…สำหร้บบทความนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งรายงานพิเศษจากงานComputex Taipei 2011 สำหรับการเข้าห้องสัมภาษณ์กลุ่มกับทางท่านประธานบริษัท Kingmax คุณ Lawrence Chang ถึงเรื่องของไฮไลท์ใน Computex สำหรับปีนี้ครับ

ปีนี้ภาย ในบู้ตของ Kingmax ก็จะเน้นหนักไปทางเมมโมรีอย่าง Nano Gaming Memory ที่เป็นแรม DDR3 2400MHz, CAS latency 10-11-10-30 ที่ใช้เทคโนโนโลยี Nano Dissipation ในการระบายความร้อนแทนฮ๊ทซิงค์

…มีการจัด กิจกรรมโปรโมตกันอย่างหนักหน่วงครับ กับกิจกรรม โยนฮ๊ทซิงค์แรมลงถังขยะ เพื่อตอกย้ำความโดดเด่นของเทคโนโลยีระบายความร้อน Nano dissipation ซึ่งผมจะได้พูดถึงรายละเอียดโดยการถอดใจความจากการเข้าสัมภาษณ์คุณ Lawrence Chang ประธานบริษัท Kingmax

…คุณ Lawrence Chang ได้เริ่มให้สัมภาษณ์ และเริ่มจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ล่าสุด คือ Nano Gaming Ram DDR3 2400MHz มีไทม์มิ่งทำงานที่ 10-11-10-30

…ทุกวันนี้ Kingmax นั้นเป็นบริษัทอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่ผลิตผลิตภัณฑ์จำพวกเมมโมรีโมดูล ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก เมมโมรี Nano Gaming Ram นั้นนำเอาเทคโนโลยี Nano Dissipation ที่มีเทคนิคในการผลิตชิปเม็ดแรมคือ ในกระบวนการที่เราจะผลิตเม็ดแรมขึ้นมาหนึ่งเม็ด ตัว Semi Conductor หรือแผ่นเวเฟอร์ภายในตัวเคสของเม็ดแรม ก็จะเป็นตัวนึง ส่วนตัวเคส ที่จะถูกผลิตโดยกระบวนการขึ้นโมลด์ ก็จะได้รับการฉีดอนุภาคที่จะเข้ามาทำหน้าที่ กระจายความร้อน ที่เล็กในระดับนาโนที่เรียกว่า Diamond Like Particle ลงไป ส่งผลให้ตัวเม็ดแรม ซึ่งที่เราเห็นกัน มันก็จะคือตัวเคสของเม็ดแรม มีสีออกเป็นสีน้ำเงินๆ ดังรูปนั้นเองครับ

…เหตุที่ทำให้ Kingmax สามารถนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับเมมโมรีโมดูลของตัวเองได้ ก็เนื่องมาจากว่าทาง Kingmax นั้นมีบริษัทลูกที่เป็นผู้ผลิตเวเฟอร์ เซมิคอนดักเตอร์ในเครืออยู่ เขาสามารถสั่ง และออกแบบชิปได้ด้วยบริษัทตนเอง เหมือนอย่างที่ยักษ์ใหญ่อย่าง Hynix-Samsung ทำอยู่ทุกวันนี้แหละครับ

.

.

.

.

…นอกจากนี้ สำหรับผลิตภัณฑ์ในส่วนของ Flash Memory ทางคุณ Lawrence ก็ได้แสดงถึงความเป็นผู้นำของตลาดในกลุ่มนี้ ด้วยการเปิดตัว Micro SD มาตรฐาน SD 3.0 ขนาดใหญ่ถึง 64GB ก่อนใครเพื่อน ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นไปตามกระแสโลกจริงๆครับ เพราะทุกวันนี้อุปกรณ์ Mobile devices อย่างTablet ก็ต่างใช้เมมโมรีสลอตแบบ Micro SD กันหมด ซึ่งก็น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับ ชาว Tablet ที่จะได้มีเมมโมรีความจุสูงๆใช้กันอีก

