Review SORCH Audio DAC สัญชาติไทย
Share | Tweet |
…สวัสดีครับพี่ๆสมาชิก Vmodtech ทุกท่าน หายหน้าหายตาไปจากบทความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสุนทรีย์ในอารมณ์กันพักนึง วันนี้กลับมาพร้อมกับอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ แต่ว่ามีดีในตัวเองพอที่จะเอามาบอกกล่าวเล่าแจ้งให้ฟังกันนิดนุง ซักเมื่อปลายอาทิตย์ก่อน เปิดหน้าซื้อขายของบอร์ดเราก็ไปพบกับกระทู้นึงที่โพสขาย USB DAC ตัวเล็กๆราคาก็ไม่รุนแรงมาก ก็ได้ทำการติดต่อไปกะว่าจะเอามารีวิวเป็นบทความให้พี่ๆได้พักจากความแรงที่เว็บมาสเตอร์ท่านอื่นที่ประเคนกันมาทุกวันต่อเนื่องเป็นเวลานานพักใหญ่แล้วมั๊ง บอกแล้ว Vmod น่ะ แรงจริง เง้อ
…เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ สำหรับ USC DAC ที่เราจะมารีวิวกันวันนี้ เจ้าของผู้ผลิตได้ทำการจัดส่งให้ผมพร้อมกับถุงผ้าขนาดกำลังสวยงามดังที่เห็นในรูปเลยครับ
รายละเอียดของตัว DAC ตัวนี้จากผู้ผลิตครับ
Specifications
- Dimensions 27mm , 72mm , 6mm (W:L:H)
- Sampling Rate 32 , 44.1 , 48 KHz from internal crystal
- Bit Depths 16-bits
- Dynamic Range 98 dB
- Signal-to-Noise Ratio 98 dB
- Frequency Response 20Hz - 20KHz
- THD + N 0.006%
- Power Output 12mW
- Interface & Converter PCM2704
- Input : Fully Compliant With USB 1.1 (Plug & Play functionality)
- Output : 3.5mm Mini Stereo Jack & S/PDIF Supported
ตัวชูโรงของเค้าคือเจ้าตัว PCM2704 นี่หล่ะครับ แต่ยังงัยก็ดีต้องลองฟังเสียงดูครับโดย
ผมจะลองเอามาฟังเทียบกับ Onboard ของ Laptop โดยจะอ้างอิงเสียงจากเครื่องเล่นซีดีบ้านเก่าๆของผมซึ่งใช้มาหลายปีแล้ว
.
สำหรับชุดที่ผมใช้รับฟังเสียงของ USB DAC ก็ตามรูปด้านล่างนะครับ
- ลำโพง ProAc Tablette 50 Signature วางบนขาตั้ง AudioArt สูง 24 นิ้ว ใส่ทรายละเอียดนิดหน่อย
- ปรีแอมป์ Creek 4330 ต่อเฉพาะภาคปรี Passive
- พาวเวอร์แอมป์ NAD C270
- สายสัญญาณทั้งระบบ Supra EFFI หัว WBT ความยาว 75 เซนติเมตรทั้งหมด
- เครื่องเล่น CD NAD C540
- สายลำโพง Alpha Core MI Center Stage ต่อแบบ Single wire โดยใช้ Jumper Cardas เชื่อมขั่ว tweeter กับ Woofer เข้าด้วยกัน
- สายไฟ Supra LoRad เข้าที่ Eagle สีน้ำตาล แล้วไปเข้า FIM อีกที
- ปรับอคูสติกในห้องจำกัดได้แค่ด้านข้างด้วย Diffuser ร่องกลางตามมาตรฐาน RPG
- ลำโพงวางห่างกัน 173 เซนติเมตร ห่างผนังหลัง 141 เซนติเมตร ห้องขนาด 3.95 x 7.5 เมตรโดยประมาณ
.
…หลังจากที่ได้รับเจ้าตัว DAC นี้แล้วก็รีบเสียบเพื่อฟังว่ามันเสียหรือเปล่า 55 โอเชมีเสียงออก แต่ด้วยภาระกิจที่รัดตัว ทำให้ต้องรีบเสียบสายไฟแล้ว Burn ด้วยแผ่น Ayre ทิ้งไว้ข้ามวันข้ามคืนสองคืนเต็มๆ
ลืมไปนิดครับ หลังจากที่เราเสียบเจ้า DAC ตัวนี้เข้าไปแล้ว ตัว Windows จะสามารถ Detect อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้อย่างสบายๆครับ ไม่ต้องเป็นห่วงสำหรับมือใหม่ว่าจะต้องวุ่นวายกับการติดตั้ง รวมถึง Driver ด้วย
ไม่มีปัญหาสำหรับ Windows XP ตัว Windows มองเห็นอุปกรณ์ชิ้นนี้ว่าเป็น HandyDAC by SA ครับ
.
