AMD เปิดตัวโปรเซสเซอร์ใหม่ AMD Ryzen Threadripper PRO 5000 WX-Series

โปรเซสเซอร์เวิร์คสเตชั่นขั้นสูงสำหรับผู้ใช้ระดับมืออาชีพด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าคู่แข่ง 2 เท่า

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย - 10 มีนาคม 2565 - AMD (NASDAQ: AMD) เปิดตัวโปรเซสเซอร์เวิร์คสเตชั่นใหม่ AMD Ryzen Threadripper PRO 5000 WX-Series มาพร้อมคอร์ประมวลผล 64 คอร์ 128 เธรด ในรุ่น AMD Ryzen Threadripper PRO 5995WX ที่พัฒนาต่อจากโปรเซสเซอร์ Ryzen Threadripper PRO 3000 WX ที่ได้รับรางวัล โดยโปรเซสเซอร์ Ryzen Threadripper PRO 5000 WX-Series นำเสนอความเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพในทุกด้านได้อย่างโดดเด่นผ่านเวิร์คโหลดการทำงานที่หลากหลาย เป็นผลมาจากประสิทธิภาพของสถาปัตยกรรมหลัก “Zen 3” และความถี่ในการประมวลผลที่เพิ่มขึ้น[1],[2] พร้อมเปิดตัว Lenovo ThinkStation P620 จำนวน 5 รุ่นตัว เวิร์คสเตชั่นเครื่องแรกที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลบนโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Threadripper PRO 5000 WX-Series มอบประสบการณ์การใช้งานในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมให้กับผู้ใช้งานด้านเวิร์คสเตชั่น2

ซาอิด มาสคาลานี่ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายไคลเอนท์คอมพิวติ้ง บริษัท AMD กล่าวว่า “ความสำเร็จของผู้ใช้งานด้านเวิร์คสเตชั่นขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่เหมาะสมในการทำงานให้ได้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาต้องการฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพในระดับชั้นนำ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เราสร้าง AMD Ryzen Threadripper PRO 5000 WX-Series โดยคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ เพื่อทำให้ผู้ใช้มืออาชีพได้รับประสิทธิภาพการประมวลผลที่ยอดเยี่ยมสำหรับการทำงานบนแอปพลิเคชั่นด้านเวิร์คสเตชั่นที่มีความต้องการสูงที่สุดในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าที่เคย”

พอล แลมเบิร์ต ผู้ชนะรางวัล Academy Award สองสมัยและหัวหน้าฝ่าย VFX ภาพยนตร์เรื่อง DUNE กล่าวว่า “ด้วยเซิร์ฟเวอร์โปรเซสเซอร์ AMD EPYC และโปรเซสเอร์ AMD Ryzen Threadripper Pro 5000WX เราสามารถเรนเดอร์เฟรมภาพได้เป็นจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ ความมหัศจรรย์ของมันคือการทำวนซ้ำ (iteration) ภาพเอ็ฟเฟ็กต์แบบซิงเกิลอาจมีการอัปเดตเป็นจำนวนหลายร้อยรอบหรือมากกว่านั้น ซึ่งต้องใช้ประสิทธิภาพในการประมวลผลปริมาณมหาศาลในการดึงกลับมาทำซ้ำให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เราโชคดีมากที่ได้ร่วมทดลองใช้โปรเซสเซอร์ใหม่ Threadripper PRO ซึ่งมีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ของเรา”

นิค ราสมุซเซน วิศวกรและสถาปนิกฝ่ายเทคโนโลยี StageCraft บริษัท Industrial Light & Magic กล่าวว่า “AMD Ryzen Threadripper PRO 5000 WX-Series เป็นโปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมที่สุดที่เราเคยทดสอบที่ ILM StageCraft ในด้านประสิทธิภาพมันเหนือกว่าโปรเซสเซอร์ Threadripper PRO 3000 WX อย่างมาก ซึ่งเราเห็นประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าหรือมากกว่าบนโปรเซสเซอร์ที่มีการใช้งานหนักมากเมื่อเทียบกับพื้นฐานด้านประสิทธิภาพของเรา ด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมนี้ประกอบกับ I/O ที่รองรับจำนวนมาก ทำให้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Threadripper PRO 5000 WX-Series เป็นเวิร์คสเตชั่นโปรเซสเซอร์ในอุดมคติสำหรับงานด้านการผลิตเสมือนจริง (virtual production) ที่ล้ำสมัยของเรา”

