The review of Spark X1600Pro Golden 128 MB

/ บทความโดย: admin , 29/12/2005 01:16, 887 views / view in EnglishEN
«»
Share

DeFault Stage


การเทสต์ที่Stageนี้ จะไม่มีการเพิ่มความถี่สัญญาณนาฬิกาให้ทั้งCPUและGraphic Card ใดๆทั้งสิ้น วัตถุประสงค์ก็เพื่อแสดงประสิทธิภาพแบบดั้งเดิมของตัวการ์ดกับSystemระดับกลางๆทั่วไป



คราวนี้เนื่องจากเป็นการเทสต์การ์ดจอระดับกลางๆ ซึ่งผู้ใช้ที่สนใจการ์ดจอระดับนี้ ก็น่าจะใช้CPUระดับกลางๆด้วย คราวนี้ผมเลยขอหยิบยืมCPUที่มีL2Cache512K จากทางAMDมาทำการทดสอบ ซึ่งตัวที่ได้มาก็คือAthlon64 3800+ Core Newcastle 0.13micron ซึ่งมีความเร็วเดิมๆอยู่ที่2.4GHz ซึ่งผมว่าก็ยังคงมากเกินไปสำหรับการเทสต์Stageนี้ ผมเลยจับมันลดตัวคูณมาที่9 ให้ความเร็วเหลืออยู่ที่1.8GHz เท่ากับ Athlon64 3000+ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันทั่วไปในขณะนี้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เหมาะสมกับการทดสอบที่Stageนี้ครับ


 



ไดรเวอร์ที่ใช้ในการทดสอบนี้เป็นตัวOfficalของทางATIเวอร์ชันล่าสุดขณะนี้ นั่นก็คือเวอร์ชัน5.13 นั่นเองครับ ซึ่งไดรเวอร์เวอร์ชันนี้ก็รู้จักตัวการ์ดนี้เป็นอย่างดี แต่ไม่มีฟังก์ชันOverdriveสำหรับOverclockตัวการ์ดมาให้ ไม่เหมือนรุ่นใหญ่กว่าอย่างX1600XT ที่ไดรเวอร์ตัวเดียวกันนี้อนุญาตให้ปรับแต่งความเร็วการ์ดจากฟังก์ชันOverdriveได้ครับ


 


 


ดังนั้นถ้าเราจะปรับแต่งความเร็วการ์ดนี้ คงต้องใช้Toolอื่นๆที่ไม่ใช่Officalในการปรับแต่ง ซึ่งตัวที่ผู้ใช้ทั่วไปนึกถึงอันดับแรกก็คงเป็นATIToolนี่แหละครับ ซึ่งตัวที่ใช้คราวนี้เป็นเวอร์ชันล่าสุด0.25 Beta11 ที่เพิ่งออกมาให้Downloadกันหมาดๆ ถ้าอยากได้ก็ คลิกที่นี่ เลยนะครับ


 


 


ตัวATIToolนี้ ก็รู้จักการ์ดตัวนี้เป็นอย่างดี ยกเว้นในส่วนPipelineต่างๆในการ์ด ซึ่งตัวโปรแกรมเห็นPipelineทั้งหมดแค่4ท่อเท่านั้น ซึ่งจากที่ผมติดตามหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาได้ซักพักในforumsต่างประเทศ พอจะได้ความมาว่าจำนวนPixel Pipelines ที่ทางATIโฆษณามาตลอดว่าX1600นั้นมี12ท่อนั้น ไม่เป็นความจริงทั้งหมด คือจริงๆแล้วPixel Pipelineของการ์ดตัวนี้ จะมีเท่ากับชิปX1300Pro/X1300ที่4ท่อเลยครับ แต่ที่พิเศษของX1600ที่แตกต่างขึ้นมา คือการเพิ่มจำนวนShader Processors ในแต่ละท่อ ที่แต่เดิมในX1300จะมี1unit ต่อ1ท่อ ไปเป็น3unitต่อ1ท่อ ซึ่งทำให้ชิปX1600ตัวนี้นั้น มีท่อในลักษณะ4*3 ไม่ใช่12*1 อย่างที่ทางATIจะทำให้เราเข้าใจไปเป็นแบบนั้น จากSpecificationที่แสดงออกมา ซึ่งการเพิ่มShader Processors เป็น3เท่าในแต่ละท่อแบบนี้ ทางATIก็กำลังจะใช้วิธีนี้กับR580หรือX1900ตัวใหม่ ที่กำลังจะออกประมาณต้นปีหน้านี้ ซึ่งก็มีการปล่อยข่าวจากทางATIออกมาว่ามี48ท่อเช่นกัน ซึ่งที่จริงแล้วเป็นจำนวนท่อในลักษณะ16*3 ไม่ใช่48*1นะครับ แล้วเดี๋ยวเราไปชมผลทดสอบกันภายหลังนะครับ ว่าท่อลักษณะแบบ4*3นั้น จะแรงได้ซักระดับไหนกันแน่


 



