Review : Tenda W150M Wireless AP/Router
Share | Tweet |
…สวัสดีท่านผู้อ่านอีกครั้งครับ ช่วงนี้ก็พักจากโน๊ตบุ๊กแรงๆ ของหนักๆ มาชมฮาร์ดแวร์เล็กๆ แต่ความสำคัญของมันไม่เล็กไปตามขนาดของมัน อย่างอุปกรณ์จำพวก Wireless Access Point ขนาดพกพา ที่มีคุณสมบัติทำตัวเป็น Repeater และ Wireless Router ได้ในตัวจากค่ายอุปกรณ์เน็ทเวิร์คน้องใหม่สำหรับตลาดบ้านเราอย่าง Tenda W150M กันดีกว่าครับ
…Tenda W150M เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเป็น Wireless Access Point , Router และ Firewall ได้ในตัว ที่ออกแบบมาให้รองรับกับมาตรฐาน IEEE802.3 สำหรับแลนแบบสายทองแดงคู่เกลียวบิดทั่วไป และ IEEE802.11B/G/N สำหรับแลนแบบไร้สายในย่านความถี่ 2.4GHz ที่รองรับความเร็วสูงสุดในมาตรฐาน Wireless “N” 150Mbps ตามชื่อรุ่นนั้นเองครับ
โดยในด้านหลังกล่องนั้น ก็จะมีระบุไว้ให้อ่านกันอย่างเข้าใจง่ายๆเป็นภาษาอังกฤษ ถึงโหมดการทำงานแต่ละอย่างในตัวเครื่องครับ โดยโหมดการทำงานทั้ง 5 โหมด ผมจะได้พูดถึงในตอนหลังของบทความ
อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่องนั้น ก็มีมาแบบครบๆ ถึงแม้จะเป็นอุปกรณ์ขนาดสำหรับพกพาแบบนี้
…ตัว W150M นั้นเป็น Wireless AP/Router ที่รองรับการทำงาน Wireless network มาตรฐาน N ความเร็วระดับ 150Mbps มีโหมดการทำงานทั้งหมด 5 โหมดด้วยกันคือ AP, Client + AP , WDS + AP, WISP และ Wireless Router ซึ่งในโหมด Router นั้นอย่าเข้าใจผิดว่ามันคือ ADSL Router นะครับ เจ้า W150M ตัวนี้ ไม่มี ADSL Modem ติดมาให้ในตัว ถ้าหากต้องการจะเชื่อมต่ออินเตอร์เนทผ่าน ADSL ก็จำเป็นจะต้องมี ADSL Router หรือ ADSL Modem อีกตัวหนึ่ง ซึ่งรายละเอียดนั้นผมจะลงลึกให้ในส่วนของการใช้งานครับในหน้าถัดไป
…ตัวเครื่องนั้นใช้แหล่งพลังงานจากพอร์ต USB ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะต่อ USB จากโน๊ตบุ๊ก / พีซี หรือจะใช้อะแด๊ปเตอร์จากไฟบ้านแปลงเป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าให้กับตัวเครื่อง โดยพอร์ต USB ที่เห็นนั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆในเชิงการเชื่อมต่อข้อมูลของตัวเครื่องทั้งสิ้นครับ ส่วนพอร์ต RJ45 ก็มีมาให้แค่พอร์ตเดียว ใช้ร่วมกันเลยระหว่าง LAN/WAN ซึ่งจะขึ้นอยู่กับโหมดการทำงานที่เราเลือก
ด้านใต้มีรูระบายความร้อนเป็นแถบใหญ่ตลอดตัวเครื่อง
…ขนาดนั้นเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊กจอ 13 นิ้วแบบนี้ก็ยังดูเล็กๆอยู่ดี ซึ่งเอาจริงๆแล้วมันสามารถพกใส่กระเป๋ากางเกง/กระเป๋าเสื้อใหญ่ๆสักหน่อย ไปไหนมาไหนได้สบายเลยทีเดียว ประกอบกับไม่จำเป็นต้องใช้ไฟจาก adaptor คือจะใช้ไฟจากโน๊ตบุ๊กก็ได้ จึงทำให้สะดวกในการพกพาไม่ใช่น้อย
อะแดปเตอร์ที่เป็น Switching powersupply ขนาดเล็ก จ่ายแรงดัน 5 โวลต์ กระแสสูงสุด 1.2A ก็คือน่าจะกินไฟสุดๆราวๆ ไม่เกิน 10 วัตต์เป็นอย่างมากครับ
