได้เกือบทุกฟีเจอร์ ที่เจ้าเครื่อง Walkman ตัวนี้สามารถทำได้ครับ
.
เมนูการเล่นเพลงนั้น มีการแสดงรูปหน้าปกตามที่ใส่ข้อมูลไว้ใน Lyric ของไฟล์อยู่ตลอดเวลา รองรับการเล่นไฟล์เสียงแบบ MP3 , AAC-LC2, Linear PCM รวมไปถึง WMA
.
เมนูการค้นหาเพลงก็ดูแล้วเข้าใจค่อนข้างง่าย สามารถเลือกค้นหาตามประเภทที่ต้องการได้ไม่ยากเย็นนัก ตัวเมนูนั้นมีความเป็นโซนี่อยู่มาก แบบที่เราจะพบได้ในวอล์คแมนรุ่นอื่นๆที่ถึงแม้จะไม่ใช่ทัชสกรีน และเมื่อพอเป็นหน้าจอแบบทัชสกรีนแล้ว ความสะดวกสบายในการเลื่อนเปิดหน้าจอซ้าย-ขวา บน ล่าง ย่อมสะดวกสบาย ใช้งานง่ายดายยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งถ้านึกภาพไม่ออก ก็ลองชมคลิปใน youtube ที่ทาง cnet ได้ทำเอาไว้ ตามลิงค์นี้เลยครับ
.
ส่วนนี่เป็นฟีเจอร์ที่ตัวเครื่องจะพยายามค้นหาลิงค์ที่เกี่ยวข้องกับเพลงที่เรากำลังฟังอยู่ครับ
.
การคอนฟิคค่าต่างๆเกี่ยวกับระบบเสียง มีลูกเล่นมาให้เยอะแยะมากมาย ที่น่าสนใจก็คงจะเป็น Equalizer แบบ Custom 2 preset ที่สามารถปรับได้ค่อนข้างละเอียด ทำให้ระบบเสียงในเครื่องสามารถปรับแต่งทำลายจุดอ่อน หรือปรับแต่งเพื่อความพึงพอใจส่วนบุคคลได้อย่างดี
.
หน้าตาของ Custom Equalizer มีเทคโนโลยี Clear Bass ช่วยเพิ่มความหนักแน่นและความเคลียร์ของเสียงในย่านความถี่ต่ำๆ ส่วนตัวผมชอบเปิดสัก 1-2 จะให้เสียงที่ฟังกำลังเพราะ พอได้ยินทำนองกรุ๊งกริ๊งๆ บวกกับเสียงเบสที่ลงลึกและแน่นกำลังดีครับ
.
แม้กระทั่งวิทยุ FM ก็ยังคงมีติดมาให้ แต่ไม่มี AM นะครับ
.
เมื่อเราเข้าเมนู WWW ระบบจะพาเราเข้าบราเซอร์ที่มีชื่อเรียกว่า Netfront แต่ก่อนที่เราจะเข้าได้ ระบบจะถามเราให้ทำการเชื่อมต่อกับระบบ Wireless Lan เสียก่อน ในเครื่องนี้ รองรับระบบความปลอดภัยของ wlan สูงสุด WPA2 แต่การกรอก WPA key นั้น ดูท่าทางจะทุลักทุเลสักหน่อยครับ ดังรูปด้านล่าง
.
แป้นกรอกคล้ายๆกับในโทรศัพท์ทั่วๆไป ที่ต้องกดหลายๆครั้งเพื่อให้ได้ตัวอักษรที่ต้องการ ซึ่งรวมไปถึงแป้นที่จะใช้ทำการกรอก URL ของเว็บไซต์ด้วย ในส่วนของการแสดงผลหน้าเว็บนั้นพบว่า ภาษาไทยนั้นไม่ค่อยจะสมบูรณ์สักเท่าไหร่ครับ โดยจะมีปัญหาในเรื่องวรรณยุกต์ แต่ก็ยังพออ่านออกได้ครับดังภาพ แต่ถ้าเป็นเว็บภาษาอังกฤษนั้น แสดงออกมาได้สมบูรณ์ดี รวมไปถึงไม่รองรับไฟล์ประเภท Flash movie หรือแบนเนอร์ด้วยครับ
.