สำหรับโปรแกรมOverclockerที่ผมเคยนำมาลองใช้กับX1800XTมาแล้ว ก็สามารถนำมาใช้กับการ์ดX1600XTนี้ได้ครับ แต่ตอนแรกที่ผมลองกับไดรเวอร์เวอร์ชัน5.11ที่แถมมากับตัวการ์ด ปรากฏว่าลากแล้วตัวเลขไป แต่ความเร็วจริงๆกลับไม่ขยับ แต่หลังจากลงไดรเวอร์5.13 ATITool0.25 Beta11 และRivaTuner2.0 RC15.8แล้ว เจ้าToolตัวนี้ก็สามารถใช้งานได้ตามปรกติ ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรไปช่วยให้มันใช้งานได้เหมือนกันครับ อิอิ แต่ค่าที่เราตั้งกับค่าหลังจากที่เราset clockแล้วจะมีความคลาดเคลื่อนบ้าง ไม่ตรงกันซะทีเดียว และทีเด็ดเดิมของโปรแกรมนี้ก็คือสามารถเพิ่มไฟให้กับVPUและหน่วยความจำบนการ์ดได้ก็ยังคงใช้งานได้ครับ ซึ่งผมลองๆเพิ่มดูแล้วก็สามารถเพิ่มได้จริงครับ โดยสังเกตมาจากค่าความเร็วที่เคยภาพแตก พอเพิ่มไฟขึ้นมาภาพก็หายแตก แต่คาดว่าเกิดจากการระบายความร้อนที่ไม่เพียงพอ ทำให้เมื่อลองเทสต์ไปซักพัก ภาพก็ค้าง และขึ้นVPU Recoveryตามมา ดังนั้นในการทดสอบคราวนี้ ผมจึงไม่มีการเพิ่มไฟเพื่อทดสอบนะครับ แต่ถ้าใครซื้อการ์ดตัวนี้มาใช้แล้วอยากลองเพิ่มไฟดู ก็ควรจะปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้ดีขึ้นกว่านี้ให้มากๆด้วยนะครับ ซึ่งเจ้าโปรแกรมตัวนี้ ก็หาดาวน์โหลดได้ ที่นี่ ครับ


 



 



 



Rivatuner2.0 RC15.8 ก็สามารถแสดงคุณสมบัติต่างๆของการ์ดได้ถูกต้องเกือบหมดครับ จะมีผิดพลาดบ้างก็คือที่เดิมกับATITool ที่จำนวนของPixel Pipelines นั่นเองครับ โดยแสดงว่าเป็นการ์ดที่มีท่อแบบ4*1 ไว้เรารอดูเวอร์ชันใหม่ออกมาอีกทีนะครับ ว่าจะแจ้งว่าเป็นท่อแบบไหนกันแน่ และเมื่อดูจากทั้งControl centerของทางATIเอง ,ATIToolและRivaTunerแล้วก็พอจะสรุปได้ว่าการ์ดตัวนี้ไม่มีSensorจับความร้อนนะครับ ตอนนี้เราไปชมผลทดสอบแบบDefaultกันก่อนเลยนะครับ


 


3DMark2001SE



ความแรงแบบเดิมๆกับ3DMark2001SE ถือว่าแรงพอใช้ได้เลยครับ กดไปเลย19Kแบบนิ่มๆ แต่ถ้าเทียบกับคะแนนจากการ์ดคู่แข่งอย่างGF6800GSที่มี12ท่อเท่ากัน ก็ยังถือว่าเป็นรองอยู่พอควรครับ


 


3DMark03



สำหรับคะแนนของ3Dmark03 ดูแล้วจะน้อยไปนิด สำหรับการ์ดที่โฆษณาว่ามี12ท่อ ความเร็ว575/1300MHz นะครับ ซึ่งผมดูแล้วคะแนนระดับนี้การ์ดGF6600GTที่มี8ท่อและวิ่งที่ราวๆ5XX/11XX ก็ทำได้เช่นกันครับ


 


3DMark05



แต่พอมาถึง3DMark05 ก็ได้เรื่องเลยครับ ไม่รู้ว่าเกิดจากเทคโนโลยีใหม่ของตัวการ์ดหรือของไดรเวอร์เข้าช่วยกันแน่ คะแนนตรงจุดนี้สูงขึ้นมาแบบใช้ได้เลย แต่ก็เช่นเดิมครับยังคงดูเป็นรองการ์ดคู่แข่งอย่างGF6800GSที่มี12ท่อเท่ากัน อยู่นิดๆครับ


 


Aquamark3



ส่วนAquamark3 ก็ทำได้ระดับ51,049คะแนน ซึ่งคะแนนระดับนี้ พอๆกับการ์ดGF6600 แรมDDR1แบบO/Cไปที่ราวๆ6XX/7XXเลยครับ ซึ่งดูแล้วผมว่ามันดูน้อยไปสำหรับการ์ดที่โฆษณาว่ามี12ท่อ ความเร็ว575/1300MHz

Bookmark บทความ : Zickr Kudd Duocore Techkr aJigg Oncake Lefthit Meetgamer Siamcollective TagToKnow Dunweb Digza
«»