สวัสดีครับ หลังจากชมการ์ดจอ3มิติแรงๆ ซึ่งราคาก็แรงตามไปด้วยมาก็มากแล้ว วันนี้ผมขอนำการ์ดจอราคาประหยัดมาทดสอบประสิทธิภาพให้พ่อ แม่ พี่ น้อง ทุกๆท่านได้ชมกันบ้างนะครับ เผื่อเป็นแนวทางให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์หลายๆท่าน ที่งบประมาณน้อย ได้ทราบถึงประสิทธิภาพของการ์ดจอราคาประหยัดเหล่านี้ ว่าจะคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายเป็นค่าตัวมันไปหรือไม่ คราวนี้ผมขอเริ่มด้วยการ์ดจอจากค่ายNvidia ที่ใช้GPUรุ่นGeForce6200TC ภายใต้ยี่ห้อดังที่หลายๆท่านที่ชอบไปอ่านเวบไซต์เมืองนอกบ่อยๆย่อมรู้จักกันดีในความแรง ,ความสวยงามของตัวการ์ดและเสถียรภาพที่ดีในการใช้งาน นั่นก็คือยี่ห้อXFXนั่นเองครับ

เรามาเริ่มจากการดูหน้าตาของตัวการ์ดกับของแถมที่Bundleมา กันก่อนเลยนะครับ

เริ่มจากตัวกล่องนะครับ กล่องของการ์ดตัวนี้จะมีขนาดเล็กกระทัดรัด กว้างเท่าขวดคาราบาวแดงเองครับ ส่วนตัวกล่องก็มีรูปสุนัขใส่หน้ากาก น้ำลายยืด และตัวเอ็กซ์ตัวใหญ่เป็นBackgroundด้านหลัง อันเป็นเอกลักษณ์อันคุ้นตาของการ์ดยี่ห้อนี้ครับ

ของแถมที่มีมาให้ก้มีตัวคู่มือ แผ่นโบรชัวส์โฆษณาGamepadของXFX แผ่นไดรเวอร์ และสายS-Videoครับ

มาดูตัวการ์ดกันเลยนะครับ ตัวการ์ดมีลักษณะเล็กกระทัดรัด และมีHeatsinkขนาดกว้างเกือบเท่าตัวการ์ดปิดทับบนGPUครับ

แรมที่ใช้เป็นชิปแรมยี่ห้อVdata นะครับ ตามสเป็คเป็นแรม5ns ที่มีความเร็วที่400MHz DDR ครับ สังเกตจากรูปแบบการวางชิปแรม ก็พอเดาได้เลยครับ ว่าการ์ดตัวนี้หน่วยความจำบนการ์ดจะมีBandwidthแค่64-bit เท่านั้นครับ

ฉลากบนการ์ดบอกไว้ชัดเจนครับ ว่าSupport ramสูงสุด โดยการแชร์จากแรมระบบที่256mb

บริเวณขั้วต่อการ์ด มีให้เลือกการเชื่อมต่อทั้งD-Sub15pin และ DVI สำหรับจอLCDที่Support

ดูจากทางด้านข้างแล้วตัวHeatsinkขนาดใหญ่ด้านหน้า ไม่ได้ช่วยระบายความร้อนให้ชิปแรมด้านในเลย แล้วอย่างนี้ชิปแรมมันจะร้อนไปมั้ยเนี่ย อันนี้เราต้องมาทดสอบกันภายหลังครับ

ภาพSystemที่ใช้ในการทดสอบ ซึ่งมีรายละเอียดต่างๆดังนี้ครับ

ดูโฉมหน้าการ์ดขณะเสียบใช้งานใกล้ๆอีกครั้งครับ

ไปดูรายละเอียดต่างๆของตัวการ์ดที่Rivatunerแจ้งไว้กันนะครับ โดยRivaแจ้งว่าการ์ดตัวนี้ป็นการ์ดแรม64บิต ใช้GPU NV44 โดยมีPixel Pipelines จำนวน4ท่อ และVertex pipelines จำนวน3ท่อ กับแรม128MB DDR ซึ่งผมดูแล้วก็งงๆทำไมแจ้งเป็น128MB ทั้งๆที่ในไดรเวอร์ก็แจ้งว่าเป็น256MB ไม่ว่าจะตั้งให้ในไบออสเมนบอร์ดให้แชร์แรมให้VGAเท่าไหร่ ในไดรเวอร์และRivaก็แจ้งไม่ตรงกันเท่านี้ครับ

รายละเอียดต่างๆส่วนอื่น ก็แจ้งได้อย่างถูกต้องครับ

Core Clock ถูกแจ้งว่าอยู่ที่351 MHz Memory Clock วิ่งอยู่ที่399MHz ครับ

ดูจากตารางในRiva ก็สรุปได้เลยครับว่าการ์ดตัวนี้ท่อทุกอย่างที่มี ได้ถูกเปิดออกหมดแล้ว ไม่มีอะไรให้เปิดเพิ่มอีก แต่ถ้าใครอยากจะปิดท่อให้การ์ดช้าลงก็ทำได้นะครับ

