SAPPHIRE Tri-X R9 390X
Share | Tweet |
Concluions
ก็มาถึงช่วงท้ายกันครับสำหรับการทดสอบ SAPPHIRE Tri-X R9 390X ที่วันนี้ทำประสิทธิภาพได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ ก็คงสมกับที่บรรดาแฟนๆ AMD รอคอยครับกับการเพิ่มประสิทธิภาพความแรงขึ้นมาอย่างมากเมื่อทำงานร่วมกับไดร์เวอร์รุ่นใหม่ๆของทาง AMD ที่ทำการดึงประสิทธิภาพของตัวการ์ดออกมาได้มากกว่าเดิมเลยทีเดียว พร้อมทั้งยังเพิ่ม Memory หน่วยความจำให้มากถึง 8GB กันเลยทีเดียว เพื่อการใช้งานในระดับ Ultra HD หรือระบบ 4K กันนั่นเองครับ จากการทดสอบจะเห็นได้ชัดครับว่าทั้งการทดสอบ 3D Benchmark และ Gaming ต่างๆสามารถทำประสิทธิภาพได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ทั้งเฟรมเรตที่ออกมาเรียกได้ว่าเล่นเกมส์ได้อย่างลื่นไหลทุกเกมส์ในคอนฟิกระดับ Ultra High , Very High แบบจัดกันได้เต็มๆ พร้อมทั้งเปิด AA กันได้แบบสูงๆไม่มีหมกเม๊ด ก็คงเข้าทางคอเกมส์เมอร์ที่ชอบเสพกราฟฟิกภาพที่สวยงามเพราะจำนวนแรมที่ยัดมาให้ถึง 8GB ถือว่ามากกันเลยทีเดียวครับ แต่ถ้ามองเกมส์ใหม่ๆในปัจจุบันที่เน้นการสร้างกราฟฟิกที่สวยงามหรือเน้นกราฟฟิกแบบ Extreme กันแล้วนั้นจำนวน Memory ของตัวการ์ดนั้นสำคัญมากๆครับถ้าท่านชอบอะไรที่แบบเปิดกันแบบสุดๆหรือใช้งานในระดับ 4K กราฟฟิกการ์ด SAPPHIRE Tri-X R9 390X นั้นสามารถรองรับการทำงานได้อย่างสบายๆครับ ในส่วนของเทคโนโลยีของตัวการ์ดอย่าง SAPPHIRE Tri-X ที่ยังคงประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย อีกทั้งยังสามารถใช้งานปุ่ม OC เพิ่มความแรงบนตัวการ์ดได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ในช่วงท้ายในมุมมองผมที่เล่นซิสเต็ม AMD มาโดยตลอดทั้งซีพียูและกราฟฟิกการ์ด ผมมองว่า AMD R9 Series พัฒนาดีขึ้นกว่าเดิมครับแม้จะใช้ชิพเซ็ต (Hawaii) เหมือนในซีรี่ย์ก่อน แต่จุดเด่นที่เพิ่มแรม 8GB ในจุดนี้ถือว่า AMD จัดเต็มเพื่อรองรับการทำงานระดับ 4K หรือแม้กระทั่งการใช้งานในด้านอื่นๆเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ที่บรรดาเกมส์หรือโปรแกรมต่างๆเริ่มเน้นที่ Memory กันมากขึ้น (ถ้าไม่นับการปรับกราฟฟิกใช้งานให้เหมาะสมทั่วไปแบบไม่สุดนะครับ) หรือพูดง่ายเกมส์ใหม่ๆเน้นกราฟฟิกสวยๆนั้นเน้นใช้แรมกันเหลือเกินในปัจจุบัน อีกทั้งเทคโนโลยีที่รองรับการทำงาน Direct X 12 หรือ OpenGL 4.5 พร้อมทั้งรองรับการทำงานของ Windows 10 อีกด้วย โดยในวันนี้แฟนๆ AMD ก็น่าจะพอใจนะครับถึงแม้ในซีรี่ย์นี้จะไม่ได้ยกเครื่องใหม่ทั้งหมดแต่ก็เป็นธรรมดาครับของบรรดากราฟฟิกการ์ดของแต่ละค่ายที่ยังคงต่อยอดพัฒนากันจากรุ่นเดิม แต่สิ่งที่ AMD เพิ่มมาให้กับแรมที่ให้เพิ่มมา 8GB รวมไปถึงไดร์เวอร์ตัวใหม่ๆในอนาคตที่จะดึงพลังแฝงของตัวการ์ดออกมาอีกได้หรือไม่ ก็ต้องรอชมครับว่าจะเป็นเช่นไรต่อไป ส่วนราคาวางจำหน่ายในต่างประเทศอยู่ประมาณ 439.99ดอลล่าสหรัฐฯครับ ส่วนในประเทศไทยผมได้ยินแว่วๆมาที่ 1XXXXบาทต้นๆอย่างไม่เป็นทางการนะครับ สำหรับในวันนี้กระผมก็ขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่เร็วๆนี้กับรีวิวอุปกรณ์ใหม่ๆจัดเต็มทุกการทดสอบที่ Vmodtech.com สวัสดีครับ
…
…
…
ขอบคุณที่ติดตาม
Dodge Vmodtech
.
.
.
Special Thanks.
SAPPHIRE