Smartphones & Tablet World

มาถึงอีกเรื่องหนึ่งที่น่าจะเป็นประเด็นฮอตสำหรับชั่วโมงนี้ก็คือโลกของ Smartphone และ Tablet ซึ่งผมเองก็ได้ไปเก็บเอารายละเอียดมาเล็กน้อย ซึ่งเรื่องจริงทุกวันนี้คือ เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของ Post-PC Era คือปริมาณการใช้เครื่องพีซีทั่วๆไป จะลดน้อยลงมาเรื่อยๆ และการใช้งานในชีวิตประจำวันเรา จะถูกแทนที่ด้วยอุปกรณ์แบบ Portable ต่างๆที่ใช้งานง่าย และขนาดพอเหมาะพอดีมากกว่านี้เอง

นั้นแหละครับ ผมกำลังพูดถึงเรื่องของ Smart Phone และ Tablet ขนาด 7-10 นิ้ว เรามาชมกันเลยดีกว่า

ต้องยอมรับกัน ว่า ทุกวันนี้ ถ้าไม่ใช่ Apple ค่ายที่น่าจะเรียกว่าเป็นผู้จุดไฟสงครามแห่งโลกของ Smartphone ยุคใหม่ ระบบมัลติทัช และมาตรฐานและเทรนด์มากมาย NVIDIA เรียกได้ว่าเป็นผู้เล่นที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีของ Smartphone และ Tablet ประสิทธิภาพสูงในทุกวันนี่้

ในรูปนั้นเป็น โทรศัพท์ Motorola Atrix 4G ที่ใช้ชิปซีพียู NVIDIA Tegra 2 คุณสมบัติของ Tegra 2 นั้นคือเป็นซีพียูสถาปัตยกรรมแบบ ARM A9 แบบดูอัลคอร์ มีหน่วยประมวลผลกราฟฟิคที่ใช้สถาปัตยกรรมแบบเดียวกับกราฟฟิคชิป GeForce ในโลกPC สนับสนุนการถอดรหัสวีดีโอ Full HD 1080P ส่งผ่านพอร์ต HDMI พร้อมสัญญาณเสียงได้ ซึ่งจริงๆแล้วเราจะสังเกตได้ว่า Tegra 2 นั้นมันไม่ได้เกิดมาเพื่อ Smartphone อย่างเดียว แต่ดูเหมือนจะเอาใจเครื่อง Tablet ด้วยคุณสมบัติและความแรงครับ

และโดยส่วน ใหญ่แล้ว เครื่อง Tablet ที่เป็น non apple product ทั้งหลาย ก็มักจะเลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Android ซึ่ง ณ ทุกวันนี้ Android 3 (Honeycomb) ก็เรียกได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่สนับสนุนการทำงานร่วมกับ Tablet อย่างเต็มรูปแบบแล้ว

เกม Fruit Ninja เวอร์ชั่น HD ที่ทำมาเป็น Tegra optimized โดยเฉพาะ

ด้วยความ สามารถของ Tegra 2 ทำให้เครื่องมือถือเล็กๆอย่าง Atrix 4G นั้นสามารถเชื่อมเข้ากับ Docking ทำงานได้คล้ายๆกับ Netbook เลยทีเดียวครับ คือมีทัชแพด คีย์บอร์ดในตัว และจอความละเอียดสูง ไอเดียแบบนี้นอกจาก Motorola Atrix แล้ว ก็ยังมี Asus Eee pad Transformer ที่เป็น Tablet ที่สามารถต่อเข้า Docking ใช้งานแบบโน๊ตบุ๊กได้เช่นกัน

เรื่องราวของ NVIDIA Tegra 2 นั้นจริงๆแล้วผมเคยเขียนไว้ค่อนข้างชัดเจนแล้วครับ ในบทความนี้ ซึ่งก็ไปตามอ่านกันได้นะครับหากใครยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก

ซึ่งเรื่องราวของ NVIDIA Tegra 2 ทั้งหมดที่ผมกล่าวมานั้น ก็เป็นอันที่จะเข้าใจกันครับ ว่าซีพียูมือถือสมาร์ทโฟนทั้งหลายทั้งปวงในทุกวันนี้ส่วนใหญ่แล้ว ล้วนแล้วแต่ใช้สถาปัตยกรรมอิงจากแบบของ ARM กันแทบทั้งสิ้น ทุกวันนี้ก็ขยับไปกันจนถึง A9 กันแล้ว ซึ่งอินเทลในฐานะยักษ์ใหญ่ในโลกของซีพียูแบบ X86 based หรือซีพียูแบบที่เราใช้กันในพีซีทั่วไป ก็ไม่ยอมแพ้ครับ เปิดโชว์เดโมของ Tablet ที่ใช้ขุมพลังจากซีพียู Intel Atom

โครงสร้างของซีพียูที่เป็นแบบ ARM นั้น จะเป็นระบบที่เป็น system on chip คือมีส่วนติดต่อรับส่งข้อมูลต่างๆ บรรจุลงไปในชิปเพียงแพคเกจเดียว ต่างจากโครงสร้างแบบ X86 ของอินเทลเอง ที่เราใช้งานกันอยู่ในคอมพิวเตอร์ทุกวันนี้ นี่เอง ซึ่งการพัฒนาช่วงหลังๆมานี้ในโลกของ X86 เองก็จะเริ่มมีการรวมเอาส่วนประกอบของระบบหลายๆอย่างยัดลงไปในซีพียู เช่นเมมโมรีคอนโทรลเลอร์ หรือแม้กระทั่งส่วนควบคุมบัสแบบ PCI-E หรือระบบกราฟฟิค ส่วนแปลงสัญญาณ DAC ไปยังจอแสดงผล และอื่นๆ

