The review of Spark X1600Pro Golden 128 MB
Share | Tweet |
สวัสดีครับ มาพบกับผมเช่นเคยนะครับ วันนี้ผมจะพาไปชมรีวิวการ์ดจอระดับกลางล่าสุดจากค่ายATI ที่อยู่ในตระกูลX1000 Series ซึ่งมาในยี่ห้อSparkที่ใช้ชิปVPUรุ่น X1600Pro แต่ได้รับการดัดแปลงทางพันธุกรรม จนขยับความแรงเข้าใกล้กับรุ่นที่สูงกว่าและแพงกว่าอย่างX1600XTเลยครับ เอาเป็นว่าไปดูรายละเอียดของการ์ดในตระกูลX1KSeries รุ่นต่างๆ ที่เป็นมาตรฐานของทางATIกันก่อนเลยนะครับ
Name | X1800XT | X1800XL | X1600XT | X1600Pro | X1300Pro | X1300 |
Chipset | R520XT | R520XL | RV530XT | RV530Pro | RV515Pro | RV515LE |
Pixel Shader processors | 16 | 16 | 12 | 12 | 4 | 4 |
Vertex Shader Processors | 8 | 8 | 5 | 5 | 2 | 2 |
Geometry Pipelinese | 8 | 8 | 8 | 8 | 4 | 4 |
Core Clock | 625MHz | 500MHz | 590MHz | 500MHz | 600MHz | 450MHz |
Pixel Fill Rate | 10Gpixel/s | 8Gpixel/s | 7.1Gpixel/s | 6Gpixel/s | 2.4Gpixel/s | 1.8Gpixel/s |
Memory | 512/256MB (256bit) GDDR3 | 256MB (256bit) GDDR3 | 256MB (128bit) GDDR3 | 256MB (128bit) DDR2 | 256MB (128bit) DDR2 | 256MB (128bit) DDR2 |
Memory Clock | 1.5GHz | 1GHz | 1.38GHz | 680MHz | 800MHz | 800MHz |
Memory Bandwidth | 48GB/s | 32GB/s | 22.1GB/s | 10.8GB/s | 12.8GB/s | 12.8GB/s |
Display Conf. | Dual DL-DVI + VIVO | Dual DL-DVI + VIVO | DL-DVI + VGA + TVO | DL-DVI + VGA + TVO | DL-DVI + VGA + TVO | DL-DVI + VGA + TVO |
Connector | PCIe | PCIe | PCIe | PCIe | PCIe | PCIe |
จากตารางข้างบนจะเห็นได้ว่า สิ่งที่คุมกำเนิดความแรงไม่ให้X1600Proแรงเท่ากับX1600XTมีอยู่2อย่าง คือค่าความถี่สัญญาณนาฬิกาที่น้อยกว่าของตัวชิป และสเป็คของหน่วยความจำที่ต่ำกว่า,ช้ากว่า นอกนั้นลักษณะทางกายภาพของตัวชิปนั้นจะเหมือนกันหมด ซึ่งก็ได้มีบริษัทผู้ผลิตการ์ดจอหัวใสขนาดใหญ่ของไต้หวันอย่างPalit ได้ทำการขจัดสิ่งที่คุมกำเนิดความแรงเหล่านี้ไปด้วยการเพิ่มความถี่สัญญาณนาฬิกาเดิมจากมาตรฐานที่500MHz ให้ไปอยู่ที่575MHz (X1600XT=590MHz) และเปลี่ยนสเป็คหน่วยความจำของเดิมจากDDR2ความเร็วต่ำ ไปเป็นGDDR3-1.4ns 128-bit 128Mb ที่ถูกตั้งความเร็วไว้สูงถึง1300MHz (X1600XT=GDDR3-1.2ns 128-bit 256Mb 