Review : Toshiba Portege T110 notebook
Share | Tweet |
Toshiba Portege T110 (Pentium SU2700)
…สวัสดีครับ สำหรับในวันนี้ก็มาพบกับ Ultra Portable Notebook จาก Toshiba ในตระกูล Portege กับ T110 ที่ใช้ขุมพลัง ซีพียูรหัสกินไฟต่ำแห่งยุคอย่าง SU หรือที่สมัยก่อนเรามักจะรู้จักกันในนาม ULV (Ultra Low Voltage) กันครับ T110 นั้น เป็นโน๊ตบุ๊กขนาดจอ 11.6 นิ้ว จากโตชิบ้า ที่ใช้ซีพียู Pentium (Single Core) รุ่น SU2700 เบาเพียง 1.5 กิโลกรัม นับเป็นโน๊ตบุ๊ก Ultra portable ไม่กี่รุ่นในไทย ที่มากับซีพียูราคาถูกอย่าง Pentium SU2700 แบบนี้ ส่วนรายละเอียดส่วนอื่นๆ ก็ขอให้ติดตามชมในรีวิวฉบับนี้ พร้อมกับอ่านเสป็คด้านล่าง ควบคู่กันไปเลยครับ
Processor | Intel Pentium SU2700 1.3ghz (Singlecore) 2mb L2 cache |
Chipset | Intel GS45 |
Memory | 2GB DDR3 |
Graphics Adapter | (Intregrated GS45) GMA4500 |
Display | 11.6″ (1366×768) |
Harddisk | 250gb 5400rpm SATA2 |
Optical Drive | N/A |
Network | Realtek RTL8187se (IEEE802.11 draft N & B/G) |
Connection Port | cardreader, USBx3, HDMI, VGA, RJ45 |
Battery | 5300mAh |
Weight | 1.5kg |
OS | Windows 7 Home Premium |
CPU นั้นนานๆทีเราถึงจะได้พบกันครับสำหรับ Pentium “Single core” รหัสประหยัดพลังงานอย่าง SU2700 แบบนี้ซึ่งผมจะได้กล่าวรายละเอียดอีกในภายหลังนะครับ แต่ที่น่าสังเกตจุดหนึ่งก็คือ Wireless lan card นั้น ใช้ชิปของ Realtek ซึ่งจริงๆแล้วแพลตฟอร์มของอินเทล ก็น่าจะให้เป็นการ์ดหรือชิปของอินเทลมาเลย ให้มีมาตรฐานเทียบเท่า Centrino เสียเลยก็น่าจะทำให้ดูมีภาษีดีกว่านี้ครับ
ตัวเครื่องโดยรวมนั้น มาในมาดสีแดงแรงฤทธิ์ พร้อมแฝงด้วยลายเป็นเอกลักษณ์ ตัวเครื่องนั้น เป็นพลาสติกมันวาว เป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายเหมือนกันครับ
เส้นสายด้านหน้าเครื่องตรงบริเวณไฟแสดงผล ก็ดูแล้วหรูหรามิใช่น้อย
การเปิดปิดบานพับ ให้ความรู้สึกที่เรียบลื่นดีครับ บานพับเป็นบานแบบตัว L ซึ่งจะส่งผลให้สามารถเปิดกางได้ไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน และแข็งแรงดีครับสำหรับ Portege T110 ตัวนี้
ภายในนั้นยังคงสีแดงสดเอาไว้ในส่วนของกรอบเครื่อง และในส่วนของคีย์บอร์ดนั้น มาในโทนสีดำ และเป็นพลาสติกลักษณะผิวสากๆเล็กน้อย ต่างจาก Toshiba ในหลายๆรุ่นที่จะมีคีย์บอร์ดพลาสติกมันวาวติดมาให้ครับ
เลย์เอาท์ของคีย์บอร์ดและทัชแพดนั้น สัมพันธ์กันดีในการใช้งานจริง ไม่สร้างความรำคาญให้การใช้งานครับ แต่ปุ่มตัวยึกยือๆ (เครื่องหมายนิเสธ) ที่เราไว้ใช้เปลี่ยนภาษากันนั้น ดันมาอยู่ตรงข้างๆปุ่ม alt ซึ่งก็คงเป็นข้อจำกัดในเรื่องของขนาด และการพยายามออกแบบที่จะพยายามให้ปุ่มส่วนใหญ่นั้นสามารถใช้งานการพิมพ์สัมผัสได้อย่างสะดวกนั้นเอง
ทัชแพดนั้น ปุ่มกด มีน้ำหนักที่กำลังดีครับ ไม่มีเสียงกรอบแกรบ กดแล้วให้ความรู้สึกที่ดีในระดับหนึ่ง ส่วนทัชแพดนั้นก็ยังคงมีลายของเครื่อง ต่อเนื่องลงไปพร้อมสีแดง การใช้งานนั้นก็พบว่ามีความหนืดและลื่นในระดับที่พอดี แม่นยำใช้ได้ เซ็ตมาค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