…สวัสดีครับ สำหรับวันนี้ผมก็มีความภูมิใจนำเสนอกราฟฟิคการ์ดที่ใช้สำหรับทำงานทางด้าน 3 มิติ ที่ใช้ GPU Fire Pro จากทาง AMD รุ่นที่มี Shader Units สูงถึง 1280 Units โดยกราฟฟิคการ์ดที่จะนำเสนอในวันนี้จะมีชื่อรุ่นว่า SAPPHIRE AMD FirePro™ V7900 และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ก็ไปเริ่มดูส่วนประกอบต่างๆในการทดสอบคราวนี้เลยดีกว่าครับ

Overview & Specification

.

Relative Articles :

‧ AMD FireProTM 3D Professional Graphics-Introducing the New FireProTM V7900 “The Red Devil” ‧ AMD FirePro V7900 & 7thSense Case study ‧ AMD FirePro V7900 & CEI EnSight Case Study ‧ AMD FirePro V7900 & Mitsubishi Electric Case Study ‧ 7th Sense company interview (Using AMD FirePro V7900 experience) ‧ AMD FirePro V7900 & Autodesk design suite- Running four applications with only on card ‧ AMD FirePro V7900 and NVIDIA Quadro 4000 Head-to-Head in CATIA (CATbench benchmark) ‧ Review: Professional GPUs - AMD vs Nvidia (2011) ‧ SAPPHIRE PGS with PTC: Hardware-accelerated transparency rendering (OIT) ‧ SAPPHIRE PGS Announces AMD Partners with PTC Creo 2.0, Provides Innovative GPU-Accelerated Technology, Effectively Increasing Performance by 900%

.

More Informations >>Click<<

เมื่อดูรายละเอียดของตัวกราฟฟิคการ์ดเรียบร้อยแล้ว ก็ไปชมหน้าตาของผลิตภัณฑ์กันต่อเลยนะครับ

SAPPHIRE AMD FirePro™ V7900

หน้าตากล่องโดยรวมของกราฟฟิคการ์ดรุ่นนี้นะครับ

ของแถมภายในกล่องจะโดดเด่นด้วยหัวแปลงขั้วต่อจาก Display Port ไปเป็น DVI Port ถึง 4 ตัวนะครับ

หน้าตาการ์ดเต็มๆครับ สวยงามบางเฉียบด้วยดีไซน์ที่งดงามครับ

งดงามทุกมุมมองครับ

ด้านหลังการ์ดจะเห็นได้ว่า PCB นั้นเป็นสีแดงสดใสดีครับ

ฉลากแสดงรายละเอียดกราฟฟิคการ์ดรุ่นนี้ครับ

บางเฉียบเพียง 1 สล็อต PCI ครับ แสดงว่าคงเย็นพอสมควร ถึงกล้าทำดีไซน์แบบนี้ออกมาครับ

ชื่อรุ่นเต็มๆที่สกรีนบนการ์ดรุ่นนี้ครับ

พัดลมดีไซน์เรียบง่ายลงตัวที่มาพร้อมกับเสียงรบกวนที่ต่ำมากๆ

ชุดซิงค์ระบายความร้อนที่ภาคจ่ายไฟของกราฟฟิคการ์ดรุ่นนี้ครับ

ช่องเสียบไฟเลี้ยงเพิ่มเติมแบบ 6 พิน 1ช่องนะครับสำหรับการ์ดรุ่นนี้ สงสัยจะประหยัดไฟสุดๆเป็นแน่

สามารถเชื่อมต่อให้ตัวกราฟฟิคการ์ดทำงานร่วมกันในโหมด CrossFireX ได้สูงสุดถึง 4 ตัวกันเลยนะครับสำหรับการ์ดรุ่นนี้

ช่องเชื่อมต่อของการ์ดรุ่นนี้มากันเรียบง่ายด้วย Display Port 4 ช่อง ที่สามารถต่อออกพร้อมกันได้ถึง 4 จอต่อกันได้โดยง่าย

Test Setup

ทดสอบกันง่ายๆเช่นเดิมที่ห้องอุณหภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซียส

