“ACER Aspire S3″ ผสานสุดยอดเทคโนโลยีแท็บเล็ต-สมาร์ทโฟน

ชูดีไซน์ตอบโจทย์ความต้องการสื่อสารขณะเคลื่อนที่

กรุงเทพฯ:  6 กันยายน 2554 เอเซอร์ เปิดตัวโน้ตบุ๊ค เจนเนอเรชั่นใหม่ “Acer Aspire S3″ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน ที่มองหาทุกคุณสมบัติทั้งด้านพลังในการทำงานของคอมพิวเตอร์ ความรวดเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และความสะดวกสบายในการพกพา

ในยุคที่ผ่านมา คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค, แท็บเล็ต พีซี และสมาร์ทโฟน ต่างก็ได้รับการออกแบบเพื่อการใช้ประโยชน์เฉพาะด้านของตัวผลิตภัณฑ์ นั่นคือ โน้ตบุ๊ค ต้องให้ความสามารถในการทำงานด้านคอมพิวเตอร์ และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ขณะที่ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต พีซี ต้องทำให้การเริ่มระบบการทำงานของเครื่อง และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งต้องมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาและพกพาสะดวก ตลอดจนติดตั้งง่าย อย่างไรก็ตาม ด้วยความนิยมการสื่อสารขณะเคลื่อนที่ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ผู้ใช้งาน จึงต้องการให้ทุกคุณสมบัติเหล่านี้มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของตน

ทั้งนี้ การใช้งานโน้ตบุ๊คช่วงแรกๆ มุ่งไปที่การสร้างข้อมูล โดยตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา แอพพลิเคชั่นที่มีการใช้งานได้เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างมหาศาลส่วนสมรรถนะการทำงานด้านคอมพิวเตอร์ และความสามารถด้านการสื่อสารกลับพัฒนาขึ้นอย่างค่อนข้างคงที่ในขณะเดียวกันแม้รูปทรงโน้ตบุ๊คเบาและบางยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีช่องว่างที่ปรับปรุงได้อีกทั้งการเริ่มทำงานเมื่อเปิดเครื่อง (startup) และระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่ สำหรับสแตนด์บายโหมด นอกจากนี้ ลูกค้ายังต้องการดีไซน์ที่เบาและบางยิ่งขึ้นอย่างไม่สิ้นสุดอีกด้วย

ขณะที่ แท็บเล็ต พีซี และสมาร์ทโฟน คือ อุปกรณ์พกพาใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เกี่ยวกับการบริโภคข้อมูล เป็นอุปกรณ์ที่เล็กลง, น้ำหนักน้อยลง ความเร็วในการเริ่มทำงานเมื่อเปิดเครื่อง (startup) และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว ส่วนข้อด้อยของอุปกรณ์กลุ่มนี้ ก็คือ สมรรถนะด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งโน้ตบุ๊คยังมีอยู่ในระดับเหนือกว่า

แต่เมื่ออินเทอร์เน็ต กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ผู้บริโภคจึงต้องการอะไรที่มากขึ้นกว่าเพียงความแรงในการทำงานของคอมพิวเตอร์ พวกเขาต้องการอุปกรณ์พกพาที่เล็กลง มีน้ำหนักเบาขึ้น ซึ่งมาพร้อมการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วยิ่งขึ้นทุกเวลา และทุกสถานที่

ทั้งนี้ โน้ตบุ๊ค”Aspire S3″ จากเอเซอร์ ได้ผนวกรวมความสามารถทุกด้านของพีซี เข้ากับข้อได้เปรียบของแท็บเล็ตพีซี และสมาร์ทโฟน รวมทั้งผนวกนวัตกรรมเพิ่มเติม ทั้ง Acer Green Instant On และ Instant Connect ซึ่งจะไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้มีไลฟ์สไตล์แบบ “on the go” ได้สะดวกขึ้น แต่ยังสะท้อนถึงความทุ่มเทของ       เอเซอร์ ในการนำแนวปฏิบัติที่เป็นมิตรกับโลก (earth-friendly) เข้ามาใช้ เพราะด้วยการออกแบบตัวเครื่องที่มีน้ำหนักน้อยลง เน้นความบางและประสิทธิภาพ (ultra-thin) ยิ่งกกว่าเดิม จึงทำให้ “Aspire S3″ ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้โน้ตบุ๊คยุคใหม่ได้

การออกแบบโดยใช้กระบวนการแบบเซลล์เปิด (open cell) ของจอแสดงผล LED ความคมชัดสูงขนาด 13.3 นิ้ว ช่วยให้ตัวฝาเครื่องมีน้ำหนักเบา และทนทาน ด้วยการใช้ lid และ bezel ในการสร้างเป็นขอบจออลูมินัม ขณะที่ ในกระบวนการผลิต ก็มีการใช้วัสดุที่ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (conserves materials) นอกจากนี้ แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงยังทำให้ไม่จำเป็นต้องชาร์จบ่อยครั้ง ทำให้ “Aspire S3″ เป็นตัวเลือกที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น สำหรับผู้ใช้ที่มีจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม

ขณะที่ ในด้านความคุ้มค่า “Aspire S3″ จะสามารถสนองตอบความพึงพอใจอย่างรวดเร็ว และไม่รู้จบให้กับผู้ใช้งาน ด้วยสมรรรถนะที่ยอดเยี่ยม ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเทคโนโลยี instant on, การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว และอายุใช้งานที่ยาวนานของแบตเตอรี่ ในงานออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง (ultra-aerodynamic) ที่ช่วยลดความร้อนของโน้ตบุ๊ครุ่นนี้

ด้านนวัตกรรมของเอเซอร์ที่นำเข้ามารวมไว้ในโน้ตบุ๊ค “Aspire S3″ ได้แก่ เทคโนโลยี Acer Green Instant Onจะมี sleep modes 2 แบบ เพื่อช่วยเพิ่มความเหนือชั้นของการเริ่มการทำงานของเครื่องได้รวดเร็ว คือ โหมด Sleep ซึ่งจะกลับเข้าสู่ระบบได้ภายใน 1.5 วินาที และโหมด Deep Sleep (หลังจากการไม่ใช้งาน 30 นาที) ซึ่งกลับเข้าสู่ระบบระบบได้ภายใน 6 วินาที นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานสูงสุด 50 วัน ซึ่งกล่าวได้ว่ายาวนานกว่าแบตเตอรี่มือถืออย่างมาก

นอกจากนี้ ยังมี Acer Instant Connect ช่วยให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ภายใน 2.5 วินาที หรือเร็วกว่าการเชื่อมต่อแบบเดิมถึง 4 เท่า ลดเวลาในการรอคอยของผู้ใช้ ทำให้สามารถใช้งานเครื่องได้เร็วยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิผลของงาน และเพลิดเพลินไปกับการใช้งานเพื่อความรู้ความบันเทิง (infotainment) ได้มากยิ่งขึ้น

ขณะที่ ในแง่ของการสื่อสารขณะเคลื่อนที่ “Aspire S3″ สามารถส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้ผู้ใช้งาน และเป็นรุ่นที่ได้รับการคาดหวังว่าจะสร้างการเติบโตใหม่ในตลาดให้กับเอเซอร์ ทั้งนี้ เอเซอร์ จะเดินหน้าการวิจัยและพัฒนาเพื่อความล้ำหน้าด้านนวัตกรรม, การออกแบบอย่างชาญฉลาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (eco-smart designs) เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้า ตลอดจนสร้างตลาดโน้ตบุ๊คโลกให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เอเซอร์ คอลล์ เซ็นเตอร์ ที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2685 4311 หรือติดต่อสอบถามด้านเทคนิคที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2685 4355 หรือคลิกไปที่ www.acer.co.th

ข้อมูลเกี่ยวกับเอเซอร์

นับแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2519 เอเซอร์มุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดระหว่างคนและเทคโนโลยี ด้วยการเอาใจใส่กับการทำตลาดผลิตภัณฑ์ไอทีภายใต้แบรนด์เอเซอร์ในทุกประเทศ  ปัจจุบันเอเซอร์เป็นผู้จัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์เป็นอันดับสองในระดับโลกทั้งใน ตลาดพีซีและโน้ตบุ๊ก ด้วยรูปแบบการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางการจำหน่ายที่มีผลกำไรและยั่งยืนเป็น ปัจจัยหลักของการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเอเซอร์  ในขณะเดียวกันความสำเร็จของการควบรวมกิจการกับเกตเวย์ อีแมชชีน และแพคการ์ด เบลล์ทำให้บริษัทสามารถเป็นบริษัทระดับโลก เอเซอร์มุ่งมั่นที่จะออกแบบและสร้างซัพพลายเชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดย ความร่วมมือกับตัวแทนจำหน่าย และเอเซอร์ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนการแข่งขันโอลิมปิคฤดูหนาว 2010 ที่แวนคูเวอร์ และการแข่งขันโอลิมปิค เกมส์ 2012 ณ กรุงลอนดอน ปัจจุบัน เอเซอร์ อิงค์ มีพนักงาน 8,000 คนทั่วโลก และมีรายได้ในปีงบประมาณ 2010 อยู่ที่ 19.90 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.acer-group.com

ผลิตภัณฑ์เอเซอร์ เริ่มเข้าสู่ตลาดประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2527 โดยบริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ปัจจุบันบริษัทฯ เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย เคยเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ และได้รับรางวัล Reader’s Digest Trusted Brand 13 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2542 - 2554 พร้อมกันนี้ ผลสำรวจยอดขาย คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คส่วนบุคคลในประเทศไทย อันดับ 1 ตั้งแต่ปี 2546 อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน รายละเอียดโปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.acer.co.th

Acer และโลโก้ Acer เป็นเครื่องหมายการค้าของ Acer Incorporated เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน และ/หรือเครื่องหมายบริการอื่นๆ ที่ระบุหรือแสดงในลักษณะอื่นใด ถือเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง