The Ultimate Project of Vmodtech Volume 2
Share | Tweet |
สวัสดีครับ ผมนายVenom-Crusher ขออาสามาเป็นตัวแทนกลุ่มนักโมดิฟายเคสของเวบแห่งนี้ ที่มีท่านGruroo ท่านmigthty และผมอยู่ในกลุ่ม เขียนบทความแรงๆUltimate Projectเดือนละครั้ง ให้เพื่อนๆทุกท่านได้ชมกันนะครับ (ไม่รู้จะทนได้อีกซักกี่เดือน ชักจะซูบแล้วช่วงนี้ ทั้งสุขภาพตัวและสุขภาพตังค์ )
สำหรับคราวนี้ พวกผมขอเปลี่ยนบรรยากาศพาทุกๆท่านหลีกหนีความรุนแรงบ้าคลั่ง ของสงครามการแข่งขันMHzทุกวันนี้ ไปแข่งขันกันแบบKm/hกันมั่งนะครับ งงมั้ยครับ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ คือเนื่องจากทางQuickPCได้มีการจัดงานประกวดการตกแต่งเคสอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ประจวบกับเป็นช่วงที่ทางเราพึ่งเปิดตัวเวบแห่งใหม่นี้พอดี ทางที่ประชุมเวบจึงมติส่งตัวแทนในนามของเวบแห่งนี้ ส่งเคสเข้าไปประกวดแข่งขันในรายการนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เวบไซด์แห่งนี้ไปในตัวด้วย ซึ่งทางพวกผม3คนจึงรวมตัวกันในฐานะตัวแทนผู้จัดทำเวบแห่งนี้ ร่วมกันจัดทำเคสเพื่อส่งประกวดงานนี้กันโดยเฉพาะเลย เนื่องจากเล็งเห็นแล้วว่า ถ้าต่างคนต่างทำงานออกมากันเอง คงไม่ดีเท่าร่วมกันทำหลายคนแน่ ซึ่งการทำอย่างนี้ ถ้าเรียกให้สวยหรูแบบฟังดูดีหน่อยก็คงเรียกว่า “สามัคคีคือพลัง” นั่นเองครับ แต่ถ้าจะเรียกกันแบบภาษาชาวบ้านหน่อยจะเรียกว่า “หมาหมู่” ก็ได้นะครับ อิอิ
หลังจากการประชุมกันมายาวนานว่าจะทำเคสเป็นอะไรดี ก็มาได้ข้อสรุปข้างต้นว่า เราจะทำเคสคอมที่เร็วที่สุดในประเทศไทยขึ้นมาครับ โดยตอนแรกได้ไอเดียจากที่คนไทยทำกระเป๋าเดินทางที่ใช้วิทยุบังคับให้เคลื่อนที่เองได้โดยไม่ต้องลาก ทำขายดังไปทั่วโลก ก็เลยได้ไอเดียว่าจะทำเคสที่ติดล้อวิ่งได้โดยใช้วิทยุบังคับนั่นเองครับ งานนี้เบากว่าโน๊ตบุ๊คอีกครับ อิอิ ก็เลยเตรียมการโดยการเริ่มนำเคสเดิมผมไปตกแต่งพ่นสีใหม่แล้ว และซื้อรถบังคับกระป๋องมาเตรียมไว้ เพื่อเอาวงจรบังคับวิทยุของมันมาใช้ ซื้อล้อยางมาเตรียมไว้เรียบร้อย กะว่าจะทำแบบหุ่นกู้ภัยที่นักศึกษาวิศวะฯทำแข่งกันเลย แต่ปรากฏว่าผลสอบท่านGrurooออกมาต่ำมาก ท่านGrurooจึงมาบอกว่า“เราหาอย่างอื่นที่ง่ายกว่านี้ทำได้มั้ยครับ ผมไม่ไหวแล้ว คงต้องตั้งใจเรียนมากกว่านี้ครับ” ไม่เป็นไรครับ เมื่อมันใช้เวลามากไป เราก็ปรับเปลี่ยนได้ ผมก็เลยไปพลิกๆดูหนังสือQuickPCเล่มเก่าๆ ที่หน้าปกเป็นรูปซิงก์XP-120ดู ปรากฏว่าไปเจอรูปเคสรถHummerเข้าคันหนึ่ง “อืมเอารถบังคับคันใหญ่ๆหน่อยมาทำเลยก็ไม่เลวนะ ง่ายกว่าเดิมเยอะเลย” ผมเลยไปปรึกษาพรรคพวก ซึ่งพรรคพวกก็เห็นด้วย จึงไปเดินเลือกซื้อรถบังคับกันที่สะพานเหล็กหรือคลองโอ่งอ่างนั่นเอง “เอาที่ไม่เหมือนในหนังสือนะ เดี๋ยวมันจะเหมือนกันเกินไป” ท่านmigthty Specialist ทางด้านโมเดลจากเวบไทยกันดั้มให้ความเห็น ซึ่งพวกผมก็เห็นด้วย หลังจากเลือกไปเลือกมา พวกผมก็ไปสะดุดตากับรถHummerคันใหญ่ยักษ์ ยาวประมาณ70 เซนติเมตร เข้าคันหนึ่ง “โอ้ววว แจ่มเลย ใหญ่อย่างนี้ทำง่ายแน่ๆ ขนาดก็ไม่เกินกติกากำหนด หวานๆ”ผมว่าทันที “มันเหมือนในหนังสือที่ฝรั่งทำหรือเปล่าท่านวีน่อม”ท่านmigthtyได้เอ่ยปากถามผม ซึ่งผมเองด้วยความจำที่ไม่ค่อยดี ก็ว่าไปอย่างไม่แน่ใจว่า “ไม่เหมือนน่า คันนี้ใหญ่กว่าในหนังสือเยอะ รถยี่ห้อHummer เหมือนกันจริงแต่คนละScaleแน่ เอาคันนี้แหละ คันอื่น รุ่นอื่นดูๆแล้วใส่ยากๆกันทั้งนั้น” ว่าแล้วก็ควักเงินค่ารถคันงามนี้ จ่ายไปทันที2,500บาท (เงินท่านmigthtyนะครับ อิอิ)
ปรากฏว่าเมื่อเอากลับมาเทียบกับหนังสือแล้ว กลายเป็นคันเดียวกันเป๊ะๆเลยครับ เลยเกิดอาการเซ็งจิตขึ้นมาทันที แต่ไหนๆก็ซื้อมาแล้ว “The show must go on” ครับงานนี้ ภายนอกเหมือนน่ะใช่ แต่ภายในเอาไม่เหมือนแล้วกัน ใครว่าลอกฝรั่งก็ลอกล่ะครับงานนี้ เสียตังค์ซื้อมาแล้วนี่ครับ อิอิ ส่วนของที่ฝรั่งทำ เป็นอย่างไรคลิกดูได้ ที่นี่ เลยครับ ที่มา มาจากเวบ bit-tech.net ครับผม (ขอบคุณท่านช้างน้ำด้วยนะครับ ที่ช่วยหาบทความเรื่องHummer PC ในเวบนี้ให้จนเจอครับ)
นี่ครับโฉมหน้ารถก่อนถูกทำการดัดแปลง ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ครับตอนก่อนดัดแปลงเลยขอยืมรูปมาจากเวบ bit-tech.net เลยครับ ส่วนที่ทางเราจะนำมาดัดแปลงเป็นรถสีแดงนะครับ ไม่ใช่สีดำตามภาพครับ
เริ่มทำการดัดแปลงกันเลยดีกว่านะครับ มาดูตามภาพกันเลยนะครับ (รูปถ่ายอาจไม่ค่อยละเอียดเพราะไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเก็บไว้ขณะขั้นตอนการทำ เพราะจริงๆตอนแรกก็ไม่ตั้งใจเอามาทำบทความเหมือนกัน ยังไงก็กราบขออภัยทุกๆท่านล่วงหน้า ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ)