ถ้าจะว่ากันจริงๆแล้ว ผมมองว่าระบบ WiFi ในตัวของ Walkman Xนั้น ดูเหมือนจะมีไว้เพียงแค่ใช้งานกับเจ้าฟีเจอร์นี้เสียมากกว่า มันคือ youtube session ที่ทำให้เราสามารถเปิดดูคลิปบน youtube ที่อัพเดตกันรายวันได้ทุกที่ที่มี hot spot นั่นเอง
.
และสุดท้าย ระบบ Noise Canceling นั้น ก็ยังคงฟีเจอร์ External Input แบบที่ S series เคยมี
.
ทดลองฟังเสียง
จากการที่ได้เปิดฟังเสียง ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า ตัวผมเองนั้น ไม่ใช่คอ Audiophile หรือนักฟังหูเทพหูทองอะไรแต่อย่างใด ผมเขียนบรรยายในส่วนนี้จากสิ่งที่ผมได้ยินและรู้สึก ซึ่งในบางครั้งอาจจะมีผิดพลาดไปบ้าง ก็ขอได้อย่าถือสา และขอให้ไปทดลองฟังเสียงตัวจริงกันเอง จะเป็นการดีมากครับ ส่วนตัวที่ผมได้ทดลองฟัง ความรู้สึกที่ได้ มันก็คล้ายๆกับ Walkman รุ่นก่อนที่ผมเคยได้ลองฟังไปอย่างในรุ่น S738 บุคลิกของเสียงก็จะมาแนว ออกครบ ฟังสบาย เบสมีให้ฟังกันบ้าง แต่ถ้าไม่ได้เร่งเอาจากซอฟท์แวร์ Equalizer นั้น เสียงที่ได้ผมพบว่ายังไม่ใสเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับการเปิด Clear Bass ใน Custom Equalizer สรุปแล้ว หากฟังโดยที่ไมได้ไปยุ่งอะไรกับ Equalizer และเปิดโหมดต่างๆตามค่า Default ที่ตั้งมาจากโรงงาน เสียงที่ได้นั้น ก็คือมีรายละเอียดที่ดี สมราคาแน่นอน
ฟีเจอร์อื่นๆเช่น Noise Canceling นั้น ยังคงทำงานได้ดีเหมือนกับ Walkman รุ่นอื่นๆ ส่วนตัวผมแยกไม่ออกว่า Digital Noise Canceling กับ Noise Canceling ที่ผมเคยลองฟังใน NWZ S738 นั้น มันแตกต่างกันอย่างไรนอกจากลักษณะทางกายภาพที่ได้เห็นไปในรีวิวบทนี้
.
สรุป
เครื่องเล่น MP3 ระดับพรีเมียม ราคา ระดับพรีเมียม กับราคาที่ผมค้นหาดูในอินเตอร์เนตคร่าวๆนั้น ไม่ต่ำกว่า 400 ดอลล่าสหรัฐ ถือได้ว่า แพงกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควร แต่ถ้าพูดถึงลูกเล่นในแง่ของความสนุกสนานในการใช้งาน ฟีลลิ่ง หรือดีไซน์แล้ว ตัว Walkman X นั้นจะให้อารมณ์แบบผู้ดี เน้นในเรื่องของเนื้องานที่สวยงาม ฟีเจอร์ที่ใช้งานจริง อัดมาให้แน่นเอี๊ยด สมกับความเป็น MP3 player เช่นการปรับ Custom Equalizer หรือเทคโนโลยี Clear Stereo หรืออื่นๆที่เกี่ยวกับลูกเล่นทางด้านเสียง หรือไม่ว่าจะเป็นจอทัขสกรีนแบบ OLED ที่ให้ภาพและสัมผัส รวมไปถึงมุมมองที่ดีมากๆ สำหรับข้อเสียที่ผมพบก็คือ บราวเซอร์ที่ยังทำงานได้ไม่ค่อยสมบูรณ์สักเท่าไหร่กับภาษาไทย กับแป้นพิมพ์ที่พิมพ์ค่อนข้างยาก ซึ่งเหมือนว่าที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าถูกจำกัดด้วยขนาดของตัวเครื่องนั่นเองครับ
และสำหรับวันนี้ก็ต้องขอกล่าวลากันไปก่อน สวัสดีครับ
.
.
ขอขอบคุณ Sony Thai. เอื้อเฟื้อ Walkman X สำหรับการทดสอบ