ขณะทำงาน เมื่อวางคู่กับโน๊ตบุ๊กจอ 13 คู่ใจของผม ขนาดเล็กกระทัดรัดใครเดินผ่านไปผ่านมา ก็คิดว่าเป็น external harddisk ด้วยซ้ำไป
…ด้านข้างตัวเครื่อง มีปุ่มสองปุ่ม สำหรับเปลี่ยนโหมดการทำงาน หรือจะรีเซ็ตเครื่อง หรือเปิดการทำงานของฟังก์ชั่น WPS ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ทำให้คอมพิวเตอร์ที่ใช้วินโดวส์นั้นเข้ามาเชื่อมต่อ Wireless network ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องเข้าไปเซ้ตอัพผ่านหน้า Web UI ให้ยุ่งยากครับ
Web UI & Features
หน้าต่าง Web UI ใช้งานได้ค่อนข้างง่าย เน้นการเซ้ตอัพเป็นแบบ Wizard (Step by step) ซึ่งขั้นตอนการเข้าถึงหน้า Web UI นั้นก็จะมีระบุไว้ในคู่มือผู้ใช้ในแผ่นซีดี รวมไปถึงแผ่นกระดาษแนะนำอย่างชัดเจนและเข้าใจง่ายมากๆครับ การตั้งค่าก็สามารถตั้งค่าได้ค่อนข้างละเอียด อยากจะให้ลองมาชมกันข้างล่างดูคร่าวๆครับ
Tenda W150M นั้นมาพร้อมกับโหมดการทำงานหลักที่สามารถตั้งค่าและทำความเข้าใจได้ง่ายๆ 5 โหมดการทำงานด้วยกันครับ
1. AP Mode (Factory Default) หรือ Access Point Mode เป็นโหมด AP ทั่วไปที่ทุกท่านคุ้นเคย หรืออาจจะไม่ ? กล่าวคือในโหมดนี้ตัว W150M จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อเครื่อข่ายระหว่างเครือข่ายไร้สายภายในตัว เข้ากับเครือข่ายแบบมีสาย (สายแลน) ในภาพด้านบน รูปแรกนั้นจะเป็นหน้าต่างขั้นตอนการติดตั้ง เลือกการตั้งค่าต่างๆของเครือข่ายไร้สาย ส่วนหน้าถัดมา ก็จะเป็นการตั้งค่าของเครือข่ายแบบมีสายนั้นเองครับ
2. Client + AP mode หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆว่า Repeater mode ในโหมดนี้ ตัว W150M จะทำการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่าย Wireless อื่นๆที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทอยู่ (เป็น Client ให้เขา) แล้วในขณะเดียวกัน ตัวมันเองจะทำการปล่อยสัญญาณออกมาเป็นชื่อ SSID ของตนเอง เหมือนกับ AP Mode
ในภาพด้านบนจะสังเกตได้ว่า ตัว AP นั้นจะสามารถสแกนหาคลื่นไวเรสที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้อย่างชัดเจน ซึ่งหลังจากกด Join AP แล้ว ก็จะเข้าสู่หน้าจอการเซ็ตอัพไวเรสของตัว W150M เอง อย่างเช่นรูปแรกของ AP Mode นั้นเองครับ
3. WDS + AP Mode เป็นอีกหนึ่งโหมดการทวนสัญญาณ หรือ Repeater Mode ในโหมดนี้ ตัว W150M จะทำการเชื่อมต่อคล้ายกับ Client + AP แต่ว่าเราสามารถตั้งค่าให้ตัว W150M นั้นทำหน้าที่ทวนสัญญาณโดยใช้ SSID และ รหัสผ่านอันเดียวกับต้นกำเหนิดสัญญาณได้ โดยต้องทำการตั้งค่าทั้ง SSID ชาแนล และรหัสผ่านให้ตรงกัน
WDS+AP นั้นเหมือนเป็นโหมด Repeater อีกอันหนึ่งที่สามารถทำงานเป็น Repeater ได้อย่างแท้จริง คือตัวมันเองจะมีหน้าที่ขยาย range สัญญาณไวเรสจากต้นทาง โดยใช้ SSID , Pass Phrase (รหัสความปลอดภัย) รวมไปถึงชาแนลสัญญาณเดียวกัน กับสัญญาณต้นทาง หน้าจอการเซ็ตอัพ ก็จะเป็นไปตามข้างบน เหมือนๆกับโหมด Client + AP เลยครับ คือต้องจอยเข้ากับตัว AP ต้นกำเหนิดสัญญาณก่อน