มาดูรายละเอียดตัวไบออสของการ์ดจอตัวนี้กันครับโดยใช้โปรแกรมNiBiTor 2.5 ซึ่งตอนนี้มีตัว2.6ให้ดาวน์โหลดกันได้แล้วนะครับ แต่ตอนที่ผมเทสต์ตอนนั้นตัวใหม่2.6ยังไม่ออกครับ ซึ่งรายละเอียดรวมทั้งยี่ห้อในไบออสก็แจ้งไว้ตรงกับสเป็คตัวการ์ดทุกประการครับ แถมเราสามารถตั้งแยกค่าความเร็ว2Dและ3Dได้ด้วย ซึ่งการโอเวอร์คล็อคในไบออสแบบนี้เราต้องเทสต์ด้วยการโอเวอร์คล็อคด้วยซอฟต์แวร์ให้ชัวร์ก่อนว่ามันเสถียรจริงๆ จึงค่อยล็อคค่านะครับ ซึ่งการทำแบบนี้จะมีข้อดีกว่าการโอเวอร์คล็อคด้วยซอฟต์แวร์ตรงที่เมื่อเรากลับมารันที่2Dแล้ว ความเร็วของmemory ก็จะลดลงตามที่เราตั้งด้วย ไม่เหมือนที่ลากโดยซอฟต์แวร์เวลากลับมาที่2D จะลดลงแค่ความเร็วCore แต่ความเร็วmemoryกลับไม่ลดลงตาม

ส่วนการปรับเพิ่มไฟให้กับGPU และการปรับแต่งค่าTimming Ram ก็หมดสิทธิ์ครับ สำหรับการ์ดตัวนี้ในไบออสไม่อนุญาตให้ปรับแต่งได้เลยครับ

ส่วนการตั้งเปิดตัวเช็คอุณหภูมิ ก็เปิดมาให้ตั้งแต่เริ่มแรกแล้วครับ เราไม่จำเป็นต้องมาเปิดเองอีกเหมือนพวกการ์ดGeForce6200 GeForce6600อีก ต่อไปเราก็มาดูผลการทดสอบทางด้าน3Dกันหน้าถัดไปเลยนะครับ

DeFault Stage

การเทสต์ที่Stageนี้ จะไม่มีการเพิ่มความถี่สัญญาณนาฬิกาให้ทั้งCPUและGraphic Card ใดๆทั้งสิ้น วัตถุประสงค์ก็เพื่อแสดงประสิทธิภาพแบบดั้งเดิมของตัวการ์ดกับSystemระดับกลางๆทั่วไป

3DMark2001SE

3DMark03

3DMark05

Aquamark3

จากผลการทดสอบในStageนี้ พอสรุปรวมๆได้ว่า เนื่องจากแรมมีความกว้างเพียงแค่64บิต จึงทำให้คะแนนการทดสอบต่างๆออกมาดูน้อยๆ แต่ตัวการ์ดเองก็Support Featureต่างๆ ที่มีในปัจจุบันอย่างครบถ้วน แถมความร้อนที่แผ่ออกมาก็น้อยเอามากๆครับ Fullloadอุณหภูมิก็เพียงแค่48องศาเท่านั้น ซึ่งอุณหภูมิเพียงแค่นี้ เราไม่มีจำเป็นต้องปรับปรุงระบบระบายความร้อนใดๆเลยครับ

Overclock Graphic Card Stage

การเทสต์ที่Stageนี้ จะไม่มีการเพิ่มความถี่สัญญาณนาฬิกาให้กับCPUแต่จะเพิ่มความถี่สัญญาณนาฬิกาให้Graphic Card ถึงจุดสูงสุดที่เสถียรเทสต์ผ่านทุกการทดสอบ โดยไม่เกิดArtifactsใดๆ โดยใช้ระบบระบายความร้อนเดิมที่มีมาให้ วัตถุประสงค์ก็เพื่อแสดงประสิทธิภาพแบบสูงสุดที่การ์ดทำได้โดยเสถียรภาพ กับระบบระดับกลางๆทั่วไป

จากการทดลองโอเวอร์คล็อคด้วยRivaTuner การ์ดตัวนี้สามารถลากจากความเร็วเดิมที่350/400MHz ไปเสถียรที่ความเร็ว430/468MHz โดยไม่เกิดArtifactsใดๆ ถ้าคิดเป็น%ที่เพิ่มขึ้นแล้วนับว่าทำได้ไม่เลวทีเดียว ลองไปดูผลการทดสอบหลังจากลากความเร็วเพิ่มขึ้นกันครับ

