Toshiba Portege A600 review !!
Share | Tweet |
Toshiba Portege A600 review
ถ้าใครที่เดินห้างหรูๆ อย่างสยามพาราก้อน แล้วเดินเข้าไปตามโชว์รูมของอุปกรณ์ไอที ยี่ห้อดังๆทั้งหลาย ก็อาจจะได้พบเจอกับสินค้ารุ่นท๊อป ราคาระดับท๊อป ที่ว่า อะไรๆ ก็ท๊อปไปหมด สำหรับวันนี้ ผมเองก็มีโน๊ตบุ๊กสุดหรูตระกูล Portege อันเลื่องชื่อ ของ Toshiba จากตัวแทนจำหน่ายโตชิบ้าในประเทศไทย ส่งตรงมายัง vmodtech ให้ทุกท่านได้สัมผัสกันครับ นั้นคือ Portege A600 ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊กในกลุ่ม Ultra Portable ที่ใช้ซีพียูรุ่น low voltage ใน Centrino 2 อย่าง Core 2 Duo SU9400 นั้นเอง..
CPU | Intel Core 2 Duo SU9400 1.4Ghz 3mb L2cache |
RAM | DDR2-667 3gb |
Chipset | Intel PM45 |
Graphics | Intel GMA X4500 |
Storage | SATA II 250gb 5400rpm |
Optical drive | DVD-RW |
Wireless | Intel Pro WiFi 5100 (IEEE802.11g/n) |
Display | 12.1″ 1280×800 LED backlight |
Wieght | 1.4kg |
Port/Slot | USB2.0 2ports, SD slot, eSATA(Combo port) |
Batterry | 5800mAh |
OS Bundle | Windows Vista x86 Home Premium |
ภาพจากโปรแกรม Everest แสดงรายละเอียดของเครื่อง
รูปร่างหน้าตา โดดเด่นด้วยบอดี้พลาสติกสีดำเงา ตัดกับโลโก้ TOSHIBA สีเงิน เงาซะจน เป็นรอยนิ้วมือ ง่ายดายมากเลยครับ
เมื่อเปิดฝาเครื่องออกมาก็จะพบกับคีย์บอร์ดทำจากพลาสติก สีเงิน วางหราอยู่ และแน่นอน ไม่มีคีย์ภาษาไทยครับ อิอิ สวยงามจริงๆ
บานพับของเครื่อง เท่าที่ผมได้สัมผัส จะรู้สึกได้ถึงความฝืดและไม่เรียบเนียนในการพับอยู่บ้างครับ แต่โดยภาพรวมแล้วก็แข็งแรงดีในระดับหนึ่ง ไม่มีอาการง่อนแง่นให้เห็น
บริเวณขอบของเครื่อง ถึงแม้ดีไซน์โดยรวมจะเป็นเหลี่ยม แต่ก็มีการลบมุมมาให้ดูสวยงาม พร้อมกับป้าย “PORTEGE” ดูดีมีชาติตระกูลครับ อิอิ
คีย์บอร์ด ถ้าได้ลองสัมผัสแล้วอาจจะหลงรักได้ (อิอิ ซะงั้น) เพราะว่าระยะห่างของแต่ละคีย์ค่อนข้างทำออกมาได้ดี แต่อาจจะติดตรงที่เวลาพิมพ์สัมผัสแล้ว ตำแหน่งของปุ่มบางปุ่ม การเหลื่อมล้ำกัน จะไม่ค่อยเหมือนคีย์บอร์ดทั่วๆไปนัก สืบเนื่องจากจอที่มีขนาดเพียง 12 นิ้วเท่านั้นเองครับ อ้อ เสริมอีกอย่างหนึ่ง ได้ข่าวมาว่า คีย์บอร์ดของโตชิบ้ารุ่นนี้ “กันน้ำ” ด้วยนะครับ อิอิ อันนี้ก็ไม่อยากให้เอาไปลองกัน (เพราะผมเองยังไม่กล้าลองนั้นเองครับ หุหุ)
บริเวณสีดำ ทัชแพด มีความสากของพื้นผิวอยู่พอเหมาะ แต่บริเวณปุ่มกดทั้งสองนั้น ดูเหมือนจะทำจากพลาสติกที่บางไปสักหน่อย ข้อเสียอีกอย่างก็คือ บอดี้ตลอดช่วงมีความเงา ถ้าวางข้อมือ หรือกดนิ้วลงไป ก็จะทำให้เกิดรอยไขมันได้ง่าย
ปุ่มสองปุ่มนี้ เป็นปุ่มลี้ลับ ของโตชิบ้าครับ จริงๆแล้วมันก็ทำหน้าที่เหมือนกับปุ่ม Quick Lunch ทั่วๆไปของโน๊ตบุ๊กที่มีขายๆกัน ปุ่มซ้ายนั้นไว้สำหรับโปรแกรม Manage ของโตชิบา ส่วนปุ่มขวานั้นไว้สำหรับโปรแกรม Mobility Center ของวินโดวส์วิสต้า และสามารถตั้ง Custom menu ได้อีกเล็กน้อย แต่ที่ผมเรียกว่าปุ่มลี้ลับ ก็เพราะว่า ผมค้นพบว่า มันสามารถใช้ทำการ Power On เครื่องโดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม Power ได้ !!!?!?? จริงครับ อิอิ แล้วพอ Boot เสร็จปั้บ โปรแกรมที่เราต้องการเรียกใช้(จากปุ่มที่เรากด) ก็จะรันขึ้นมาโดยอัตโนมัติ นับเป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่ดูแล้วผมว่าน่ารักดีครับ อิอิ
อันนี้ล่ะ ปุ่ม Power On ตัวจริงครับ ที่เห็นเป็นรูเล็กๆตรงนั้นคือลำโพงแบบ Mono (มีชาแนลเดียว) เสียงก็กรุ๊งกริ๊งๆแบบโน๊ตบุ๊กทั่วไปนั้นแหละครับ
ด้านขวามือของเครื่อง มีสวิช เปิดปิด WiFi (ส่วน Bluetooth ต้องเปิดปิด ผ่าน management ในวินโดวส์) ยูเอสบี การ์ดรีดเดอร์ และพอร์ตแลน รวมไปถึง DVD-RW ด้วยครับ
ผมเคยรีวิวโน๊ตบุ๊กรุ่น Qosmio X300 ไป ซึ่งก็มีพอร์ตลักษณะนี้ เป็น Combo port ครับ คือเป็นทั้งพอร์ต eSATA และ USB ในตัว (เอาอะไรมาเสียบก็ได้อย่างนั้น) ส่วนท่เหลือก็เป็น VGA out (DSUB) ยูเอสบี อีกหนึ่งพอร์ต รวมไปแจ๊กเฮดโฟน และปุ่มเลื่อนปรับโวลุ่ม เอกลักษณ์เฉพาะของโน๊ตบุ๊กจากค่ายนี้เขาแหละครับ
ให้ดู DVD-Rw ชัดๆ กับ พอร์ตสำหรับ PC card ครับ
ด้านหลังมีรูระบายอากาศเป็นหย่อมๆ ถือว่าพอเพียงครับ แต่อุณหภูมิขณะใช้งานก็ถือว่าอุ่นๆในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
แบตเตอร์รี่ใหญ่จุใจ 5800 มิลลิแอมป์
ที่สามารถถอดฝาออกมาได้ก็มีแต่ Ram เท่านั้นครับ จะเห็นว่ามีสลอตเพียงสลอตเดียว ที่ติดตั้งมาให้ ขนาดเป็น 2GB ส่วนอีก 1GB นั้นเป็นแรมออนบอร์ดครับ