AMD ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PC สำหรับธุรกิจ ครอบคลุมโมบายและเดสก์ท็อปมอบประสิทธิภาพระดับชั้นนำสำหรับผู้ใช้มืออาชีพ
Share | Tweet |
AMD ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PC สำหรับธุรกิจ ครอบคลุมโมบายและเดสก์ท็อปมอบประสิทธิภาพระดับชั้นนำสำหรับผู้ใช้มืออาชีพ
โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ PRO 8040 Series และ AMD Ryzen™ PRO 8000 Series มอบประสิทธิภาพระบบ x86 บนกลุ่มผลิภัณฑ์ AI PC ที่ล้ำสมัยที่สุดสำหรับธุรกิจต่าง ๆ
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย - 17 เมษายน 2567 - AMD (NASDAQ: AMD) ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PC บนแพลตฟอร์มโมบายล์และเดสก์ท็อปที่รองรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) มอบประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม ประสบการณ์การใช้งาน AI ระดับพรีเมียม และการเชื่อมต่อที่เหนือชั้นสำหรับผู้ใช้งานกลุ่มธุรกิจ โปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดซีรีย์ AMD Ryzen™ PRO 8040 เป็นโปรเซสเซอร์ x86 ที่ล้ำสมัยที่สุดสำหรับโน้ตบุ๊คและโมบายเวิร์คสเตชั่นสำหรับการใช้งานด้านธุรกิจ[ii] นอกจากนี้ เอเอ็มดียังประกาศเปิดตัวโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป AMD Ryzen™ PRO 8000 โปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปตัวแรกที่รองรับ AI สำหรับผู้ใช้งานด้านธุรกิจ[iii] ออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมควบคู่กับการประหยัดพลังงาน
ด้วยเทคโนโลยี AMD Ryzen™ AI ที่อยู่ภายในโปรเซสเซอร์ เอเอ็มดียังคงเดินหน้าขยายความเป็นผู้นำด้าน AI PC[iv] ผ่านการใช้ประโยชน์จากโปรเซสเซอร์ กราฟิกการ์ด และหน่วยประมวลผลประสาทเทียม (NPU) บนชิปที่ออกแบบมาเฉพาะ มอบประสิทธิภาพการประมวลผลด้าน AI ที่มากกว่ารุ่นก่อนหน้า[v] มีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงสุดที่ 16 NPU TOPS (Trillions of Operations Per Second) และประสิทธิภาพระบบรวมสูงสุดที่ 39 TOPS โดยพีซีเชิงพาณิชย์ที่ติดตั้งโปรเซสเซอร์ Ryzen AI ใหม่นี้ จะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งาน มอบประสิทธิภาพการประมวลผลขั้นสูงสำหรับการทำงานร่วมกันที่ใช้เทคโนโลยี AI การสร้างสรรค์คอนเทนต์ งานวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยเทคโนโลยี AMD PRO ที่เพิ่มเติมเข้ามา ฝ่าย IT จะสามารถปลดล็อคฟีเจอร์การจัดการระดับองค์กร ลดความซับซ้อนการดูแลระบบไอที และดำเนินงานเร็วขึ้นทั่วทั้งองค์กร นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยในตัว ตั้งแต่การป้องกันชิปไปจนถึงระบบคลาวด์ เพื่อรับมือกับการโจมตีขั้นสูงที่มีความซับซ้อน อีกทั้งยังมีเสถียรภาพ ความน่าเชื่อถือและอายุการใช้งานของแพลตฟอร์มที่ยาวนาน เหมาะสำหรับซอฟต์แวร์ระดับองค์กร
Jack Huynh รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มผลิตภัณฑ์ประมวลผลและกราฟิก บริษัท AMD กล่าวว่า “AMD นำเสนอเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ครอบคลุมเพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจยุคใหม่ เรายังคงขยายความเป็นผู้นำด้าน AI PC อย่างต่อเนื่องผ่านการเสนอประสิทธิภาพการประมวลผลที่มากขึ้นบนกลุ่มผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปและโมบายพีซีหลากหลายรุ่น โปรเซสเซอร์ PRO ซีรีส์ล่าสุดของเราได้สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านประสบการณ์การประมวลผลระดับพรีเมียม และช่วยให้ธุรกิจนำความสามารถด้าน AI ไปใช้กับพีซีทั่วทั้งองค์กรด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัยระดับชั้นนำ”
โมบายโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8040 Series ขับเคลื่อนประสิทธิภาพกลุ่มผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปและโมบายเวิร์คสเตชั่นระดับมืออาชีพและ
ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ มุ่งนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปใช้กับคอมพิวเตอร์ภายในองค์กร โมบายโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8040 Series นำเสนอประสิทธิภาพการประมวลผลอันทรงพลังและประหยัดพลังงานที่ยอดเยี่ยม เพื่อรองรับเวิร์คโหลดด้านธุรกิจและ AI ที่หนักหน่วงที่สุด โปรเซสเซอร์ใหม่นี้มาพร้อมกับคอร์ประมวลผลประสิทธิภาพสูงถึงแปดคอร์ บนเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง 4nm และสถาปัตยกรรม “Zen 4” ที่มอบประสิทธิภาพการประมวลผลรวดเร็วขึ้นถึง 30% สำหรับแอปพลิเคชันโมบายเวิร์คสเตชั่นที่ต้องการทรัพยากรมากที่สุด[vi] ด้วยเทคโนโลยี AMD Ryzen AI และ AMD RDNA™ 3 อันทรงพลัง ที่ผสานรวมเข้ากับโปรเซสเซอร์ซีรี่ย์ล่าสุดนี้ ได้มอบประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นถึง 72% และใช้พลังงานน้อยลงถึง 84% เมื่อเทียบกับ Intel Core Ultra 7 165U[vii] [viii] สำหรับการประชุมทางวิดีโอ ไม่ว่าจะเปิดใช้งานประสบการณ์ AI หรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ พีซีที่ใช้โปรเซสเซอร์ Ryzen PRO 8040 Series จะเป็นผู้ใช้กลุ่มแรก ๆ ที่รองรับเทคโนโลยี WiFi-7 ซึ่งมอบการเชื่อมต่ออันล้ำสมัยและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม
โปรเซสเซอร์เรือธง AMD Ryzen™ 9 PRO 8945HS มาพร้อมคอร์ประมวลผล 8 คอร์ 16 เธรด แคช 24MB และการ์ดจอ Radeon™ 780M ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผลขั้นสูงสำหรับแอปพลิเคชันที่ใช้ทรัพยากรมหาศาล เช่น การคำนวณทางเทคนิค การสร้างสรรค์เนื้อหามัลติมีเดีย และกราฟิกแยก โดยโปรเซสเซอร์สามารถรองรับเวิร์คโหลดงานที่ต้องการกราฟิกสูง เช่น การเรนเดอร์ 3D การเข้ารหัสวิดีโอ และการแก้ไขรูปภาพ
โมบายโปรเซสเซอร์ Ryzen PRO 8040 Series ใหม่ คาดว่าจะวางจำหน่ายผ่านพันธมิตร OEM ประกอบด้วย HP และ Lenovo ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2024
AMD Ryzen PRO 8000 Series เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์สำหรับธุรกิจตัวแรกของโลกที่รองรับเทคโนโลยี AI
สำหรับนักธุรกิจที่ใช้คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8000 Series มาพร้อมกับการรองรับเทคโนโลยี AI เป็นครั้งแรกบนโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป ขับเคลื่อนประสบการณ์ด้าน AI ให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสิทธิภาพการประมวลผลอันทรงพลัง โดยมีคอร์ประสิทธิภาพสูง “Zen 4” สูงสุดแปดคอร์ ผลิตด้วยเทคโนโลยีกระบวนการผลิต 4nm โปรเซสเซอร์ซีรี่ย์ Ryzen PRO 8000 สร้างมาตรฐานใหม่ด้านการประมวลผลและประสิทธิภาพการใช้พลังงานในการดำเนินธุรกิจธุรกิจแต่ละวัน โดยคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 7 PRO 8700G จะได้รับประสิทธิภาพการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นสูงสุด 47% และประสิทธิภาพกราฟิกที่เพิ่มขึ้น 3 เท่าจากการทดสอบเมื่อนำไปเทียบกับโปรเซสเซอร์ Intel Core i7 14700
คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่ติดตั้งโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8000 Series จะรองรับเทคโนโลยี DDR5 และ PCIe® 4 ช่วยให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน และเข้าถึงแอปพลิเคชันและข้อมูลสำคัญทางธุรกิจได้เร็วยิ่งขึ้น รวมถึงการเชื่อมต่อเทคโนโลยี Wi-Fi 7 ด้วย
โดยโปรเซสเซอร์เรือธงของซีรีย์ AMD Ryzen 8700G มอบประสิทธิภาพแก่ผู้ใช้ผ่านคอร์ประสิทธิภาพสูง 8 คอร์ 16 เธรด แคช 24MB และกราฟิกการ์ด AMD Radeon 780M ภายใน จากการทดสอบประสิทธิภาพ โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 8700G ให้ประสิทธิภาพดีกว่าถึง 19%[xii] พร้อมการใช้พลังงานที่น้อยกว่า ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้ระดับมืออาชีพสำหรับการทำงานในเวิร์คโหลดต่าง ๆ
เดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ Ryzen PRO 8000 Series ใหม่ คาดว่าจะวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มพันธมิตร OEM อย่าง HP และ Lenovo รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2024
เสริมพลังให้กับองค์กรผ่านแนวทางการรักษาความปลอดภัยและความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงด้วยเทคโนโลยี AMD Ryzen™ PRO และ Ryzen™ AI
เทคโนโลยี AMD PRO มอบฟีเจอร์การจัดการระดับองค์กรให้แก่ผู้ใช้ ผลการศึกษาล่าสุดโดย Principled Technologies แสดงให้เห็นว่าผู้จัดการ IT สามารถติดตั้งแล็ปท็อปที่ใช้ขุมพลัง AMD ได้เร็วกว่าแล็ปท็อปของคู่แข่งถึง 41% และสามารถดูแลจัดการแล็ปท็อปได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือบนระบบคลาวด์ เช่น Windows Autopilot นอกจากนี้ เทคโนโลยี AMD PRO ยังนำเสนอแนวทางการรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้นที่แข็งแกร่ง ฝังอยู่ภายในทั้งบนฮาร์ดแวร์ และระบบปฏิบัติการ ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรที่หลากหลาย เทคโนโลยี AMD PRO จะช่วยให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีสามารถตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยที่ทันสมัย และเสนอการปกป้องที่ต่อเนื่องให้กับผู้ใช้จากการโจมตีที่ซับซ้อน
นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO ยังมาพร้อมชิปด้านความปลอดภัย Microsoft Pluton ที่ผสานเข้าไว้ด้วย[xiv] เสนอการป้องกันที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ชิปไปจนถึงระบบคลาวด์ ช่วยปกป้องข้อมูลรับรองตัวบุคคล บัญชีผู้ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคล และการเข้ารหัสบนพีซีที่ใช้ระบบปฎิบัติการณ์ Windows 11
ภายในปลายปี 2024 นี้ คาดว่าจะมี ISV ที่รองรับ AI มากกว่า 150 ราย ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานบน Ryzen AI โดยผู้ใช้กลุ่มธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก Ryzen AI เพื่อสร้างเอกสารและงานนำเสนอระดับมืออาชีพ จากหัวข้อสั้น ๆ ไม่กี่ข้อ รวมไปถึงการสรุปเนื้อ และตอบกลับอีเมล ช่วยประหยัดเวลาอันมีค่าในระหว่างวัน นอกจากนี้ Ryzen AI ยังช่วยให้ผู้ใช้มีผู้ช่วยส่วนตัว AI เพื่อช่วยในการเขียนโค้ด ทำงานร่วมกับเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI และปรับแต่งภาพและวิดีโอด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การปรับความคมชัดและลดสัญญาณรบกวน
พันธมิตร OEM เปิดตัวแล็ปท็อปซีรี่ย์ Ryzen PRO 8040 และเดสก์ท็อปซีรี่ย์ Ryzen PRO 8000 เพิ่มเติม
พันธมิตร OEM ของ AMD ประกอบด้วย Lenovo และ HP กำลังเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์แล็ปท็อป โมบายเวิร์คสเตชั่น และเดสก์ท็อปที่ทรงพลัง ประสิทธิภาพสูง และรองรับ AI มากขึ้น ผ่านขุมพลังโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8040 และ 8000 Series เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานด้านธุรกิจทุกประเภท นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ พันธมิตรในอุตสาหกรรม ยังคงขยายฟีเจอร์ Microsoft Copilot เพื่อนำเสนอความสามารถด้าน AI เพิ่มเติมมายังระบบปฎิบัติการ Windows ผ่านการใช้ฮาร์ดแวร์ AMD เพื่อปลดล็อคฟีเจอร์ใหม่สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพ การรักษาความปลอดภัย และการดำเนินธุรกิจในแต่ละวัน
ในงาน HP Amplify Partner Conference ปีนี้ HP ได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อป เวิร์คสเตชั่น และแล็ปท็อปเชิงพาณิชย์หลากหลายรุ่น รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลบนโปรเซสเซอร์ AMD PRO Series ประกอบด้วย HP EliteBook 805 Series G11 Notebook PCs, HP EliteBook 605 Series G11 Notebook PCs, HP ProBook 405 Series G11 Notebook PCs, HP Elite Small Form Factor 805 G9 Desktop PC, HP ZBook Power G11 และ HP ZBook Firefly G11 ที่ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ PRO 8000 หรือ 8040 Series โดย HP และ AMD กำลังยกระดับเทคโนโลยี AI ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ผ่านความเชี่ยวชาญของ HP ในโซลูชันการประมวลผลบนเวิร์คสเตชั่นระดับไฮเอนด์ ร่วมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ AMD ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อนำเสนอความพร้อมและการสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยี AI
Guayente Sanmartin รองประธานอาวุโสและประธานฝ่าย Commercial Systems & Displays Solutions บริษัท HP Inc. กล่าว”ที่ HP เรายังคงเดินหน้าเป็นผู้นำยุคใหม่ด้านการประมวลผลแบบเฉพาะบุคคล โดยทำงานร่วมกับ AMD ผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างอนาคตด้านเทคโนโลยี ด้วยความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของเรา เรามีความยินดีที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ HP Elite และ Pro PC รุ่นล่าสุด รวมถึงโมบายเวิร์คสเตชั่น Z by HP ซึ่งติดตั้งโซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเวิร์คโหลดงานด้าน AI ให้กับลูกค้าของเรา”
เมื่อต้นปีนี้ Lenovo ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ThinkPad T14 Gen 5 ที่ใช้ขุมพลังโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8040 Series และในวันนี้ บริษัทได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปเพิ่มเติม ประกอบด้วย ThinkCentre M75s Gen 5, ThinkCentre M75q Gen 5 และ ThinkCentre M75t Gen 5 ซึ่งทั้งหมดใช้ขุมพลังโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8000 Series
Sanjeev Menon รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่าย Worldwide Desktop Business in Intelligence Devices Group บริษัท Lenovo กล่าวว่า “ความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่าง AMD และ Lenovo ช่วยให้เราสามารถนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยให้กับลูกค้าของเรา กลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปเชิงพาณิชย์ Lenovo ThinkCentre รุ่นล่าสุดของเรา ที่ใช้ขุมพลังโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 8000 Series Desktop Processors ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ AI เพื่อมอบประสิทธิภาพและความคล่องตัวในระดับที่เหนือกว่า พร้อมทั้งเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้ใช้งานด้านธุรกิจเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยผลสำรวจล่าสุดของ Lenovo แสดงให้เห็นว่า เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ (CIO) มีความต้องการเร่งด่วนที่จะบูรณาการ AI เข้าสู่การดำเนินงานทางธุรกิจ และคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ThinkCentre รุ่นใหม่นี้จะช่วยให้การใช้ AI เป็นไปได้สำหรับทุกคน”
James Howell ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายระบบปฎิบัติการณ์ Windows บริษัท Microsoft กล่าวว่า “Microsoft ยังคงเดินหน้าสร้างแรงผลักดันให้กับการนำ AI PC มาใช้ โดยมุ่งเน้นเรื่องการนำเสนอเคสการใช้งานและฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้มืออาชีพยุคใหม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เรากำลังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับ AMD เพื่อนำเสนอฟีเจอร์ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มเดสก์ท็อปและโมบายที่ใช้ระบบปฎิบัติการณ์ Windows 11 ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพบนโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen”