.

Conclusion

หน้าตาสวยงามจริงๆกับสีสรรเจ็บๆแบบนี้

ขนาดตัวเมาส์นั้นก็อยู่ในระดับกลางๆครับไม่อวบหรือหนาจนเกินไปนัก น้ำหนักที่บอกว่าประมาณ 80 กรัมก็ตามนั้น โดยจุดที่หนักจะเป็นบริเวณอุ้งมือเรา ปรับตัวเล็กน้อยก็สามารถใช้งานได้สบาย

ที่ได้ลอง ROG Gladius III Wireless AimPoint EVA-02 Edition คือผมเสียบใช้งานแบบไร้สายจริงๆจังๆเลยเพราะชอบ อิอิ สิ่งแรกที่รู้สึกได้เลยก็คือหน้าตาและสีสรรจากตัวเมาส์ที่มาในธีม EVA ซึ่งเด่นด้วยสีแดงตัดสีส้มเจ็บพร้อมกับโลโก้สวยๆ สาวก EVA น่าจะเข้าใจความหมายของโลโก้ต่างๆเป็นอย่างดีนะครับ สำหรับฟีลลิ่งการใช้งาน ปุ่มกดจะมีความแข็งระดับนึง ต้องกดลึกระดับนึง ซึ่งผมเทียบกับ Razer deathadder v3 ที่ผมใช้อยู่นะ ผมว่ามันก็ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร ใช้อยู่ครึ่งวันก็ชินแล้วครับ น้ำหนักก็เบานะแต่จะไม่ได้เบาเหมือนกับ deathadder v3 ซึ่งอันนั้นเบากว่าพอสมควร แต่หากมองในแง่ของการใช้งานแบบไร้สายแล้ว ผมว่ามันเป็นเมาส์ที่เบาแล้วละครับ

.

และที่ผมได้ลองใช้อยู่สามวัน แบตลดลงนิดเดียวเองครับอาจจะเป็นเพราะแสงสีมันมีแค่ตรงอุ้งมือเรานิดเดียวทำให้ไม่กินไฟเยอะมากมายอะไรนัก อ้อ การเชื่อมต่อนั้นก็สามารถทำได้สามลักษณะคือ เสียบสายเลย แบบที่สองคือเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และแบบที่สามคือเชื่อมต่อผ่านทางไร้สายที่ 2.4 GHz โดยผมเลือกที่จะเชื่อมต่อทาง 2.4 GHz ครับ มันไม่มีการดีเลย์เลยอันนี้ชอบจริงๆ

.

สำหรับราคาของ ROG Gladius III Wireless AimPoint EVA-02 Edition บนหน้าร้านออนไลน์จะอยู่ที่ประมาณ 4,290 แพงหน่อยเพราะว่าเป็นลิมิเต็ดอีดิชั่นและออกแบบมาได้สวยงามจริงๆ น่าซื้อครับ

.

.

..

CHANE . .

.

Special Thanks.

ASUS .