ขั้นตอนแรกก็ถอดตัวถังรถออกมาก่อนเลยครับ ตัดตัวเบาะรถท้งให้หมดตามภาพ เพื่อสำหรับไว้ติดเมนบอร์ดบริเวณนี้เลย ส่วนบริเวณด้านหลังตัวรถ ก็ถูกกำหนดให้เป็นที่ติดตั้งPower Supply ของNMB 300W รุ่นยอดนิยมขวัญใจคนยากนั่นเองครับ
เดินสายต่างๆบริเวณใต้ตัวรถ โดยไม่ไปยุ่งกับระบบเครื่องของรถวิทยุบังคับเดิมครับ รวมทั้งติดตั้งสายระบบไฟต่างๆเพิ่มเติม เนื่องจากของเดิมให้จุดหลอดไฟมาน้อยและให้หลอดไฟแบบมีไส้หลอดมาทำให้หลอดไม่ทน เราจึงจับเปลี่ยนเป็นหลอดLEDให้หมด เพื่อความทนทานของหลอดไฟครับ
ขั้นตอนต่อไปเราก็จับชิ้นส่วนต่างๆของตัวถังรถ ถอดมาเป็นชิ้นๆแล้วจับมาทำสีครับ ใช้สีสเปรย์นี่แหละครับ พ่นๆเอาเลย รองพื้นด้วยสีเงินรองพื้น1ชั้น สีแดงใสบางๆซัก3ชั้น แล้วพ่นทับด้วยเคลียร์เงา แจ่มเลยครับ เหมือนแดงเมทัลลิคของรถยนต์จริงๆเลย
ตัวถังของจอPSone ที่จะนำมาติดตั้งบนหลังคารถก็ด้วยครับ จับพ่นตามขั้นตอนเดิมเลย ไม่มีเว้น
เมื่อพ่นสีส่วนตัวถังรถเสร็จ ก็จับมาประกอบกันเท่าที่จะทำได้ก่อน เตรียมไว้รอประกอบรวมตัวในขั้นสุดท้ายครับ
อิอิ NMB 300W ผมก็ไม่เว้นครับ จับพ่นสีUVซะ แจ่มครับ
ออกมาก็ได้หน้าตาอย่างในรูปครับ ส่วนตัวเบาะด้านหน้า ก็วัดเจาะรูร้อยน็อตสกรูทิ้งไว้ เพื่อเตรียมประกบเมนบอร์ดครับ
ง่ายๆครับ ขนาดของMainboard MicroATXจะมีขนาดเท่ากับตัวรถพอดี เหมือนสั่งตัดมาเลยครับ เมื่อติดตั้งเมนบอร์ดเสร็จ ก็ติดCD-RWกับHarddiskไว้ด้านหน้าตัวรถเลย ยึดติดง่ายๆด้วยกาว2หน้าแบบเนื้ออะครีลิคครับ งานนี้เหนียวกว่าแบบฟองน้ำเดิมๆเป็น10เท่า แถมทนร้อน ทนน้ำงานนี้ไม่ต้องกลัวหลุดครับ อ้อผมติดกาว2หน้านี้ยึดPower Supply NMB ด้วยนะครับ เหนียวแบบเอามือจับเฉพาะPower Supply ก็ยกรถทั้งคันได้เลย เหนียวสุดๆเหมือนผมเลยครับ อิอิ อ้ออีกอย่างลืมบอกไปครับ งานนี้ผมใช้CPU Sempron2200+นะครับ เย็นเฉียบ แถมแรงโลด น่าใช้จริงๆครับ (จริงแล้วทุนหมดครับ )
หลังจากนั้นก็เอาของตกแต่งต่างๆที่มีสีแบบUV Sensitive มาตกแต่งใส่เลยครับ
สีหลักจะเป็นเขียวAMD UV กับส้มIntel UV นะครับ อิอิ
สีเขียวจะมีตรงส่วนพัดลม ท่อหุ้มสายไฟ และสายIDE Round Cableนะครับ สีส้มก็มีพลาสติกปิดช่องPCI และช่องแรมที่เหลือ ส่วนซิงค์แรม ซิงค์Northbridge และ ซิงค์Southbridge ก็เอาสีสเปรย์สีส้มUV ที่เหลือพ่นเอาเลยครับง่ายดี แต่แจ่มมากครับ เมื่อต้องแสงจากหลอดBlacklight ส่วนท่อหุ้มสายไฟในภาพ ที่เห็นเป็นสีเงินๆ นั่นคือท่อflexหุ้มสายฝักบัวครับ เงาแว้บแถมทนไฟ แต่มีข้อเสียคือใส่ยากมากๆครับ ต้องแกะมาเป็นเกลียวก่อน ถึงค่อยใส่เข้าไปได้ (ช่วงตกแต่งส่วนนี้ต้องขอขอบคุณท่านช้างน้ำที่อุตส่าห์แวะเวียนมาช่วยตั้งแต่2ทุ่มจนถึงตี2ด้วยนะครับ รู้สึกขอบคุณจริงๆครับ)
