Biostar TA890GXE [Ver 5.2]
Share | Tweet |
—————————– บทนำ & Packaging ——————————
สวัสดีครับ : ) พบกันอีกแล้ว รอบนี้ผมมีเมนบอร์ดไซส์เล็กสายพันธุ์ AMD มาพร้อมกับพลังชิปเซต 890GX+SB850 ซึ่งถือว่าเกือบจะ Hi-End สุดในซีรีย์นี้เลยทีเดียว ช่วงนี้เทศกาลบอลโลก ดูบอลมันส์ๆ อ่านบทความเพลินๆ แล้วอย่าเผลอหน้ามืดไปกับลายแทงของเทพวิบัติฯ ประจำเวปฯ ไม่งั้นท่านฯ จะต้อง เง้อ !!! อิอิกำ กันตลอดเทศกาล 555+ ว่าแล้วมาเข้าเรื่อง อ่านบทความต่อกันดีกว่า เมนบอร์ดที่นำเสนอในครั้งนี้เป็นของค่าย Biostar ซึ่งครั้งนี้มันมาในลุคใหม่ กล่องใส่ขาวตัดแดง สีสันสดใส จากเดิมที่กล่องฯ ของมันมักจะเป็นสีขาวตัดดำ ดูแค่กล่องฯ ก็ให้ความรู้สึกว่าของด้านในมันต้องสวยงามแน่นอน หน้ากล่องฯ หลังกล่องฯ บอกรายละเอียดไว้อย่างครบถ้วนเพียงพอต่อการพิจารณาตัดสินใจเป็นเจ้าของได้อย่างไม่ยากเย็น แถมหน้ากล่องฯ ยังบอกไฮไลท์เด่นสำคัญ ที่คอ AMD อยากให้มี คือคุณสมบัติเปิดหัวได้ ซึ่ง Biostar ตัวนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง มันมาพร้อมกับฟีเจอร์ BIO Unlocking ซึ่งฟีเจอร์นี้สามารถทำให้ CPU ที่ท่านฯ มี สามารถเปิดหัวที่ซ่อนเร้นออกมาได้อย่างง่ายดาย ในจุดนี้ทำให้ท่านฯ มั่นใจได้ว่า ซื้อไปแล้วสามารถใช้เปิดหัว CPU ตระกูล AMD ได้อย่างแน่นอน (ถ้า CPU เอื้ออำนวย 555+)
(รายละเอียดสเปค จากผู้ผลิตโดยตรง)
—————————– แกะกล่อง Biostar TA890GXE [ver 5.2] ——————————
ดูกล่องฯ อ่านสเปคกันไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาแกะกล่องกันแล้วครับ ของที่พ่วงมาในกล่องนอกจากตัวเมนบอร์ดฯ แล้ว ก็มีเพียงคู่มือ 1 เล่ม, แผ่นไดร์เวอร์ 1 แผ่น, แผง I/O 1 อัน และที่เหลือก็เป็นสายสัญญาณ และสายไฟ พร้อมด้วยแผ่นเทปตีนตุ๊กแก เอาไว้ให้รัดสายไฟจำนวน 1 เส้น ในส่วนของตัวสายสัญญาณ-สาย SATA ของ Biostar มักจะให้มาแบบที่สามารถล๊อคหัวได้ ตรงนี้ผมชอบมาก ซึ่งเมนบอร์ดฯ เจ้าดังๆ ราคาแพงกว่า บางรุ่นยังไม่มีให้เลยครับ… : )
โทนสี-เลย์เอ้าท์ บนเมนบอร์ดฯ ตัวนี้ ลงตัวใช้ได้เลยทีเดียว สีสันสวยสดงดงาม ผมว่าถ้าเอาไปใส่กับเคสซีทรู หรือพวกโชว์ฝาข้างใสๆ ใช้ไฟแต่งเคสฯ สาดส่องลงบนบอร์ดฯ หลับตาพริ้มจินตนาการดูแล้ว น่าจะสวยงามไม่น้อย ภาคจ่ายไฟของบอร์ดฯ ตัวนี้ ทางผู้ผลิตระบุมาว่าเป็นแบบ Real 4+1 Phases และบริหารจัดการภาคจ่ายไฟเป็นแบบ DPU (Digital Power Unit) โอ้ว !!! หรูจริงๆ
ด้านหลังบอร์ดมีแผ่นดามหลังของ LOTES เสริมสร้างความปึกกับซ๊อกเก็ต ให้ดูแน่นหนาและแข็งแรง
บอร์ดฯ ตัวเล็ก แต่ลูกเล่นที่มีให้ไม่เล็กเลยสำหรับ Biostar รุ่นนี้ มีสวิตท์เปิด-ปิด และสวิตท์รีเซต ติดตั้งมาให้สำหรับผู้นิยมใช้งานแบบนอกเคส ไว้กดเล่นโดยไม่ต้องพึ่งพาไขควง และในส่วนของขั้วต่อสายไฟ-สายสัญญาณต่างๆ กับตัวเคส ก็ทำมาให้แบบมีคีย์สี สามารถเสียบลงอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องพึ่งพาคู่มือกันเลย มือใหม่หัดประกอบเคสเห็นอย่างนี้แล้วไม่ต้องมานั่งปวดหัวเสียบผิด-เสียบถูก อย่างที่เคยเป็นกัน