SYSTEMS
.CPU	..3rd Generation Intel® Core™ i7-3770K Retail Box
.Motherboard	..GIGABYTE Z77X-UP5TH
.Memory	..G.SKILL ARES DDR3-2133 8 GB kits
.Graphic Card	..SAPPHIRE AMD FirePro™ V7900 2GB GDDR5
.Harddisk	..SSD OCZ Vertex 4 128GB
.CPU Cooler	..Water Cooling @ Ambient 25C
.Power Supply	..antec 1200w
.Operation System	..Windows 7 Ultimate 64-bit

รายละเอียดของ systems ที่ใช้ในการทดสอบคราวนี้ครับ

SuperPI 1M 1Thread, 32M 1Thread & 32M 12Threads

(Click ScreenShot to Enlarge)

เสถียรดีแล้วที่ 5GHz ก็ไปลุยกันต่อเลยครับ

Detail in GPU-Z 0.6.5

รายละเอียดใน GPU-Z 0.6.5 ก็แสดงได้ถูกต้องดีครับ

Detail in Catalyst Pro Control Center

ในเมนูหน้าจอเดสค์ทอป ชื่อก็จะไม่เหมือนกราฟฟิคการ์ดจาก AMD สำหรับการเล่นเกมส์นะครับ

ส่วนหน้าตาการปรับแต่งของ CCC ก็มีลักษณะกันตามรูปครับ

Detail in AIDA64 Extreme Edition

รายละเอียดต่างๆใน AIDA64 ก็ถูกต้องดีครับ ไปเทสต์ความร้อนกับอัตราการกินไฟกันดีกว่า

GIGABYTE GeForce GTX 650Ti OC 2GB @ 1,033/5,400MHz

FurMark 1.9.2

เย็นเฉียบมากครับร้อนสูงสุดเพียงแค่ 65C ที่รอบพัดลมเบาๆแค่ 36% 2,528RPM แรงเย็นเงียบสนิทดีจริงๆ

Power Consumption

อัตราการกินไฟสูงสุดทั้งระบบกับ 3770K @ 5GHz VCore 1.50V ขณะรัน FurMark ต่ำเพียงแค่ 259W เท่านั้น สุดยอด

SPECviewperf 11

เมื่อเทสต์กราฟฟิคการ์ดที่ใช้สำหรับทำงานทางด้าน 3 มิติ โดยเฉพาะ ก็ต้องเทสต์กับ Benchmark ตัวนี้อย่างแน่นอนครับ

SAPPHIRE AMD FirePro™ V7900

Click Picture to enlarge

NVIDIA GeForce GTX 680

Click Picture to enlarge

…เมื่อลองเปรียบเทียบกับ NVIDIA GeForce GTX 680 จะเห็นได้ว่า แรงกว่ากันสูงสุดถึง 7 เท่ากันเลยทีเดียวในบางงาน งานนี้การ์ดเล่นเกมส์รุ่นท็อปยังต้องอายม้วนกันไปเลยครับ

CINEBENCH 9.5

SAPPHIRE AMD FirePro™ V7900

NVIDIA GeForce GTX 680

มาดูความสามารถด้วย OpenGL ระดับ Hardware กันบ้าง เริ่มด้วย CINEBENCH 9.5 จะเห็นได้ว่าแรงกว่ากันเกิน 2 เท่าตัวเลยทีเดียว

CINEBENCH 10

SAPPHIRE AMD FirePro™ V7900

NVIDIA GeForce GTX 680

ตามด้วย CINEBENCH 10 ก็ยังเห็นได้ว่าแรงกว่ากันเกิน 2 เท่าตัวอีกเช่นกัน

CINEBENCH 11.5

SAPPHIRE AMD FirePro™ V7900

NVIDIA GeForce GTX 680

พอมา CINEBENCH 11.5 ก็ยังแรงกว่ากันถึง 10 FPS

3DMark 03

3DMark 05

3DMark 06

3DMark Vantage

3DMark 11

…ตระกูล 3DMark ก็แรงดีใช้ได้เลยครับ แม้ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมส์ก็ตาม งานนี้คงไม่ต้องเทียบกับ NVIDIA GeForce GTX 680 ให้ดูกันแล้วนะครับ เพราะว่าแพ้แน่นอนเนื่องจากตัว GPU ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมส์อยู่แล้ว แต่ดูจากคะแนนแล้วถ้าถามว่าเล่นได้ไหม เล่นได้แน่นอนครับ โดยความสามารถทางด้านเล่นเกมส์จะพอๆกันกับกราฟฟิคการ์ดสำหรับเล่นเกมส์โดยเฉพาะ ที่มีราคาประมาณ 6-7พันบาท ที่ขายอยู่ในท้องตลาดขณะนี้นะครับ

Unigine Heaven DX11 Benchmark 3.0

SETTINGS

เซตกันไปสุดๆเหมือนกับทุกครั้งที่ 1,920X1,200 ครับ

แรงใช้ได้เลยครับแม้เซตสุดหมดทุกหัวข้อที่ 1,920 X 1,200

Aliens VS. Predator DX11 Benchmark

ถึงจะออกมานานแล้ว แต่ก็ยังคงกราฟฟิคโหดอยู่เช่นเคยครับสำหรับเกมส์นี้

ที่ 1,920 X 1,200 ก็ยังแรงใช้ได้ครับสำหรับเกมส์นี้

Crysis Warhead Enthusiast Mode AA0x 1,920X1,200 DX10

แรงใช้ได้เลยครับ

DIRT3 DX11

เซตสุดหมดทุกหัวข้อที่ 1,920 X 1,200 ก็ยังแรงลื่นครับสำหรับเกมส์นี้

Lost Planet 2 DX11

SETTINGS

เซตโหดๆกันตามภาพเลยครับ

แรงพอไหวครับ

METRO 2033 DX11

SETTINGS

เซตกับสุดขอบหมดเช่นเดิมครับ กับเกมส์ DX11 สุดโหดแห่งยุคนี้

แรงใช้ได้ครับ แม้เซตสุดๆหมด

Resident Evil 5 DX10

SETTINGS

เซตกันสุดๆหมดทุกหัวข้อครับ

เซตสุดๆหมดก็ยังแรง

Street Fighter IV DX10

เซตสุดหมดทุกหัวข้อที่ 1,920 X 1,200 ก็ยังแรงลื่นครับสำหรับเกมส์นี้

Sniper Elite V2 DX11

ลองเกมส์ DX11 โหดๆกันบ้าง เซตกันแบบ Ultra แต่ปิด AA , AF นะครับ ที่ 1,920 X 1,200

แรงลื่นพอใช้ได้เลยครับ สำหรับเกมส์โหดๆเกมส์นี้

Conclusion

…ก็มาถึงบทสรุปของการทดสอบกราฟฟิคการ์ด SAPPHIRE AMD FirePro™ V7900 2GB GDDR5 ตัวนี้กันแล้วนะครับ ก็ขอบอกว่าเป็นกราฟฟิคการ์ดสำหรับงานทางด้าน 3 มิติ ระดับกลางสูงที่น่าเล่นดีถึงน่าเล่นมากๆอีกรุ่นหนึ่งเลยครับ โดยความแรงนั้นก็ออกมามิได้น้อยหน้ากว่าคู่แข่งจากอีกค่ายในระดับราคาเดียวกันเลยครับ นอกจากนั้นยังประหยัดไฟกันแบบสุดๆ แถมยังประหยัดงบประมาณในการเลือกใช้ Power Supply ให้กับระบบด้วย ถ้าใช้ที่ดีๆหน่อยวัตต์เต็มๆนี่ ผมว่ากับ System ทั่วๆไป ใช้ขนาดแค่ 350W-450W นี่เอาอยู่อย่างสบายๆกันอย่างแน่นอนครับ แถมตัวการ์ดก็ยังเย็นกันแบบสุดขั้ว ใครอยากได้ Work Station ในราคาประหยัด เพียงท่านจัดการ์ดรุ่นนี้มาใส่ในคอมพิวเตอร์เดสค์ทอปทั่วๆไป ท่านก็จะได้ครอบครอง Work Staton แรงๆ สำหรับงานทางด้าน 3D Animation ในราคาประหยัดสุดๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงสู้กับ Work Station จากแบรนด์ราคาเป็นแสนๆได้อย่างแน่นอนครับ  กับราคาค่าตัวที่ประมาณ 38,800 บาท ผมว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆเลยนะครับ สำหรับผู้ที่มีงบประมาณที่อยู่ในระดับนี้ และสำหรับวันนี้ผมก็ขอลาไปก่อนแต่เพียงเท่านี้นะครับ แล้วพบกันใหม่ในวันพรุ่งนี้ สวัสดีครับ

.

.

ขอขอบคุณ

Deva’s Natural

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!