ปิดตัวฮาร์ดดิสค์ด้านแฝงวงจรด้วยแผ่นอะครีลิคสีเขียวUV เพิ่มความแรดและกันฝุ่นเกาะแบบประหยัดครับ
ส่วนของพอร์ตต่อพ่วงก็ทำขึ้นมาใหม่ครับ ประกอบด้วยLPT Port ,USB Port ,Lan และVGA Port ครบถ้วนที่ตรงกับความต้องการใช้งานในปัจจุบันเลยครับ
และเมื่อทั้งหมดต้องกับแสงจากหลอดBlacklightก็จะแจ่มอย่างที่เห็นครับ
ต่อมาก็ถึงจุดเด่นอีกจุดหนึ่งของเคสรถคันนี้เลยครับ นั่นคือจอLCDสำหรับเครื่องPSone ที่จะถูกนำมาดัดแปลงติดกับหลังคาของเคสรถคันนี้ครับ ซึ่งเมื่อจับเครื่องในของจอทั้งหมดออกมาเปลือยก็จะได้พบกับสภาพดังรูปเลยนะครับ
อุปกรณ์เพิ่มเติมสำคัญที่ต้องใช้ในการโมจอLCDนี้ก็คือสายแปลงหัวต่อS-Videoให้เป็นRCA Jack ตามรูปครับ (หลายๆท่านเห็นสีสายเส้นนี้อาจคุ้นๆนะครับ อิอิ)
จับตัดหัวRCA Jackออกเลยครับ งานนี้ประกันหมดแน่นอนครับ (มีประกันสายด้วยเหยอ คิคิ)
เล็งๆใต้ขั้วต่อของ2connectorให้ดีครับ หัวสีดำบนเป็นช่องต่อ AV IN ส่วนช่องเขียวข้างล่างเป็นช่องเสียบหูฟังครับ
นี่ครับบริเวณด้านล่างที่เราจะเชื่อมต่อทั้งสายภาพและเสียงครับ
นี่ครับ เอาสายสัญญาณวีดีโอที่ตัดRCA Jackออกตอนแรก มาบัดกรีต่อเข้ากับลายวงจรเดิมตามภาพเลยครับ (งานนี้รอดูรายละเอียดอีกทีเกี่ยวกับเรื่องการโมจอLCD PSone อีกทีนะครับ)
ตามด้วยสายออดิโอเพื่อให้สัญญาณเสียงจากsound on boardของเรา เข้าสู่ลำโพงจิ๋ว2ข้างขอตัวจอครับงานนี้ใช้ทุกชิ้นส่วนเดิมให้เป็นประโยชน์แน่นอนครับ
เมื่อหมดภาคสัญญาณก็ตามด้วยภาคจ่ายไฟ ตามสเป็คที่บอกไว้จอภาพนี้ต้องการไฟ7.5Voltครับ
นี่ครับจุดสำหรับโม ต่อเชื่อมจุดจ่ายไฟ
แล้วเราจะหาจุดจ่ายไฟจากคอมพิวเตอร์ตรงไหนที่จ่ายไฟ7.5Volt คำตอบก็คือไม่มีครับ เอาไฟ12Voltนี่แหละต่อเลย อิอิ รับรองไม่พัง แถมเสถียรขึ้นด้วยครับเพราะเราเพิ่มไฟ (จอLCDต้องเพิ่มไฟให้เสถียรขึ้นด้วยเรอะ อิอิ ผมล้อเล่นนะครับ)
เมื่อได้สัญญาณครบทุกสายแล้ว ก็จับต่อเข้ากับตัวถังรถที่ทำสีไว้ตามภาพเลยครับ