รวมทั้ง Windows 7 ก็ไม่มีปัญหาเช่นกันครับ
…เอาล่ะครับ เอนหลังบนโซฟาฟัง เสียงที่ได้ยินหลังจากที่เบิร์นเป็นเวลาสองวันสองคืนเต็มๆทำให้ผมรู้สึกว่า มันดีกว่าออนบอร์ดของ Laptop เป็นกระบุงเลย จากเดิมที่เสียงเพลงที่รับฟังผ่านออนบอร์ดฟังดูจะอมๆ รายละเอียดไม่มีเลย แถมเวลาเปิดฟังดังๆก็คมกัดหูมากมาย ฟังแล้วหมดอารมณ์ แต่วันนี้ฟังดูเข้าท่าครับ
.
…ลองเปิดเพลงไทยๆฟังสบายๆกับเพลงที่ชอบ “คำตอบที่ไม่อยากได้ยิน” ของโบลิ่ง แหม๋ รายละเอียดดีเยี่ยมครับ เสียงนักร้องชัดเจนมีรายละเอียดน่าฟัง หดหู่ตามอารมณ์ของเพลงได้ดีเลย เวทีเสียงที่ออกมาดูว่าจะกระจุกอยู่ตรงกลางลำโพงเป็นส่วนใหญ่ และไม่ดีดตัวออกไปในอากาศทั้งด้านข้างและด้านลึกแต่ไม่ถึงขนาดว่าน่าเกลียด (เพราะนี่เรากำลังพูดถึง DAC ราคา 700 บาทอยู่)
…เปลี่ยน Selecter ที่ Preamp ของผมเพื่อไปฟังเพลงเดียวกันจากเครื่องเล่นซีดี อูย ต้องยอมรับครับ เสียงที่ได้ยินจาก DAC ยังอ่อนชั้นเชิงจากเครื่องเล่นซีดีบ้านอย่าง NAD C540 อยู่พอสมควรครับ รูปวง ระดับชั้นความลึกของเวทีเสียง รวมถึงความอิ่มเอิบของเสียง ยังสู้ไม่ได้ครับ
…กลับมาฟัง DAC เปลี่ยนแผ่นเป็น Rain Forest เสียงกลองญี่ปุ่นที่กระหน่ำตีแสดงให้เห็นความชัดเจนของเสียงรวมถึงรายละเอียดที่ดีพอสมควรครับ แต่ยังฟังดูว่าน้ำหนังเสียงและพลังที่หัวไม้กระหน่ำลงบนหนังกลองยังไม่สดและมีขนาดสมจริงเท่าที่ควร อันนี้ผมไม่รู้นะครับว่ามันจะเกี่ยวเนื่องกับ Output ที่ออกมาจาก DAC หรือเปล่า เพราะว่าผมต้องเปิด Volume ของ Preamp ไปที่เที่ยงโน่นเลยถึงจะได้ยินเสียงเต็มห้องผม (Power Amp ผมพิกัด 120 วัตต์ที่ 8 โอห์ม และ 200 วัตต์ที่ 4 โอห์ม) ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงทางผู้ผลิตก็มีการบ้านเพิ่มแล้วล่ะครับ
…หลังจากฟังไปซักพัก หยิบแผ่นโน้น แผ่นนี้มาฟังเปรียบเทียบกัน มันก็ต้องบอกว่าตัว HandyDAC ตัวนี้ให้เสียงดีกว่าออนบอร์ดอย่างไม่มีข้อกังขา จริงๆผมก็ได้นำตัว DAC ไปเสียบเล่นที่คอม Desktop ผมด้วย ซึ่งซาวน์ออนบอร์ดของ Asus P5Q Pro ก็ต้องยอมเช่นกัน แต่เสียดายว่า Desktop ผมมีปัญหาเรื่องไฟ ทำให้ไม่สามารถยกมาเสียบกับชุดฟังเพลงนี้เพื่อเปรียบเทียบในคราวเดียวกันได้ ต้องขออภัยด้วยครับ