3DMark2001SE

3DMark03

3DMark05

Aquamark3

ดูจากผลการทดสอบแล้ว การลากความเร็วของการ์ดตัวนี้ขึ้นมา ส่งผลให้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นมาคิดเป็น%แล้ว ก็สูงพอสมควรเลยครับ แถมความร้อนก็เพิ่มจากเดิมที่ยังไม่โอเวอร์คล็อคเพียงแค่4องศาเท่านั้นครับ เย็นสนิทจริงๆครับการ์ดตัวนี้ แล้วผมยังทดสอบเพิ่มเติมด้วยการนำพัดลมBlowerจากนรกมาเป่าอัด เพื่อทดสอบว่าถ้าเราทำให้การ์ดเย็นลงกว่านี้ จะทำให้เพิ่มความเร็วได้อีกหรือไม่ ผลปรากฏว่าหลังเอาพัดลมเป่าแล้วความร้อนลดฮวบไปเป็น10องศาเลยครับ แต่ก็ไม่สามารถเพิ่มความเร็วของการ์ดให้เพิ่มขึ้นอีกอย่างมีเสถียรภาพเลย ก็เลยพอสรุปได้ว่าถ้าคิดจะเล่นการ์ดตัวนี้ ก็ไม่ต้องปรับปรุงระบบระบายความร้อนใดๆเพิ่มแล้วครับ เพราะทำไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่มีผลทำให้เพิ่มประสิทธิภาพทางด้านความเร็วขึ้นแต่อย่างใดครับ

Overclock CPU ,RAM & Graphic Card Stage

3DMark2001SE

3DMark03

3DMark05

Aquamark3

         สำหรับ XFXGeForce6200TCตัวนี้ ลองสังเกตจาก Overclock CPU ,RAM & Graphic Card Stage แล้วดูคะแนนเทียบจาก Overclock Graphic Card Stage นั้นจะเห็นได้ว่าความเร็วCPUไม่มีผลทำให้คะแนนมากขึ้นซักเท่าไร ซึ่งความเร็วของCPUต่างกัน 1.03Ghz แต่คะแนนต่างกันไม่มากนัก  และเมื่อดูจาก Overclock Graphic Card Stage เทียบกับ DeFault Stage ก็จะเห็นได้ว่าคะแนนออกมาแตกต่างได้ชัดเจนคือจากการ OverClock Graphic Card ครับ คาดว่าคงเกิดจากคอขวดของMemory Bandwidth ที่เป็น64-bitนั่นเองครับ ที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้น

ความคิดเห็นของผมคือ เจ้าXFX GF6200TCตัวนี้ จะไม่เหมาะอย่างแรงสำหรับผู้ใช้ที่บ้าพลัง แต่เหมาะที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานทั่วๆไป ดูหนัง เล่นเนต ทั่วๆไป ซึ่งการใช้งานแบบ2มิตินั้น แรม64บิต ก็ไม่ส่งผลให้ระบบโดยรวมอืดแต่อย่างใด การ์ดรุ่นใหญ่ตัวละหลายหมื่นทำได้ยังไง สีสวยสดยังไง เจ้าการ์ดรุ่นเล็กนี้ก็ทำได้อย่างนั้น หรือจะขยับไปเล่นเกมส์ออนไลน์ที่กินพลังกราฟฟิคไม่มากนัก อย่างที่ฮิตๆกันอย่างPangya เท่าที่ผมลองดู ที่ความละเอียดไม่เกิน1024*768 32-bit แบบไม่เปิดAA ก็ไม่เกิดอาการหน่วงกระตุกแต่อย่างใด ตีปังได้สบาย  

และถ้าจะพูดถึงความคุ้มค่ากับค่าตัวประมาณ2,600บาทของเจ้าการ์ดน้องเล็กสุดของPCI-Eตัวนี้ ต้องอยู่ที่ว่าเป็นผู้ใช้กลุ่มไหน ถ้าเป็นกลุ่มที่บ้าพลังและนิยมการเล่นเกมส์ที่กินกราฟฟิคหนักๆเป็นประจำ ผมขอแนะนำให้มองข้ามการ์ดรุ่นนี้ไปเป็นรุ่นที่ใหญ่กว่าอย่างGeForce6600ที่ราคาอยู่ที่ประมาณ4-5พันบาทไปเลยจะคุ้มค่ากว่ามากๆ แต่ถ้าเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่ไม่นิยมการเล่นเกมส์หนักๆ แต่นำมาใช้งานทั่วไป พิมพ์งาน ดูหนัง ฟังเพลงเล่นเนต  ตัดต่อแต่งภาพ ตัดต่อวีดิโอ เป็นประจำ เจ้าXFX GeForce6200TCตัวนี้ ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ผู้ใช้กลุ่มนี้ไม่ควรมองข้ามเลยครับ เนื่องจากราคาที่ประหยัดกว่าของมัน แต่ก็ใช้งานประเภทดังที่กล่าวมาได้เทียบเท่ากับการ์ดรุ่นใหญ่ๆตัวละเป็นหมื่นๆเลย ประเภทที่ว่าจ่ายแพงกว่า แต่เราไม่ได้ใช้ มันก็ไม่คุ้มค่าแน่นอนใช่มั้ยครับ

ขอขอบคุณ ASCENTI RESOURCES Co,.LTD. ที่เอื้อเฟื้อสินค้าในการทดสอบ

ร่วมวิจารณ์บทความนี้ คลิกที่นี่ ครับ