บริเวณใต้หลังคาจะมีการติดตั้งหลอดไฟBlacklight Coldcathodeไว้2หลอดตามภาพ เพื่อส่องให้อุปกรณ์ต่างๆที่เป็นสีUV Sensitive ต่างๆเรืองแสงขึ้นมาครับ ส่วนสายไฟเล็กๆที่เห็นระโยงระยางใต้หลังคารถ คือสายไฟของหลอดLEDต่างๆที่ติดตั้งเพิ่มเติมเองครับ ของเดิมส่วนมากจะเป็นเบ้าเปล่าๆทิ้งไว้ และส่วนที่เป็นหลอดจะเป็นพวกหลอดแบบมีไส้หลอด ทำให้ไม่ทนทาน ขาดง่าย เราก็จัดการเปลี่ยนออกใหม่ให้เป็นLEDทั้งหมดครับ และรวบสายทั้งหมดให้เป็นขั้วต่อแบบแจ๊คซาวน์อเบ้าต์ครับ เพื่อให้ง่ายต่อการต่อเชื่อมกับส่วนจ่ายไฟที่อยู่ตรงบริเวณใต้ตัวเครื่องของรถครับ
แต่น แตน แต้น และเมื่อจับตัวถังรถประกอบเข้ากับตัวเครื่องรถก็จะออกมาเสร็จสมบูรณ์ตามภาพเลยครับ สวยงามมากๆเลยครับ โดยเฉพาะลวดลายข้างรถคำว่า WWW.VMODTECH.COM มันช่างสวยงามกินใจพวกผมยิ่งนักครับ
ไฟหน้ารถติดตั้งใหม่ด้วยหลอดXenon เอ้ย! ไม่ใช่ หลอดSuper Bright LEDสีขาวต่างหากครับ ส่วนไฟที่ป็นสีส้มก็ใช้หลอดเหมือนกันครับ แต่ติดตั้งอยู่ใต้พลาสติกสีส้มเลยกลายเป็นสีส้มไป ซึ่งไฟทั้งหมดนี้รวมทั้งไฟท้ายจะติดส่องสว่างขึ้น เมื่อคอมพิวเตอร์ทำงานตลอดเวลา และตอนที่อยู่ในโหมดวิทยุบังคับก็ติดหมดทุกดวงด้วยครับ
ส่วนไฟใต้ท้องรถที่เห็นเป็นแสงสีน้ำเงิน ใช้แผงหลอดLEDสั้นที่มีขายแถวบ้านหม้อ มาติด2ข้าง ซึ่งไฟนี้จะติดตลอดเวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน และในโหมดรถบังคับวิทยุก็ติดด้วยเช่นกันครับ และส่วนที่เห็นเป็นวงกลมตรงกลางระหว่างแผงไฟLEDทั้งสองข้างคือลำโพงเดิมที่ยังคงส่งเสียงเครื่องยนต์ เสียงไฟถอย และเสียงแตร ได้เหมือนเดิมในโหมดรถบังคับวิทยุ และเรายังดัดแปลงเพิ่มพิเศษให้เป็นลำโพงภายในของคอมพิวเตอร์ด้วย เมื่อคอมพิวเตอร์ทำงาน ดูหนังฟังเพลงสบายมากครับ เสียงดังกระหึ่มกว่าลำโพงคู่ละหมื่น (เวอร์ไปครับ อิอิ) ส่วนที่เห็นเป็นVolumeดำๆด้านบนของภาพนี้ นั่นคือVolumeสำหรับปรับเพิ่ม-ลดเสียงเมื่ออยู่ในโหมดคอมพิวเตอร์นั่นเองครับ เราใส่ใจทุกรายละเอียดปลีกย่อยครับ อิอิ
สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาขอให้มีปลั๊กไฟไว้เสียบก็พอครับ เพราะมีจอในตัวติดตั้งมาอยู่แล้ว หรือจะต่อจอภายนอกเพิ่มก็ไม่มีปัญหาครับ ภาพสดใสไปกับการ์ดจอสุดแรงในตำนาน“GF2 MX400″ พร้อมแรมขนาดมหาศาลถึง32MB โอ้วววสุดแรง พิเศษสุด! เพียงถ้าท่านสั่งซื้อภายใน10วินาทีนี้ แถมทันทีครับ เม้าส์ออฟติคอลกับKeyboardไร้สายLogitech มูลค่ากว่า5,000บาท ฟรีทันทีครับ!! ยังไม่พออีกครับ พิเศษสุดสำหรับ10สายแรกที่โทรมาหาเรา รับฟรีทันทีอีกครับ ปลั๊กไฟ3ขาอย่างดี ทำจากทองแดงOFCอย่างดีเกรดทหาร ฟรีอีก1ชุดครับ!!!
