—– Conclusions! —–

เข้าสู่หน้าสุดท้ายอีกแล้ว สำหรับการรีวิวอุปกรณ์ GeForce GTX 580 จาก SPARKLE การ์ดสวยๆ GPU เบอร์ใหญ่ชื่อ Fermi รหัส GF110 ซึ่งมันอัดมาพร้อมกับเทคโนโลยี SLi, PhysX, รองรับ DX11 อย่างเต็มรูปแบบ และแน่นอนว่ามันคงแรงสุดในชั่วโมงนี้อย่างแน่นอน หากเมื่อเปรียบเทียบสเปคกับการ์ดจอแรงสุดเมื่อ 3 เดือนก่อนการมาของ GeForce GTX 580 อย่าง GeForce GTX 480 เห็นได้ว่ารูปร่างหน้าตา และรูปทรงภายนอกคล้ายกันมาก มีเพียงชิป GPU ที่เปลี่ยนจาก GF100 มาเป็น GF110 และเพิ่มเติม Shaders Units จากเดิม 480 Units บน GTX480 มาเป็น 512 Units บน GTX 580 ในส่วนของ Core Clock และ Memory Clock  ก็ปรับปรุงให้เพิ่มสูงขึ้นมาอีกเล็กน้อย และในจุดอื่นๆ ที่ทาง nVidia เคลมไว้ว่าระบบระบายความร้อนทำได้ดีขึ้นกว่า GTX 480, เสียงพัดลมก็เบาลงกว่าเดิม และที่สำคัญอัตราการบริโภคพลังงานเมื่อเปรียบเทียบกันแบบ “วัตต์ต่อวัตต์” ก็ทำได้ดีมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ก็แน่นอนล่ะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ส่วนใหญ่คลื่นลูกใหม่ย่อมออกมาดีกว่า, แรงกว่า คลื่นลูกเก่าเป็นธรรมดา เพราะเขาปรับปรุงแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ มาแล้ว…วัฎจักรเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันก็มักเป็นเช่นนี้ล่ะครับ ไม่เช่นนั้นมันก็คงดึงสตางค์จากกระเป๋าเราๆ ท่านๆ ไม่ได้หากหยุดนึ่งอยู่กับที่ เอิ้กๆๆ… ในส่วนของประสิทธิภาพการเล่นเกมส์ฯ ก็ไว้วางใจได้ว่า ระดับความละเอียดแบบสุด 1920×1080 (FullHD), AA ระดับ 4X ขึ้นไปนั้น จากการใช้งานจริง เฟรมเรตที่ได้ลื่นปรี๊ดอย่างแน่นอน อีกทั้งการบริโภคพลังงานของตัวการ์ดเมื่อรวมกันทั้งระบบช่วงพีคสุดขณะอยู่ในสภาวะการ O/C ยังใช้พลังงานเพียง 35x วัตต์ เท่านั้นเอง หากท่านฯ ต้องการอัพเกรดระบบโดยปรับเปลี่ยนเฉพาะการ์ดจอ และเป็นกังวลว่า อาจจะโดนหางเลขว่าจะต้องอัพเกรดพาวเว่อร์ซัพพลาย ตามมาด้วยหรือเปล่า ? ซึ่งหากแต่เดิมท่านฯ มีพาวเวอร์ซัพพลายซัก 450-500 วัตต์แบบแท้ๆ ขึ้นไปอยู่แล้ว ก็น่าจะพอกล้อมแกล้มใช้งานได้อย่างสบาย…เห็นอย่างนี้แล้วกับราคาค่าตัวอยู่ที่ระดับ 16,xxx บาท เพื่อแลกกับความแรงที่สามารถรับมือกับการเล่นเกมส์ในระดับความละเอียดสูงๆ-ภาพชัดๆ ในปัจจุบันได้อย่างสบาย SPARKLE GeForce GTX 580 ก็เป็นอีก 1 ตัวเลือกฝากไว้ให้พิจารณา…พบกันรีวิวถัดไปครับ  : )

Special Thank : Strek (Thailand) เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ทดสอบ