4. WIPS Mode ( Wireless Router + Client mode) คือการรับสัญญาณอินเตอร์เนทผ่านทาง Wireless แล้วนำมาแชร์ต่ออีกทีผ่าน Wireless ที่เป็น SSID ของตนเอง ทำให้ผู้ใช้ปลายทางที่เป็น Client ของตัว W150M นี้ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเครือข่าย Wireless ต้นทางที่ปล่อยอินเตอร์เน็ทมาก่อนได้
5. Wireless Router Mode คือโหมดที่ใช้เชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย เข้ากับอินเตอร์เนทเกตเวย์ โดยในโหมดนี้ตัว W150M จะให้พอร์ต RJ45 นั้นทำหน้าที่เป็น WAN Port และมีโปรโตคอลในการลอกอินเข้าใจงานอินเตอร์เนทให้เลือกใช้งานอีก เช่น PPPoE , PPPT และอื่นๆ โดยอุปกรณ์เกตเวย์นั้นอาจจะเป็น ADSL Modem หรือ Cable modem ก็เป็นได้ ซึ่งการลอกอินเข้าใช้งานนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของตัว Router เช่นเดียวกับ Router ทั่วๆไปที่มีขายตามท้องตลาด การตั้งค่านั้นก็เป็น step by step อย่างในภาพด้านบนเลยครับ ดูแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรซับซ้อน
.
.
…Tenda W150M ก็เป็นอุปกรณ์ Wireless AP/Router ที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด แต่ไม่ประหยัดฟีเจอร์จริงๆครับ ซึ่งขนาดที่เล็ก และไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานจากอะแดปเตอร์ที่ใช้เสียบปลักเสมอไป ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานข้างนอกได้อย่างสะดวก เช่นการเอาไปใช้งานตามจุด Hot spot ต่างๆ เราอาจจะนำตัว W150M ประยุกต์เป็น Wireless repeater อย่างง่ายๆ ในโหมด Client + AP Mode ให้เพื่อนๆที่ไม่มีรหัสผ่าน WiFi Hot spot ในจุดนั้นๆเข้าไปใช้งานด้วยกันได้ เป็นต้นนั้นเองครับ
…ซึ่งหากท่านกำลังมองหาอุปกรณ์ประเภทนี้ไว้ในครอบครอง ในตอนนี้ Tenda ก็มี W150M W150M+ ที่สามารถถอดเปลี่ยนเสาได้ และ W300M สำหรับ Wireless N ความเร็วระดับ 300Mbps ให้ได้เลือกใช้งานกันอีกด้วยครับ
…ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่า ตลาดในบ้านเรา อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับอุปกรณ์พวกนี้สักเท่าไหร่ และกลัวในความยุ่งยากที่จะใช้งาน แต่เท่าที่สังเกตและศึกษามา ผมก็พบว่าทาง Plenty Computer นั้นก็ได้ทำการบ้านม่ค่อนข้างดีพอสมควรครับ มีการจัดทำคู่มือภาษาไทยอย่างละเอียด แปะไว้ที่เว็บไซต์ของเขาด้วย (คลิกได้เลย)
.
.
สำหรับรีวิวในวันนี้ จากการพิจารณาถึงความคุ้มค่าและฟีเจอร์ที่แปลกใหม่ และสามารถติดตั้งได้อย่างง่าย ในขนาดที่เล็กกระทัดรัด พกพาไปใช้ภายนอกอาคารได้อย่างสะดวก ผมจึงขอพิจารณามอบรางวัล Best Innovation ให้กับ Tenda W150M ไว้ ณ ที่นี้ครับ.