ยังไม่พออีกครับ สำหรับ3ชุดแรก รับฟรีทันทีอีกครับ!!! Floppy Disk Drive สีดำสนิทจากอาฟริกา ติดตั้งใต้กันชนและล้ออย่างแนบเนียนพอดิบพอดีเหมือนสั่งตัดมา แถมยังใช้งานได้อย่างสะดวกสบายอีกต่างหากครับ
(อุอุ เริ่มคุมสติตัวเองไม่อยู่แล้ววว)
อุอุ ขอประทานอภัยครับ เมื่อกี้เริ่มคุมสติไม่อยู่ ตอนนี้ทานยาระงับเรียบร้อยแล้ว มาดูกันต่อเลยนะครับ ด้านหน้ารถ ได้ถูกออกแบบมาอย่างลงตัว เมื่อมีการเปิดและปิดถาดของCD-RWด้านหน้า ตัวฝากระโปรงรถ จะเปิดและปิดเองตามการเลื่อนเข้า-ออกของถาดCD-RWโดยอัตโนมัติครับ ถ้าใช้Softwareช่วยในการปิด-เปิด หรือสามารถใช้มือเปิดฝากระโปรงรถออกเพื่อกดปุ่มEjectเลื่อนถาดCD-RWเข้าออกเอง ก็ทำได้อย่างสะดวกสบายไม่มีปัญหาครับ ถ้าไม่เชื่อลองโหลดคลิปวีดีโอนี้ ไปชมกันครับ (สำหรับท่านที่ดูไฟล์คลิปวีดีโอนี่ซึ่งเป็นไฟล์แบบDIVXไม่ได้ ขอให้ท่านช่วยโหลดโปรแกรม DIVX ตัวนี้ไปinstallลงในเครื่องของท่านก่อนชมด้วยนะครับ หรือถ้าท่านใช้Windows Media Player 10 ขึ้นไปอยู่แล้วก้ไม่ต้องโหลดก็ได้นะครับ รับชมได้เลย)
ประตูหน้า2ข้างสามารถเปิดได้โดยสะดวก ทำให้สามารถตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างๆภายในได้โดยสะดวกครับ
บริเวณกระจกด้านข้างตัวรถ เราได้ทำการถอดออกหมด ข้างละ3บาน 2ข้างรวม6บาน และบรรจงใส่ตาข่ายกันฝุ่นและแมลงอย่างดีจากประเทศออสเตรเลีย และยึดติดด้วยน็อตอย่างดีจากประเทศเยอรมันครับ (ยาเริ่มหมดฤทธิ์อีกแย้ววว)
มุมมองในที่มืดจะโชว์ความสว่างของไฟต่างๆตามตัวถังรถ และ ไฟเรืองแสงจากแสงUV Sensitive ได้ดียิ่งขึ้นครับ
จอLCD PSone บนหลังคาสามารถใช้งานปุ่มเดิมๆที่ให้มาคือปุ่มปรับเพิ่ม-ลดแสงสว่าง และปรับเพิ่ม-ลดเสียงจากคอมพิวเตอร์ได้ตามปรกติครับ เรายังใส่ใจทุกรายละเอียดเช่นเดิมครับ อิอิ