1380MHz) พร้อมทั้งติดตั้งระบบระบายความร้อนอย่างดีจากZalman จึงทำให้การ์ดจากPalitตัวนี้ เป็นที่น่าสนใจพอสมควร เพราะมีราคาสูงกว่าการ์ดX1600Pro มาตรฐานทั่วไปของยี่ห้ออื่นๆไม่มาก แต่ความสามารถของมันเกือบไปเทียบชั้นรุ่นใหญ่อย่างX1600XTที่มีราคาสูงกว่ามากพอสมควร ซึ่งก็เช่นเดิมที่ว่าเสือปืนไวอย่างยี่ห้อSparkในบ้านเรา ที่เอาการ์ดยี่ห้อPalitนี้ มาแปะยี่ห้อตนเองขายในบ้านเราเป็นประจำ จะรีบนำเข้ามาจำหน่ายอย่างรวดเร็วตามฟอร์ม ไปดูหน้าตาของการ์ดกันต่อเลยนะครับ
นี่คือหน้าตาของตัวการ์ดและกล่องที่ทำจำหน่ายในต่างประเทศ หน้าตากล่องสวยงามใช้ได้เลยครับ
มาดูหน้าตากล่องที่ทางSparkทำมาในไทยดูบ้างนะครับ ช่างสวยงามไม่แพ้ต่างประเทศจริงๆครับ ผมภูมิใจจริงๆเลยครับที่เกิดมาเป็นคนไทย เอิ้กๆๆๆๆ
รายละเอียดและคุณสมบัติต่างๆของตัวการ์ด ถูกระบุไว้อย่างละเอียดยิบที่ด้านหน้ากล่อง ด้วยอักษรกราฟฟิคที่สวยงาม ดูมีรสนิยมครับ อ้ออีกอย่างเห็นคำว่าAVIVOไม่ใช่ว่าการ์ดนี้จะมีTV in ด้วยนะครับ มีแต่TV Out อย่างเดียวครับ AVIVO เป็นชื่อเทคโนโลยีเรื่องของภาพนะครับ อิอิ
ไปดูของแถมกันต่อนะครับ ซึ่งก็เป็นไปตามมาตรฐานทั่วๆไปของการ์ดระดับกลางๆของทางSparkนะครับ
ไปดูหน้าตาตัวการ์ดกันเลยนะครับ เด่นสง่าด้านหน้าด้วยซิงค์ระบายความร้อนจากทางZalman ที่นักเล่นการ์ดจอตัวยงทุกท่านคงคุ้นตา
แต่ขอบอกว่ามันมีขนาดเล็กกว่าของที่ทางZalmanทำขายจริงๆอยู่พอสมควรนะครับ โดยตัวพัดลมรุ่นที่ทำขายจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง80มม. แต่ตัวที่ใช้กับการ์ดนี้จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง70มม. และตัวฟินระบายความร้อนก็เป็นอลูมเนียมหมดนะครับ ไม่ใช่ทองแดงแถมครีบก็สั้นกว่าตัวที่เป็นทองแดงประมาณ20มม.ตามรูปเลยครับ แต่ส่วนของฐานซิงค์ใช้โลหะอะไรทำผมก็ไม่แน่ใจนะครับ เพราะไม่ได้แกะดู แต่คิดว่าถ้าไม่ใช่อลูมิเนียม ก็น่าจะเป็นทองแดงแน่ๆครับ อิอิ ส่วนตัวแรมนั้นหน้าตาเป็นอย่างไรก็ไม่รู้อีกเหมือนกันครับ เพราะได้มีการแปะซิงค์อลูมิเนียมระบายความร้อนไว้ ไม่ได้แกะดูเหมือนกันครับ แต่จากสเป็คของทางผู้ผลิต ก็ได้ระบุมาเลยว่าเป็นเม็ดแรม1.4ns ที่ตามสเป็คแล้วสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง1428MHzเลยทีเดียว เดี๋ยวไว้รอดูตอนท้ายกันนะครับ ว่ามันสามารถทำความเร็วได้ต่ำกว่า ,เทียบเท่าหรือเกินสเป็คของหน่วยความจำนี้กันแน่
ด้านหลังตัวการ์ดนะครับ ไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษครับ
หน้าตาของSystemที่ใช้ในการทดสอบนี้นะครับ ซึ่งก็มีรายละเอียดต่างๆดังต่อไปนี้ครับ
CPU | AMD Athlon64 3800+by AMD Far East Ltd, Thailand Branch |
mainboard | DFI Lanparty UT nF4 Ultra-D |
Memory | ROX UTT DDR400 PC3200 512*2 2-2-2-5-1T |
Graphic Card | Spark X1600 Pro Golden 128 MB by Microware (Thailand) Co.,Ltd. |
Storage | Seagate 80GB IDE ATA100 |
Power Supply | Antec True Control 550 W |
CPU Cooler | Water Cooling |
ไปเริ่มชมผลการทดสอบหน้าถัดไปเลยครับ
DeFault Stage
การเทสต์ที่Stageนี้ จะไม่มีการเพิ่มความถี่สัญญาณนาฬิกาให้ทั้งCPUและGraphic Card ใดๆทั้งสิ้น วัตถุประสงค์ก็เพื่อแสดงประสิทธิภาพแบบดั้งเดิมของตัวการ์ดกับSystemระดับกลางๆทั่วไป
คราวนี้เนื่องจากเป็นการเทสต์การ์ดจอระดับกลางๆ ซึ่งผู้ใช้ที่สนใจการ์ดจอระดับนี้ ก็น่าจะใช้CPUระดับกลางๆด้วย คราวนี้ผมเลยขอหยิบยืมCPUที่มีL2Cache512K จากทางAMDมาทำการทดสอบ ซึ่งตัวที่ได้มาก็คือAthlon64 3800+ Core Newcastle 0.13micron ซึ่งมีความเร็วเดิมๆอยู่ที่2.4GHz ซึ่งผมว่าก็ยังคงมากเกินไปสำหรับการเทสต์Stageนี้ ผมเลยจับมันลดตัวคูณมาที่9 ให้ความเร็วเหลืออยู่ที่1.8GHz เท่ากับ Athlon64 3000+ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันทั่วไปในขณะนี้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เหมาะสมกับการทดสอบที่Stageนี้ครับ
ไดรเวอร์ที่ใช้ในการทดสอบนี้เป็นตัวOfficalของทางATIเวอร์ชันล่าสุดขณะนี้ นั่นก็คือเวอร์ชัน5.13 นั่นเองครับ ซึ่งไดรเวอร์เวอร์ชันนี้ก็รู้จักตัวการ์ดนี้เป็นอย่างดี แต่ไม่มีฟังก์ชันOverdriveสำหรับOverclockตัวการ์ดมาให้ ไม่เหมือนรุ่นใหญ่กว่าอย่างX1600XT ที่ไดรเวอร์ตัวเดียวกันนี้อนุญาตให้ปรับแต่งความเร็วการ์ดจากฟังก์ชันOverdriveได้ครับ
ดังนั้นถ้าเราจะปรับแต่งความเร็วการ์ดนี้ คงต้องใช้Toolอื่นๆที่ไม่ใช่Officalในการปรับแต่ง ซึ่งตัวที่ผู้ใช้ทั่วไปนึกถึงอันดับแรกก็คงเป็นATIToolนี่แหละครับ ซึ่งตัวที่ใช้คราวนี้เป็นเวอร์ชันล่าสุด0.25 Beta11 ที่เพิ่งออกมาให้Downloadกันหมาดๆ ถ้าอยากได้ก็ คลิกที่นี่ เลยนะครับ