ช่องเชื่อมต่อสายสัญญาณ SATA ก็ให้มาแบบตะแคงข้าง และรองรับ SATA3 (6 GB/s) กันเรียบร้อยไปแล้ว จุดนี้ผมชอบมาก จัดสายง่าย แอบซ่อนสายออกด้านข้างบอร์ดฯ ได้มิดชิด ทำได้ง่าย และเนียนกว่าการซ่อนเงินเมียเสียอีก เง้อ !!! อิอิกำ
ในส่วนของ DDR3 Memory Slot ให้มา 4 ช่อง สามารถวิ่งได้ถึง บัสแรม 1600 ในสภาวะ O/C และในจุดนี้ มีภาคจ่ายไฟเพิ่มเติม ให้อีก 2 เฟส บอร์ดฯ ตัวเล็กเทพจริงๆ 555+
All Solid Caps กันยกบอร์ดฯ ดูหรูหรา งดงาม และเริ่มที่จะเป็นมาตรฐานบอร์ดฯ ในรุ่นใหม่ๆ ที่มักจะใช้ตัว Caps แบบนี้กันหมดแล้ว
ช่องเชื่อมต่อด้านหลัง มากันครบครันตามมาตรฐานที่ใช้งานกันส่วนใหญ่ ในยุคปัจจุบัน ระบบเสียงพกมา 8+2 Chanel Blu-ray Audio บนชิป Realtek ALC892 ส่วนระบบกราฟฟิค ผนวกชิป ATi HD4290 พร้อมพ่วง 128MB DDR3 Side-Port Memory แรงใช้ได้ครับ สำหรับ VGA Onboard ตัวนี้
ภาคจ่ายไฟ 4+1 เฟส ของบอร์ดฯ ตัวนี้มีฮีทซิงค์ระบายความร้อนหน้าตางดงาม แปะมาให้ 1 ตัว
หลังจากแกะฮีทซิงค์ออกมาดู จุดที่ฮีทซิงค์สัมผัสกับภาคจ่ายไฟจะต้องมีจำนวน 15 จุด แต่ปรากฎว่ามันสัมผัสได้ไม่ครบทุกจุด โดยเฉพาะจุดที่อยู่ตรงส่วนกลางของฮีทซิงค์ เข้าใจว่าแรงกดส่วนใหญ่ไปอยู่ตรงด้านปลายๆ ฮีทซิงค์ เอิ้กๆๆ อิอิกำ
————————- ระบบทดสอบ (System Test) ————————-
ระบบที่ใช้ทดสอบยังคงใช้ CPU AMD รหัส Phenom II x2 555BE และได้ทำการแปลงร่างเป็น B55 4 Cores เพื่อโชว์ศักยภาพของบอร์ดฯ ที่ระบุมาว่าสามารถเปิดใช้งาน Core ที่ซ่อนเร้นออกมาได้ อีกทั้งความเร็วกดกันไปที่ @295×13.5 วิ่งกันเต็มสูบเท่าที่เมนบอร์ดฯ และ CPU จะเอื้ออำนวย ในส่วนของ VGA ก็ใช้กราฟฟิค On Board HD4290 ตามมาตรฐานที่บอร์ดฯ มีติดให้มา เอาเพื่อให้รู้กันไปเลยว่า On Board เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ขี้ไก่แล้ว 555+
ระบบทดสอบ (System Test) | |
CPU | AMD Phenom II x2 555BE [@B55] |
CPU Cooling | Scythe Andy Samurai [Fan 2700 rpm] |
VGA | Onboard HD4290 |
Memory | OCZ PC3-12800 [1024x2] |
Motherboard | Biostar TA890GXE [Ver 5.2] |
Harddisk | Samsung Spinpoint F3 [1TB] |
Power Supply | Tagan BZ800 [800w] |
Air Condition | LG 9500BTU @ 28c |
O/S | Windows 7 Enterprise x86 |
—————————– BIOS Detail & BIOS Config ——————————
มาดูหน้าตา BIOS และ Config BIOS กันบ้าง ในส่วนของ SS แรก จะเป็นหน้าตาหลังจากเปิดเครื่องฯ Biostar ตัวนี้เป็น T-Series หาก CPU ที่ใช้เปิด Core เพิ่มได้ มุมขวาบน ก็จะมีรูป CPU กับ x4 บอกเป็นสัญญลักษณ์ และ BIOS ที่ใช้จะเป็นของค่าย AMI
BIO-unlocKING ฟีเจอร์นี้เอาไว้เปิด Core เพิ่มของ CPU และในส่วนของ OverClock Navigator จะเป็นฟีเจอร์สำเร็จรูปที่ใช้ในการ O/C เพียงท่านฯ เลือกระดับความแรงซึ่งมีมาให้ 3 ระดับ (V6-Tech, V8-Tech และ V12-Tech) มันก็จะเพิ่มพลังให้ท่านฯ โดยที่ไม่ต้องไปปรับแต่งค่าอื่นๆ อีกมากมายก่ายกองให้ปวดหัว เหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับ ที่ริอยากแรง !!! แต่ถ้าความแรงของ V12-Tech แบบออโต้ที่มีมาให้ยังไม่เพียงพอ ท่านฯ สามารถกดเลือกแบบ Manual OverClock เอาให้หนำใจกันไปเลย !!!
BIOS ของ Biostar รุ่นนี้สามารถบันทึก Profile ได้ถึง 10 Profile จุดนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ สำหรับคนที่ชื่นชอบการ O/C เพราะมันช่วยจดจำ และบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่เราได้กำหนดไว้ ทำให้สะดวกในการเรียกค่าต่างๆ ที่กำหนดมาใช้งาน ให้เหมาะสมกับความต้องการในรูปแบบต่างๆ ที่เจ้าของเครื่องฯ กำหนดขึ้นมา
และฟีเจอร์เสริมที่มักจะมีมาให้กันเกือบทุกรุ่นบนเมนบอร์ดของ Biostar คือฟีเจอร์ Integated Memory Test โดยอาศัยโปรแกรม Memtest86 ในการทำงาน มันมีไว้เพื่อทดสอบเสถียรภาพของ Memory หลักในระบบของเรา
—————————– EVEREST, CPUZ & Windows7 Rating INFO ——————————
รายละเอียดต่างของเมนบอร์ดฯ บน Everest Ultimate และ CPUZ
Rating ของ Windows 7 : 4.6 จาก rating เต็มๆ 7.9
—————————– SuperPi 1M, 32M 1Core & HyperPi 32M 4Cores ——————————
SuperPi และ HyperPi บน AMD System ก็ยังเป็นเรือเกลือ ตามมาตรฐานของ AMD เอิ้กๆๆ
—————————– LinX 0.6.4, FritzChess, WinRAR & CPUMark99 ——————————
LinX ถ้าเอากันแบบ All Problem size ต้องตบไฟกันมากกว่าชาวบ้านเลยทีเดียว 555+
—————————– PiFast, wPrime 1.55 & PerformanceTest 7 ——————————
—————————– CINEBENCH R10 & R11.5 ——————————
—————————– EVEREST Ultimate ——————————
Everest Ultimate ชุดนี้รูดดูกันยาวๆ เลยครับ : )
—————————– 3DMark 2xxx & Vantage ——————————
3DMark 2003 : 6161
3DMark 2005 : 5439
3DMark 2006 : 2380
3DMark Vantage : P468
ระดับ VGA Onboard ได้เพียงแค่นี้ก็แจ่มแล้วครับ
—————————– DX9 : Final Fantasy XIV ——————————
เกมส์นี้รันบน DirectX 9 เห็น Score แล้วท้อใจ ระดับ Score:434 เห็นทีเล่นเกมส์นี้ได้อย่างไม่มีความสุข ต้องลง VGA แยกครับถึงจะเล่นได้
—————————– DX10 : Call of Juarez ——————————
AVG 9.4 FPS นี่ขนาดปรับต่ำสุดทุกอย่างแล้ว ยังไม่ไหวเลย
—————————– DX10 : Crysis & Crysis Warhead ——————————
Crysis และ Crysis Warhead ปรับต่ำสุดหมดทุกอย่าง เฉลี่ย 48.88 FPS และ 38.30 FPS ตามลำดับ โอ้ว !!! เทพฯ จริงๆ สำหรับ VGA Onboard เล่น Crysis ได้ลื่นสบายมาก แต่อย่าไปดูภาพมันน๊ะ ดูแห้งแล้งมากเลยครับ เอิ้กๆๆ
—————————– DX10 : Resident Evil 5 ——————————
RE5 บน DirectX 10 ได้เฉลี่ย 22.3 FPS พอถูไถครับ แต่ถ้าลองลดระดับไปเล่นบน DirectX 9 คงลื่นกว่านี้ ???
—————————– DX11 : Colin McRae DIRT2 ——————————
เล่น DIRT2 บน DirectX 11 เห็น FPS แล้วท้อใจ !!!
—————————– DX11 : Heaven v2.1 ——————————
เห็นตัวนี้แล้วยิ่ง เง้อ !!! อิอิกำ 9.9 FPS ดูสไลด์ บน Power Point ยังลื่นกว่าอีก เอิ้กๆๆ
—————————– DX11 : S.T.A.L.K.E.R. Call of pripyat ——————————
S.T.A.L.K.E.R. ยังพอถูไถ เล่นได้แบบหนืดๆ เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 21.6-32.6 FPS
—————————– PhysX : Nurien & StarTales ——————————
พอพ่วง PhysX ลงไป FPS ที่ได้ไม่ต้องพูดถึงเลย… 555+
—————————– TEMP & Power Consumption ——————————
System AMD อัดหนักๆ ปล่อยไฟ vCore ไปเยอะๆ กับ CPU Cooler ระดับพื้นๆ อุณหภูมิยังอยู่ในช่วง 29-54 องศาC เย็นดีจริงๆ
สภาวะปกติ (IDEL) กินไฟ 151 Watt
สภาวะอัดหนักๆ (Full Load) กินไฟ 326 Watt
—————————– บทสรุป ——————————
เสร็จสิ้นกันไปอีกรายการสำหรับการทดสอบเมนบอร์ด Biostar รหัส TA890GXE ซึ่งตัวนี้เป็น version 5.2 ปรับปรุงล่าสุด หน้าตาสวยใส, สีสันงดงาม, รองรับ AMD CPU x6 มาแต่เกิด, แถมมีฟีเจอร์ BIO-UnlocKING เพื่อปลดล๊อค core ของ CPU ให้เขี่ยเล่น, ภาคจ่ายไฟบนบอร์ดเป็น DPU (Digital Power Unit), ตัว Caps เป็น All Solid Caps ทั้งหมด, มีปุ่ม เปิด-ปิด บนตัวบอร์ดฯ, พอร์ทเชื่อมต่อด้านหลังมีครบ, รองรับ SATA3 (6 GB/s) เรียบร้อยแล้ว, แต่ในส่วนของ USB พอร์ทท้ายบอร์ดฯ ยังคงเป็น USB2.0 อยู่ สงสัยต้องรอรุ่นถัดไป ถึงจะพก USB3.0 มาให้ แต่ไม่เป็นไร Option ที่ติดมาให้ก็มากมายก่ายกองคุ้มค่าตัว 3พันต้นๆ อย่างแน่นอน ในส่วนของการใช้งานทั่วไปและการ O/C กับบอร์ดฯ ตัวนี้ใช้งานได้ง่าย O/C หนักๆ รันไม่ผ่านก็ไม่มีอาการเหว๋อให้เห็น หนักหน่อยถ้า O/C ไม่ผ่านก็ค้าง รีเซตระบบ แล้วเข้าไปกำหนดค่าใหม่ ก็หายแล้ว ในส่วนการเข้าถึงหัวข้อต่างๆ ใน BIOS ของบอร์ดฯ ตัวนี้อาจแตกต่างจากบอร์ดฯ อื่นๆ อยู่บ้าง คือต้องเข้า-ออก กันหลายเมนู บางเมนูจะมีเมนูย่อยลงไปอีก ชวนให้ปวดหัวอยู่เหมือนกัน และในการเพิ่ม-ลดไฟ ให้กับจุดต่างๆ มันจะให้เราเพิ่มแบบ ค่า Offset คือ +/- 0.xx ปัญหาคือทำให้เราไม่รู้ว่า ณ ขณะนั้นค่าไฟมันอยู่ที่ตำแหน่งไหน ต้องรีบูทระบบแล้วกลับเข้ามาดูใหม่ใน BIOS ว่าในส่วนของ Display Voltage เป็นค่าอะไร เล่นเอามึนพอสมควร แต่ไม่เป็นไรจับๆ ไปซักพักเดี๋ยวก็ชินไปเองครับ เง้อ อิอิกำ มีจุดดีมากกว่าจุดด้อย แลกกับค่าตัวที่ตัดสินใจควักกระเป๋าลงทุนกับตัวนี้ได้ไม่ยาก ผมคิดว่าบอร์ดฯ ตัวนี้สอบผ่านหมดเกือบทุกจุด…..จบดีกว่าขอไปตั้งหลักดูบอลฯ ต่อ แล้วเจอกันใหม่ในโอกาสถัดไปครับ สวัสดี…VMOD : )