ซึ่งจุดแข็งของอินเทลก็คือความสามารถในการติดตั้งระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย ซึ่่งจริงๆคือคนทั่วไปอาจจะคิดว่า Atom ก็ต้องลง Windows ไม่ก็ Linux อะไรแนวๆนี้สิ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ครับ ทุกวันนี้มีผู้ผลิตทั้ง OEM/ODM หรือกระทั่งของซื้อขายทั่วไป ที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android ลงไปใน Tablet ที่ใช้ซีพียู Intel Atom ได้แล้ว และเคลมในเรื่องของความเข้ากันได้กับ apps ของ Android เองว่า 90% ขึ้นไปแน่นอน เมื่อเทียบกับซีพียูจากทางฝั่ง ARM

ซึ่งภายในงาน เท่าที่ทราบมาจากข่าว press release ทั้งหลาย ก็พบว่าอินเทลนั้นเตรียมแพลนทีจะเปิดตัว Atom next generation ที่จะเป็นซีพียู 32 นาโนเมตร (ปัจจุบันเป็น 45) ซึ่งมีโค้ดเนมว่า Cedar Trail จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Smart Connection ของอินเทล ที่จะทำให้เครื่อง Atom สามารถคงการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายในขณะที่ standby แบบเดียวกับที่ Tablet ทั่วๆไปควรจะทำได้กัน รวมไปถึงเทคโนโลยี Intel Rapid start ที่จะช่วยให้การบู้ตเครื่องจากโหมด Hibernate กลับมาได้เร็วยิ่งขึ้น

กล่าวคือ Atom next generation จะมีการปรับปรุงให้มีคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่ออุปกรณ์ Tablet มากขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง สามารถทำงานร่วมกับ fanless design ได้อย่างดี อ้อ และที่สำคัญ มันจะอออกมาซัพพอร์ตการถอดรหัสวีดีโอ 1080P ได้แล้วด้วยนะครับ !

อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับทางฝั่งของอินเทลก็คือ MeeGo ครับ มันเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับเครื่อง Tabletล่าสุด ที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง Linux Foundation, Intel, Nokia, Novell และ AMD เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการแบบ Opensource สำหรับเครื่อง Tablet สนับสนุนการทำงานทั้งบนซีพียูสถาปัตยกรรมแบบ ARM และ X86 ของอินเทลเอง

เราจะเห็นได้ว่า เครื่อง MeeGo หลายๆรุ่นที่นำมาโชว์ภายในงาน ก็จะมีอินเตอร์เฟส และความลื่นไหลที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็คือข้อสังเกตที่ผมไม่รู้ว่าจะเรียกว่าดีหรือด้อยดี สำหรับโลก Opensource คือแต่ละค่าย ก็อาจจะมีอินเตอร์เฟสเป็นของตัวเอง หรือจะใช้มาตรฐาน แบบรูปแรกที่ผมได้โชว์ไปก็ได้

เท่าที่ได้สัมผัสและใช้งาน ความลื่นไหลนั้น ก็อยู่ในระดับที่ใช้ได้ครับ ขึ้นอยู่กับอินเตอร์เฟสด้วยว่าเป็นแบบไหน ในรูปนี้เป็นการทดลองเล่นไฟล์วีดีโอแบบ 720P เท่านั้นนะครับ กับ atom รุ่นปัจจุบัน ไม่สนับสนุนการเล่นแบบ 1080p

ส่วนตัวนี้เป็นตัวที่ติดตั้ง honeycomb เท่าที่ลองเล่นดู ก็โอเคใช้งานได้ครับ

นอกจากนี้มือถือแบรนด์ท้องถิ่นของที่ไต้หวันเอง ก็ยังมี Android smartphone และ รวมไปถึง Tablet ซึ่งโทรศัพท์ตัวนี้เนี่ย สองซิมด้วยนะครับ ! แต่ยังคงเป็นซีพียูแบบ ARM ธรรมดาอยู่ ไม่ใช่ Tegra 2

.

.

…จะเห็นได้ว่า ปีนี้ น่าจะเป็นปีของ Tablet จริงๆครับ ทุกวันนี้อุปกรณ์พวกนี้ มันเริ่มที่จะเกิดมาเพื่อฆ่าคอมพิวเตอร์พีซีราคาถูก ที่คนซื้อไปคิดว่าจะเอาไปใช้งานเล่นอินเทอร์เนทอย่างเดียวเลย ผู้ผลิตไต้หวันหลายๆราย ก็เริ่มหันมาทำอุปกรณ์พวกนี้กันแทบจะทั้งนั้นแล้ว ทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ หรือบริษัทเล็กบริษัทน้อยที่ทำ OEM ให้ค่ายอื่นไป

.

.

วันนี้ก็ต้องจบการายงานจากกรุงไทเปแต่เพียงเท่านี้ หวังว่าจะได้พบกันปีหน้าครับ สวัสดี

.

ขอขอบคุณ Kingmax และ TKComputer ผู้สนับสนุนการเดินทาง

.