…อ่ะ มาต่อ หลังจากฟังมาร่วมสองชั่วโมงแบบจับผิด (กรรม) ก็เข้าใจแล้วครับว่า เจ้า DAC ตัวน้อยตัวนี้ชอบแจกแจงรายละเอียด ให้เสียงที่โปร่ง เงียบใช้ได้ เลยหยิบแผ่นอคูสติกขึ้นมาเล่น Tritute to the Great King เป็นเพลงแจ๊สเบาๆซึ่งเป็นชุดบทเพลงที่ประพันธ์โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา เล่นโดยทีมงานของเชสกี๊ ฟังเพลินครับ ไม่มีคำว่ากัดหูเลยแม้แต่น้อย แต่ติดว่าจะเค้นๆที่ปลายเสียงกลางแหลมของ Sax ตอนช่วงที่โหนอยู่บ้าง บรรยากาศในวงจะดูว่าโหรงเหรงไปหน่อยถ้าเทียบกับเครื่องเล่นซีดี แต่ก็อีกครับ ผมฟัง DAC ตัวนี้ผ่านหูฟังรุ่นพระเจ้าเหาของผม SENNHEISER HD435 จะฟังว่าจุดด้อยตรงนี้ไม่ได้เป็นจุดสำคัญเท่าไหร่
…ฟังอยู่เพลินๆ มือดันไปคลิ๊กเข้าที่ Folder LAMB OF GOD Sacrament เข้าให้ แผ่นนี้ผมริปไว้ที่ 320 ครับ เสียงริฟจากเพลง Redneck ช่วง intro ที่สาดมาพร้อมกับกระเดื่องที่รัวเป็นชุดมานั้นยังไม่ซาดิสพอครับ ชัด สะอาด มีรายละเอียดดีแต่น้ำหนักเสียงยังขาดไปครับ ไม่แน่ใจเลยเสียบสายหูฟังเข้าแทน อืม มันดีกว่าครับ ดูว่าเจ้า DAC ตัวนี้จะรัก Headphone มากกว่าชุดลำโพงใหญ่พอสมควรเลยครับ ก็แต่ละ เค้าวางเจ้าตัวนี้ไว้คู่กับ Headphone นี่นา
…ลองเปลี่ยนเป็นแผ่นยอดนิยมที่เอาไว้โชว์มิติกันบ้าง Rythm Basket ชุดแรก รายละเอียดเสียงดีเยี่ยมครับ การแพนเสียงของ DAC ตามกลองที่ถูกตีนั้นถูกต้องน่าติดตาม มิติแม้ว่าจะไม่ใหญ่โตเหมือนกับเครื่องเล่นซีดี แต่ว่าระนาบของเสียงจากแผ่นนี้ก็ดีดออกไปด้านหลังในระยะที่ใกล้เคียงกับซีดีเลยครับ อืม อันนี้เข้าท่า
.
…ไหนๆก็หลุดเข้าไปที่ Thresh แล้วจะไม่แวะไปฟังสุดยอดวงโปรดผมมันก็กะไรอยู่ 55 พอดีโหลดคอนเสิร์ต Metallica เล่นที่ฝรั่งเศสมาด้วย เอาซ๊ะหน่อย แต่กับหูฟังนะ สนุกสนาน รุกเร้าเอาเรื่อง รายละเอียดของเสียงกีตาร์ของป๋าเจมส์ มันแข็งโป๊กดีจริงๆ วัยรุ่นอย่างผมชอบมาก
.
พิมพ์มาเยอะ เริ่มคอแห้ง เด๋วไปพักแป๊บนึงนะครับ…
หน้าสุดท้ายของบทความเลยดีกว่าเริ่มง่วงแล้ว 55
…ถ้าถามผมว่า ถ้าผมมีงบประมาณจำกัดสำหรับ sound card ที่ให้เสียงเทพๆทั้งหลาย หรือว่าต้องการเสียงที่ดีกว่าออนบอร์ดอย่างไม่มีข้อกังขา 700 บาทสำหรับ USB DAC ตัวนี้ไม่แพงเลยครับสำหรับรายละเอียดเสียง ความสะอาด และความโปร่งของเวทีเสียง ติว่าจะอ่อนแรงปะทะไปนิด โทนเสียงโดยรวมสมดุลย์อย่างที่ควรจะเป็น เร่งทุ้มที่ลำโพงขึ้นอีกนิดก็จะพบว่ามันไม่ขี้เหร่เลยสำหรับราคานี้ แต่คงต้องบอกตรงๆว่า มันไม่สามารถไปเทียบกับพวก X-Fi รุ่นใหญ่ๆหรือว่าตัว Asus อย่างที่ผมเคยรีวิวไว้เมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งเจตนาของผู้ผลิตก็คงไม่ได้คาดหวังว่าจะไปวางตลาดเดียวกันน่ะครับ
แว่วๆว่าอาจจะมีทีเด็ดจากผู้ผลิตอีกครั้ง ก็คงต้องติดตามกันต่อไป สำหรับวันนี้หมดหน้าที่แล้วครับ ขอไประบายอารมณ์กับกีตาร์ก่อน สวัสดีครับ…
ขอบคุณ SORCH Audio สำหรับ HandyDAC รีวิวบทความนี้ครับ
.
tpp
7 สิงหาคม 2552
.