ตัวATIToolนี้ ก็รู้จักการ์ดตัวนี้เป็นอย่างดี ยกเว้นในส่วนPipelineต่างๆในการ์ด ซึ่งตัวโปรแกรมเห็นPipelineทั้งหมดแค่4ท่อเท่านั้น ซึ่งจากที่ผมติดตามหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาได้ซักพักในforumsต่างประเทศ พอจะได้ความมาว่าจำนวนPixel Pipelines ที่ทางATIโฆษณามาตลอดว่าX1600นั้นมี12ท่อนั้น ไม่เป็นความจริงทั้งหมด คือจริงๆแล้วPixel Pipelineของการ์ดตัวนี้ จะมีเท่ากับชิปX1300Pro/X1300ที่4ท่อเลยครับ แต่ที่พิเศษของX1600ที่แตกต่างขึ้นมา คือการเพิ่มจำนวนShader Processors ในแต่ละท่อ ที่แต่เดิมในX1300จะมี1unit ต่อ1ท่อ ไปเป็น3unitต่อ1ท่อ ซึ่งทำให้ชิปX1600ตัวนี้นั้น มีท่อในลักษณะ4*3 ไม่ใช่12*1 อย่างที่ทางATIจะทำให้เราเข้าใจไปเป็นแบบนั้น จากSpecificationที่แสดงออกมา ซึ่งการเพิ่มShader Processors เป็น3เท่าในแต่ละท่อแบบนี้ ทางATIก็กำลังจะใช้วิธีนี้กับR580หรือX1900ตัวใหม่ ที่กำลังจะออกประมาณต้นปีหน้านี้ ซึ่งก็มีการปล่อยข่าวจากทางATIออกมาว่ามี48ท่อเช่นกัน ซึ่งที่จริงแล้วเป็นจำนวนท่อในลักษณะ16*3 ไม่ใช่48*1นะครับ แล้วเดี๋ยวเราไปชมผลทดสอบกันภายหลังนะครับ ว่าท่อลักษณะแบบ4*3นั้น จะแรงได้ซักระดับไหนกันแน่
สำหรับโปรแกรมOverclockerที่ผมเคยนำมาลองใช้กับX1800XTมาแล้ว ก็สามารถนำมาใช้กับการ์ดX1600XTนี้ได้ครับ แต่ตอนแรกที่ผมลองกับไดรเวอร์เวอร์ชัน5.11ที่แถมมากับตัวการ์ด ปรากฏว่าลากแล้วตัวเลขไป แต่ความเร็วจริงๆกลับไม่ขยับ แต่หลังจากลงไดรเวอร์5.13 ATITool0.25 Beta11 และRivaTuner2.0 RC15.8แล้ว เจ้าToolตัวนี้ก็สามารถใช้งานได้ตามปรกติ ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรไปช่วยให้มันใช้งานได้เหมือนกันครับ อิอิ แต่ค่าที่เราตั้งกับค่าหลังจากที่เราset clockแล้วจะมีความคลาดเคลื่อนบ้าง ไม่ตรงกันซะทีเดียว และทีเด็ดเดิมของโปรแกรมนี้ก็คือสามารถเพิ่มไฟให้กับVPUและหน่วยความจำบนการ์ดได้ก็ยังคงใช้งานได้ครับ ซึ่งผมลองๆเพิ่มดูแล้วก็สามารถเพิ่มได้จริงครับ โดยสังเกตมาจากค่าความเร็วที่เคยภาพแตก พอเพิ่มไฟขึ้นมาภาพก็หายแตก แต่คาดว่าเกิดจากการระบายความร้อนที่ไม่เพียงพอ ทำให้เมื่อลองเทสต์ไปซักพัก ภาพก็ค้าง และขึ้นVPU Recoveryตามมา ดังนั้นในการทดสอบคราวนี้ ผมจึงไม่มีการเพิ่มไฟเพื่อทดสอบนะครับ แต่ถ้าใครซื้อการ์ดตัวนี้มาใช้แล้วอยากลองเพิ่มไฟดู ก็ควรจะปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้ดีขึ้นกว่านี้ให้มากๆด้วยนะครับ ซึ่งเจ้าโปรแกรมตัวนี้ ก็หาดาวน์โหลดได้ ที่นี่ ครับ
Rivatuner2.0 RC15.8 ก็สามารถแสดงคุณสมบัติต่างๆของการ์ดได้ถูกต้องเกือบหมดครับ จะมีผิดพลาดบ้างก็คือที่เดิมกับATITool ที่จำนวนของPixel Pipelines นั่นเองครับ โดยแสดงว่าเป็นการ์ดที่มีท่อแบบ4*1 ไว้เรารอดูเวอร์ชันใหม่ออกมาอีกทีนะครับ ว่าจะแจ้งว่าเป็นท่อแบบไหนกันแน่ และเมื่อดูจากทั้งControl centerของทางATIเอง ,ATIToolและRivaTunerแล้วก็พอจะสรุปได้ว่าการ์ดตัวนี้ไม่มีSensorจับความร้อนนะครับ ตอนนี้เราไปชมผลทดสอบแบบDefaultกันก่อนเลยนะครับ
3DMark2001SE
ความแรงแบบเดิมๆกับ3DMark2001SE ถือว่าแรงพอใช้ได้เลยครับ กดไปเลย19Kแบบนิ่มๆ แต่ถ้าเทียบกับคะแนนจากการ์ดคู่แข่งอย่างGF6800GSที่มี12ท่อเท่ากัน ก็ยังถือว่าเป็นรองอยู่พอควรครับ
3DMark03
สำหรับคะแนนของ3Dmark03 ดูแล้วจะน้อยไปนิด สำหรับการ์ดที่โฆษณาว่ามี12ท่อ ความเร็ว575/1300MHz นะครับ ซึ่งผมดูแล้วคะแนนระดับนี้การ์ดGF6600GTที่มี8ท่อและวิ่งที่ราวๆ5XX/11XX ก็ทำได้เช่นกันครับ
3DMark05
แต่พอมาถึง3DMark05 ก็ได้เรื่องเลยครับ ไม่รู้ว่าเกิดจากเทคโนโลยีใหม่ของตัวการ์ดหรือของไดรเวอร์เข้าช่วยกันแน่ คะแนนตรงจุดนี้สูงขึ้นมาแบบใช้ได้เลย แต่ก็เช่นเดิมครับยังคงดูเป็นรองการ์ดคู่แข่งอย่างGF6800GSที่มี12ท่อเท่ากัน อยู่นิดๆครับ
Aquamark3
ส่วนAquamark3 ก็ทำได้ระดับ51,049คะแนน ซึ่งคะแนนระดับนี้ พอๆกับการ์ดGF6600 แรมDDR1แบบO/Cไปที่ราวๆ6XX/7XXเลยครับ ซึ่งดูแล้วผมว่ามันดูน้อยไปสำหรับการ์ดที่โฆษณาว่ามี12ท่อ ความเร็ว575/1300MHz
Overclock Graphic Card Stage
การเทสต์ที่Stageนี้ จะไม่มีการเพิ่มความถี่สัญญาณนาฬิกาให้กับCPUแต่จะเพิ่มความถี่สัญญาณนาฬิกาให้Graphic Card ถึงจุดสูงสุดที่เสถียรเทสต์ผ่านทุกการทดสอบ โดยไม่เกิดArtifactsใดๆ โดยใช้ระบบระบายความร้อนเดิมที่มีมาให้ วัตถุประสงค์ก็เพื่อแสดงประสิทธิภาพแบบสูงสุดที่การ์ดทำได้โดยเสถียรภาพ กับระบบระดับกลางๆทั่วไป
หลังจากลองลากความเร็วเพิ่มดูแล้ว เจ้าSpark X1600Pro Golden ก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับรูปลักษณ์ระบบระบายความร้อนที่อลังการเลยครับ การเทสต์ในลักษณะนอกเคสและอยู่ในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ24องศาเซลเซียส สามารถลากไปเสถียรภาพไม่แตกทุกการทดสอบได้ที่ความเร็วถึง651.38/1503MHzเลยครับ!!! ซึ่งความเร็วCoreที่650MHzนั้น