…โดย ณ ชั่วโมงนี้ ยังไมมีอุปกรณ์โมบายค่ายไหนรองรับมาตรฐานนี้เลย ซึ่งทางคุณ Lawrence ก็ได้กล่าวเสริมว่า อุปกรณ์อย่างแรกๆที่จะสนับสนุน SDXC ก็น่าจะเป็น Tablet นั้นแหละครับ ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ และจะมีโทรศัพท์ออกมาในภายหลัง ซึ่ง SDXC ของทาง Kingmax ที่สามารถทำความจุได้สูงขนาดนี้ ก็ด้วยความสามารถในการผลิตเวเฟอร์ และสารกึ่งตัวนำต่างๆได้เอง และได้ออกแบบชิปภายในให้มีดีไซน์ที่มี DIE มากถึง 9 DIE ด้วยกัน

…นอกจากนี้ภายในงานยังได้มีการพูดถึง Kingmax ED-01 ซึ่ีงเป็นแฟลชไดร์ฟ USB 3.0 ที่มีอัตตราการอ่าน/เขียนข้อมูลเร็วถึง 66/41 MB/s ซึ่งหากใครจำกันได้ เมื่อช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แฟลชไดรืฟ USB 3.0 นั้นยังมีขนาดที่ใหญ่อยู่มากเนื่องจากต้องใช้ชิป Bridge แปลงอินเตอร์เฟสมาเป็น USB 3.0 แต่ ณ ทุกวันนี้ USB 3.0 นั้นมีมาตรฐานที่คงที่แน่นอนแล้ว ED-01 จึงเป็นแฟลชไดร์ฟ USB3.0 ที่มีขนาดปกติ ใช้ชิปควบคุมเพียงชิปเดียว อย่างที่เห็นนี่แหละครับ

SSD แบบ High density ความจุสูง 256 และ 512GB แบบ SATA 3 ความเร็วถึง 415/260 MB/s ที่ทางคุณ Lawrence เองได้บอกว่า เป็นดีไซน์ที่เป็นของ Kingmax เอง จากโรงงานของ Kingmax เองโดยตรง ก็ได้นำมาจัดแสดงในงานนี้ด้วย

…คุณ Lawrance ยังได้กล่าวเสริมอีกด้วยว่า ทุกวันนี้โลกของการแข่งขันในส่วนของเมมโมรีนั้นรุนแรงดุเดือดมาก กระแสการบริโภคผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีก็เปลี่ยนไป ยอดขายพีซีมีแต่จะหดตัวลงเรื่อยๆ ด้วยการเข้ามาของนวตกรรมใหม่ๆที่น่าจะเข้ามาตอบโจทย์การใช้งานเชื่อมต่อขั้นพื้นฐานอย่าง Tablet ซึ่งสิ่งที่หลายคนอาจจะไม่ทราบก็คือ ทุกวันนี้ เหลือบริษัทผู้ผลิต DRAM จริงๆเพียงแค่ 5 บริษัทเท่านั้น Kingmax เองก็เป็นหนึ่งในนั้น และเขาก็คิดว่า บริษัทของเขา อยู่และเติบโตมาได้ ก็ด้วยความแตกต่าง และการเพิ่มมูลค่าและคุณค่าของตัวผลิตภัณฑ์เมมโมรี รวมไปถึงมีช่องทางการขายผ่าน Distributor ที่ดี ซึ่งทางท่านประธานบริษัทก็ได้กล่าวไว้อีกว่า Kingmax จะยังคงสามารถยืนหยัดต่อสู้ในการแข่งขันในตลาดโลกได้ต่อไปอย่างต่ำๆก็ห้าปี แน่นอนครับ

.

.

ขอขอบคุณ Kingmax และ TKComputer ผู้สนับสนุนการเดินทาง