…ในตลาดเคสคอมพิวเตอร์ เรียกได้ว่าเคสขนาด Mid-tower นั้นน่าจะเป็นขนาดที่สามารถซื้อหาได้ง่ายที่สุด มีความยืดหยุ่นมากที่สุด และแน่นอนครับ มีการแข่งขันกันมากที่สุด ทั้งเรื่องฟีเจอร์ และราคา ตั้งแต่ระดับราคาไม่กี่ร้อยบาทจนไปถึงหลักหลายพันบาท Thermaltake Level 10 เป็นแบรนด์เนมซีรียส์ ที่เป็นผลพวงมาจากการร่วมมือกันทางด้านงานออกแบบกับ BMW ผู้ผลิตรถยนต์หรูชื่อดังจากเยอรมณีตั้งแต่สมัยปี 2009 และจนถึงทุกวันนี้ ผลิตภัณฑ์จาก Thermaltake ที่ใช้ชื่อรุ่นว่า “Level 10″ นั้นก็จะคือเป็นผลิตภัณฑ์ทีได้ผลพวงและมีงานออกแบบจากการร่วมมือกันดังกล่าว ซึ่งถ้าพูดถึงแค่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเคสคอมพิวเตอร์ ก็จะมี Level 10 และ Level 10 GT ที่เป็นรุ่นที่ทำราคาให้ถูกลงมา และมาจนถึงวันนี้ที่บ้านเราได้นำมาทำตลาดกันนั้นก็คือ Level 10 GTS ซึ่งเรียกว่าน่าจะเป็นรุ่นที่มีราคาเป็นมิตรกับผู้ใช้มากที่สุดในตระกูล Level 10 นั้นเองครับ

…ตัวเคสนั้นเป็นเหล็กแผ่นขึ้นรูปแบบ SECC มาตรฐานทั่วไป น้ำหนักจัดว่าไม่หนักมากนัก ราวๆ 6 กิโลกรัมนิดๆ ถือได้ว่าสามารถหิ้วตัวเคสเปล่าๆด้วยมือข้างเดียวยังไหวอยู่ หน้ากากนั้นส่วนประกอบทำมาจากพลาสติก ที่ผมเข้าใจเองนะครับว่าจะเป็นแบบ ABS ทั้งนี้ดีไซน์โดยรวมของตัวเคสนั้นก็เหมือนเป็นการตัดเอาส่วนที่ไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ทั่วๆไปออกหลายๆจุด จากเคสรุ่นพี่อย่าง Level 10 และ Level 10 GT ที่ไม่ได้เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา หากใครสงสัยว่ามันหน้าตาเป็นอย่างไรก็ลอง google เอาดูได้ครับ

เรามาเริ่มดูที่รายละเอียดของตัวเคสจากภายนอกกันอย่างแรกที่จะดูได้ง่ายที่สุดก็คงจะเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ Level 10 GTS มีพอร์ต USB มาให้มากถึง 4 พอร์ต แบ่งเป็น 3.0 ทั้งหมดสองพอร์ต (สายเชื่อมต่อแบบเสียบลงบอร์ด) และ 2.0 อีกสองพอร์ต รวมไปถึงช่องสำหรับแจ๊กหูฟังและไมโครดฟนที่ดูแล้ววัสดุที่ใช้ก็ดูดีมีราคาดีครับ

5.25″ bay ก็มีฝาปิดที่สามารถงัดออกมาได้ด้วยการบีบขาล็อคทั้งสองข้างจากหน้าเคสเลย ไม่ต้องใช้มือสอดเข้าไปในเคสเพื่อดันออกมา บริเวณในตระแกรงเหล็กก็จะมีฟองน้ำกันฝุ่นติดมาให้ในทุกๆช่อง

ด้านข้างเคสมีขอเกี่ยวสำหรับเกี่ยวแขวนหูฟังที่ Thermaltake เรียกมันซะดูโอเวอร์ไปนิดหนึ่งว่า “Combat style” ผมแปลเป็นไทยได้ว่า ที่แขวนหูฟังสไตล์นักรบ !!!!

ฟีเจอร์ตัวหนึ่งที่ผมชอบมากๆเลยก็คือถาดติดตั้งไดร์ฟ 3.5″ ทั้งหมด 4 ถาดที่สามารถถอดออกมาได้โดยไม่ต้องทำการไขน็อตเปิดฝาเคส และทั้ง 4 ถาดนี้จะถูกล็อคด้วยลูกกุญแจกันขโมย

รูกุญแจดังกล่าวนั้นไม่ใช่ช่องเสียบกุญแจกิ๊กก๊อกที่สามารถเอาคลิกหนีบกระดาษสะเดาะได้ง่ายๆครับ เนื่องจากในกระบวนการปลดล็อคจะต้องมีการใช้มือดันกุญแจไปให้สุดเสียก่อน ถึงจะสามารถบิดกุญแจได้ จึงทำให้ยากต่อการเปิดไปอีกขั้นหนึ่ง

และเมื่อปลดล็อคแล้วก็ทำการกดปุ่มที่มีตัวเลขกำกับด้านหน้าพร้อมกับดึงถาดไดร์ฟ 3.5 นิ้วออกมาเท่านั้นเองครับ

ลองเปิดมาดูภายในก็จะพบว่าช่องระบายอากาศใหญ่ๆด้านข้างที่เราเห็นจากภายนอกนั้น ไม่ได้มีการติดตั้งพัดลมาให้ แต่อย่างน้อยผมก็รู้สึกดีครับที่มีการติดตั้งแผ่นกรองฝุ่นมาให้ด้วย

ด้านบนหลังคาเคสมีช่องพัดลม 120mm สองช่อง ที่สามารถใช้ติดตั้งหม้อน้ำได้เช่นกัน ติดมาให้อีกพร้อมกับแผ่นกันฝุ่น

บริเวณพื้นเคสก็มีช่องระบายอากาศสำหรับการติดตั้งเพาเวอร์ซัพพลายหันพัดลมดูดอากาศลงด้านล่าง พร้อมทั้งมีแผ่นกันฝุ่นมาให้ด้วย

หลังจากทดลองวางเมนบอร์ดลงไปบนตัวเคสแล้วก็พบว่าพื้นที่เหลือให้ติดตั้งกราฟฟิคการ์ดยาวๆ อาจจะมีไม่มากนัก แต่ก็พอน่าจะใช้งานได้ครับ

ส่วนตัวล็อคไดร์ฟ 5.25 นั้นก็เป็นแบบที่ผมเรียกว่าดูดีมีราคา คือแบบสไลด์ แล้วล็อค แทนที่จะเป็นแบบบิดในเคสราคาถูกๆ

ข้อดีมากๆของเคสตัวนี้อย่างหนึ่งก็คือระบบจัดการสายที่ผมคิดว่าเขาวางตำแหน่งมาได้ดี และสามารถลอดสายไปด้านหลังเคสได้จริงเนื่องจากมีพื้นที่มากมาย

จะสังเกตได้ว่าถาดสำหรับไดรืฟ 3.5″ ทั้ง 4 ถาดที่สามารถถอดได้นั้นจะมีระบบจัดการสายที่ทำให้การติดตั้งฮาร์ดดิสก์นั้นไม่จำเป็นจะต้องมีการถอดเสียบสายแต่อย่างใด สายที่ติดมาให้จากโรงงานทั้ง 4 ช่องนั้นจะเป็นสายสำหรับไฟเลี้ยงฮาร์ดดิสก์ ส่วนช่องที่โบ๋ไว้ให้คือสาย SATA ที่เราสามารถเสียบแล้วลอดสายออกไปเสียบลงเมนบอร์ดทิ้งไว้ได้เลย ในกรณีที่ต้องการติดตั้งเพิ่มก็เพียบแค่สไลด์ถาดออก แล้วขันฮาร์ดดิสก์ลงถาด แล้วสไลด์กลับเข้าที่ ก็จะสามารถใช้งานได้เลย

มาดูฝาด้านหลัง มีพัดลมขนาด 120mm ดูดอากาศออกติดมาให้หนึ่งตัว ช่องสำหรับลอดสายยาง/สายไฟ มาหใ้สามช่อง และแผ่นปิด expansion slot เป็นแบบสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

รายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างห่วงตรงนั้นจะไว้ใช่แขวนกุญแจ ส่วนน็อตที่ใช้ขันฝาเคสนั้นก็จะเป็นน็อตแบบที่เมื่อไขออกจนสุดแล้วจะไม่หลุดออกมา เนื่องจากมีหัวโปนๆไว้กันร่วงออกจากแผ่นฝาเคสอีกชั้นหนึ่ง

ขั้วต่อ USB3.0 แบบสำหรับเสียบลงเมนบอร์ดโดยตรง โดยไม่ต้องใช้วิธีลอดสายไปด้านหลังเคสให้ยุ่งยาก

.

.

…มาถึงจุดจุดนี้แล้วท่านจะเห็นได้ว่าถึงแม้ Level 10 GTS นั้นจะเป็นเคสที่ดูเหมือนถูกลดเกรดลงมาจากรุ่นพี่อย่าง Level 10 และ Level 10 GT แต่รายละเอียดในหลายๆจุดนั้น ผมเชื่อว่าทุกๆคน รวมถึงผมที่ไม่เคยได้สัมผัสกับเคสทั้งสองรุ่นพี่ดังกล่าว ก็เรียกได้ว่าน่าจะประทับใจกันนะครับกับลูกเล่นต่างๆ และความใส่ใจในรายละเอียดของอุปกรณ์เล็กๆน้อยๆ แม้กระทั่งน็อตหลังเคสที่ยังมีการออกแบบมาไม่ให้มันหลุดหายไปง่ายๆ ลูกเล่นที่เด็ดที่สุดคงจะเป็นเรื่องของถาดฮาร์ดดิสก์ที่สามารถถอดได้ง่ายและปลอดภัยด้วยลูกกุญแจที่มากับตัวเคส รวมไปถึงดีไซน์ที่ดูแปลกตา สำหรับราคา เท่าที่สืบทราบมาพบว่าอยู่ที่ราวๆ 3200 บาท ซึ่งฟังดูอาจจะมีราคา แต่เมื่อเทียบกับลูกเล่นต่างๆที่มีมาให้ ผมคิดว่าสมเหตุสมผลดีครับ

.

.