จอLCD PSone ด้านบนหลังคาของตัวรถ เมื่อไม่ต้องการใช้หรืออยู่ในโหมดรถบังคับวิทยุ เราสามารถพับเก็บลงได้โดยสะดวก ช่วยให้เวลาวิ่งทำให้ตัวรถเป็นไปตามหลักการแอโร่ไดนามิคดีขึ้นครับ ส่วนไฟแดงๆที่เห็นบนสี่มุมของหลังคา เมื่ออยู่ในโหมดคอมพิวเตอร์จะกระพริบตามจังหวะการอ่านของฮาร์ดดิสค์นะครับ แต่ถ้าอยู่ในโหมดวิทยุบังคับ ก็จะติดค้างอยู่ตลอดเวลาครับ
เมื่อปิดพับเก็บจอเรียบร้อย ก็จะมีลักษณะดังรูปครับ
มาดูด้านหลังตัวรถกันบ้างนะครับ เอาอีกแล้วครับ ประตูหลังก็ไม่เว้น ลวดลายอันสวยงาม เป็นตัวอักษรคำว่า”WWW.VMODTECH.COM”ครับ ช่างดูสวยงามและบ่งบอกถึงรสนิยมอันสุนทรีย์ของผู้ใช้ขึ้นมาทันทีเลยครับ ส่วนด้านล่างบริเวณกันชน จะมีพอร์ต PS/2ของเมาส์กับคีย์บอร์ดอยู่2ข้างครับ สำหรับผู้ที่ยังใช้เมาส์กับคีย์บอร์ดรุ่นหัวต่อแบบเก่าอยู่ ส่วนที่อยู่ตรงกลางกันชน3รูนั้น คือพอร์ตเสียบAudio out ,Line in และMicออกภายนอกครับ และยังสั่งจากSoftwareให้เป็นสัญญาณเสียงขาออกแบบ5.1Channelก็ได้ด้วยครับ และเช่นเดิมครับเวลาคอมพิวเตอร์ทำงาน หรือโหมดรถบังคับวิทยุทำงาน ไฟท้ายทั้งหมดที่เห็นก็จะมีแสงสว่างขึ้นมาทันทีครับ
ประตูหลังรถสามารถเปิดค้างไว้ได้เมื่อมีการเสียบพอร์ตใช้งานต่างๆ ในโหมดคอมพิวเตอร์
ภาพแสดงการเสียบใช้งานพอร์ตต่างๆ ที่ด้านหลังเครื่อง สามารถทำได้โดยสะดวกครับ
ส่วนสวิทซ์PowerและReset จะอยู่ที่บริเวณด้านข้างรถตรงส่วนท้าย โดยปุ่มสีแดงเป็นสวิทซ์Power ส่วนปุ่มสีน้ำเงินเป็นสวิทซ์Resetครับ
ก็จบเรียบร้อยสมบูรณ์ไปแล้วนะครับ สำหรับขั้นตอนต่างๆรวมทั้งรายละเอียด ความสามารถต่างๆของรถคอมพิวเตอร์บังคับวิทยุคันนี้ และถ้าเพื่อนๆท่านใดสงสัยว่ารถคันนี้ สามารถวิ่งได้จริงหรือไม่ ให้ลองโหลดคลิปวีดีโอนี้ ไปรับชมกันได้นะครับ
และสุดท้ายนี้ถ้าเพื่อนๆท่านใด รู้สึกชื่นชม ชื่นชอบเคสรถคันนี้ ก็ไปช่วยๆพวกกระผมโหวตให้คะแนนรถคันนี้ได้ ที่นี่ นะครับ พวกกระผมหวังว่าจะได้รับแรงเชียร์และแรงใจจากเพื่อนๆทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณและสวัสดีครับ