.

ในห้องโดยสารของ Model S นั้นดูด้วยงามมากกว่าที่ผมตั้งความหวังไว้กับความเป็น Beta มันมีกระจกที่ด้านบนของหลังคายาวไปจนกระทั่งหลัง หนังที่บุเบาะก็ให้ความรู้สึกดี และผ่อนคลาย ประตูทั้งหมดเวลาปิดนั้นได้ยินแค่เสียงคลิ๊กเท่านั้น

นี่เป็นจอ Touchscreen ขนาดใหญ่ที่สามารถควบคุมระบบความบันเทิงและระบบสารสนเทศทั้งหมด

.
Brennan Boblett ผู้ดูแลในส่วนของ interface design ได้โชว์หลายๆส่วนบนหน้าจอ Interface ขนาดใหญ่นั้น ส่วนที่น่าสนใจคือโปรแกรมจะเชื่อมต่อกับ Google Earth เพื่อที่จะแสดงตำแหน่งของรถในขณะนั้น ซึ่งจริงๆแล้ว Tesla จะผนวกระบบ Navigation ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ Navigon ในส่วนของระบบควบคุมบริเวณกลางคอนโซลนั้น จะใช้ Chip Tegra 2 ที่มีขนาดเล็กแต่ว่าเปี่ยมไปด้วยพลัง คาดว่าหา Model S เข้าสู่สายการผลิตอาจจะมีการเปลี่ยนไปใช้ Tegra 3 ก็เป็นได้

.

The electric world

ความก้าวหน้าที่เห็นอย่างชัดเจนคือ Tesla ได้ทำการคาดการว่าเมื่อ Model S เข้าสู่สายการผลิตแล้วน่าจะผลิตได้แค่ราว 5,000 ยูนิตในปีแรก ทั้งๆที่ Tesla ได้รับการยืนยันเรื่องการจองในงวดแรกนี้ไปแล้ว 6,000 ออเดอร์ และหลังจากที่สายการผลิตเดินเต็มกำลังแล้วนั้น คาดการว่าจะสามารถผลิตได้ 20,000 คันต่อปี ซึ่งการวางแผนการผลิตนี้จะใช้แค่กะเพียงกะเดียวทำงานต่อวัน

กับราคาเริ่มต้นที่ 57,400 เหรียญสหรัฐที่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ก็ถือว่าราคานี้ก็สมเหตุผล แต่อย่างไรก็ดีมันเป็นรุ่นที่สามารถวิ่งได้ไกล 160 ไมล์ ซึ่งทาง Tesla ประมาณว่ารุ่นที่สามารถวิ่งได้ไกล 300 ไมล์นั้นจะมีราคาประมาณ 77,400 เหรียญ โดยที่ราคาที่แตกต่างนั้นน่าจะเป็นความต่างเฉพาะเรื่องของ Battery ที่ทำให้วิ่งได้ระยะทางเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่เกี่ยวกับองค์ประกอบอื่นเลย

ล่าสุด Tesla ได้ประกาศว่าขณะนี้ได้ทำการพัฒนารถคันที่สองที่ใช้ชื่อว่า Model X ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างให้ต่างกันออกไป โดยที่คาดหวังไว้ว่าน่าจะหาซื้อได้ง่ายกว่า Model S

.

.

ขอบคุณ NVIDIA

.