เป็นความเร็วที่คล็อคได้สูงสุดของX1600XTรุ่นที่สูงกว่าเลยครับ เท่าที่ผมได้ดูๆมาในเวบไซต์ต่างประเทศ ส่วนความเร็วแรมยังเป็นรองX1600XTที่คล็อคสุดๆแล้วอยู่ประมาณ100MHz โดยแรมของX1600XTส่วนมากจะลากสุดๆได้ประมาณ1600MHz ทั้งนี้ก็เป็นไปตามความเร็วของชิปแรมที่ใช้แหละครับ เพราะตัวX1600XTใช้แรม1.2ns ส่วนSpark X1600Pro Goldenตัวนี้ใช้แรม1.4ns
หลังจากที่ผมทดลองใช้ATIToolกับRivaTunerในการลากแล้ว ผมพบว่าRivaTunerสามารถลากได้ดีกว่าครับ โดยRivaTunerที่ความเร็ว651MHzนี้นั้นไม่มีอาการภาพแตกใดๆเลยแม้เปิดBenchmark3D วนLoopนานๆ แต่ATIToolเมื่อทิ้งไว้นานๆภาพจะเริ่มมีArtifactนิดๆ และคะแนนของAquamark3ที่ใช้RivaTunerในการลากจะมากกว่าใช้ATIToolอยู่นิดๆตลอดด้วย(500-800คะแนน) ดังนั้นในการทดสอบOverclockทั้งหมดนี้ ผมจะใช้RivaTunerในการลากนะครับ
หมายเหตุ ความสามารถในการOverclockของGraphic cardแต่ละตัว ถึงแม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกัน ,รุ่นเดียวกัน จะไม่เท่ากันเสมอไป ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
3DMark2001SE
คะแนนออกมาในระดับ19,886คะแนน ซึ่งดูเพิ่มขึ้นมาไม่ค่อยมากเท่ากับความเร็วที่เพิ่มขึ้นมาเลยครับ คาดว่าคงเกิดคอขวดจากCPUที่วิ่งช้าเกินไป ต้องรอดูตอนท้ายหลังจากลากCPUขึ้นด้วยอีกทีนะครับ
3DMark03
ส่วน3DMark03 หลังจากลากแล้วความเร็วก็เพิ่มขึ้นมาพอสมควรครับ เกือบ1,000คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งอาจเป็นเพราะคะแนนของBenchmarkตัวนี้ CPU มีผลกับคะแนนไม่ค่อยมากนั่นเองครับ
3DMark05
ส่วนคะแนนของ3DMark05 ก็แรงพุ่งขึ้นมาไม่ใช่เล่นครับ ทะลุ5.1Kไปแล้ว!!!
Aquamark3
คะแนนBenchmarkตัวนี้ก็ขยับขึ้นมาจากเดิมๆอีกนิดไปที่54,864คะแนนครับ คาดว่าที่คะแนนขึ้นมาน้อยนี้ น่าเกิดจากคอขวดของCPUที่วิ่งช้าไป เช่นเดียวกันกับ3DMark2001SE
Overclock CPU ,RAM & Graphic Card Stage
สุดท้ายนี้ขอให้เพื่อนๆทุกท่านมีความสุขในเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะถึงด้วยนะครับ ยังไงอย่าลืมนะครับว่า “เมาไม่ขับ” สวัสดีปีใหม่คร้าบบบ
ขอขอบคุณ Microware (Thailand) Co.,Ltd. ที่เอื้อเฟื้อVGA Cardในการทดสอบ
และขอขอบคุณ AMD Far East Ltd, Thailand Branch ที่เอื้อเฟื้อCPU ร่วมในการทดสอบ
ร่วมวิจารณ์บทความนี้ คลิกที่นี่ ครับ