ร็อบ เฮอร์มัน รองประธานฝ่าย Workstation และ Client AI Business Unit บริษัท Lenovo กล่าวว่า “ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราได้เห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในตลาด สำหรับการใช้งานผลิตภัณฑ์ ThinkStation P620 ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ลูกค้าของเราพึ่งพาเราในการจัดหาเวิร์คสเตชั่นในระดับมืออาชีพที่ไม่เพียงแต่รองรับความต้องการเท่านั้น แต่ยังสามารนำเสนอประสิทธิภาพที่เหนือกว่าที่เคย เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากในการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับ AMD เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ Lenovo ThinkStation P620 รุ่นต่อไป ซึ่งขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลบนโปรเซสเซอร์ Ryzen Threadripper PRO รุ่นล่าสุด สำหรับผู้ใช้กลุ่มศิลปิน สถาปนิก วิศวกร และผู้ใช้ในระดับมืออาชีพที่มีความต้องการใช้งานในด้านต่าง ๆ ด้วยเวิร์คสเตชั่นรุ่นใหม่นี้ ลูกค้าของเราสามารถเร่งประสิทธิภาพด้านเวิร์คโฟลว์ที่มีความซับซ้อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้นภายในระยะเวลาที่น้อยลง”

วลาโด คอยลาซอฟ ผู้ชนะรางวัล Academy Award และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Chaos กล่าวว่า “นับตั้งแต่ที่โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Threadripper เปิดตัวซึ่งมีการนำเสนอประสิทธิภาพด้านการเรนเดอร์ได้อย่างน่าประทับใจ โดยโปรเซสเซอร์ AMD Threadripper PRO 5000 WX-Series รุ่นใหม่นี้ได้รับการพัฒนาในด้านนี้เพิ่มเข้ามา ช่วยให้นักออกแบบสามมิติและผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างภาพเสมือนรูปแบบสถาปัตยกรรมได้รับประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยม ทำงานบรรลุความสำเร็จมากขึ้นในระยะเวลาที่น้อยลง”

เซมา มิชรา ประธานฝ่ายเทคโนโลยี DCC บริษัท Binyan Studios กล่าวว่า “ปีนี้ เราเริ่มย้ายระบบด้านการผลิตในสตูดิโอต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อเปลี่ยนมาใช้โปรเซสเซอร์ AMD EPYC ในการเรนเดอร์งานของเรา และโปรเซสเซอร์ AMD Threadripper PRO ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพด้านเวิร์คสเตชั่น ความสามารถและประสิทธิภาพใหม่ในผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เป็นสิ่งที่เปลี่ยนเกมให้กับเรา และพาเราไปสู่อีกระดับ”

โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Threadripper PRO

กลุ่มผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์ AMD Threadripper เป็นผู้นิยามในตลาดเวิร์คสเตชั่น   ตั้งแต่เปิดตัวในปี 2560 ด้วยคอร์ประมวลผลจำนวนมากและประสิทธิภาพด้านมัลติเธรดสำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบ ผู้บริโภคและผู้ใช้ระดับมืออาชีพ นับตั้งแต่โปรเซสเซอร์เวิร์คสเตชั่นรุ่นแรก AMD ได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ Threadripper ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เพิ่มประสิทธิภาพ จำนวนคอร์และเธรดประมวลผล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของ AMD เพื่อนำเสนอฟีเจอร์สำคัญที่รองรับการทำงานและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ในระดับองค์กร โดยมอบเครื่องมือต่าง ๆ ที่จำเป็นในการทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการสูงสุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านเวิร์คโหลดการสร้างสรรค์และการผลิตให้บรรลุผลสำเร็จได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

จากความสำเร็จของโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Threadripper PRO 3000 WX ทำให้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Threadripper PRO 5000 WX-Series ได้ผสมผสานประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรม “Zen 3” เข้ากันกับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยระดับองค์กร การจัดการ และการปรับความเหมาะสมการใช้งานของเทคโนโลยี AMD PRO ด้วยฟีเจอร์ด้านความถี่ที่เพิ่มขึ้นและสถาปัตยกรรมแคช L3 ที่ได้รับการพัฒนาบนโปรเซสเซอร์ใหม่ Ryzen Threadripper PRO ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้จะสามารถจัดการงานด้านเวิร์คโหลดที่ใช้ประสิทธิภาพของเธรดการประมวลผลบ้าง แต่ก็ยังสามารถให้ประสิทธิภาพการทำงานรูปแบบมัลติเธรดในระดับชั้นนำ[3]

ความเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพ

โปรเซสเซอร์ Ryzen Threadripper PRO ใหม่มอบประสิทธิภาพการประมวลผลเพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชั่นช็อกเก็ตเดี่ยวของคู่แข่ง[4] และมีประสิทธิภาพที่ล้ำหน้ากว่าเซิร์ฟเวอร์โปรเซสเซอร์ของคู่แข่งเมื่อนำมาใช้ร่วมกัน 2 ตัวถึง 95% โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Threadripper PRO 5000 WX-Series มอบประสิทธิภาพด้านการประมวลผลที่โดดเด่นบนเวิร์คโหลดการทำงานที่หลากหลายในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์[5]

โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Threadripper PRO WX-Series รองรับเทคโนโลยี PCIe 4.0 128 เลนระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม ทำให้สามารถขยายประสิทธิภาพด้านการกราฟิกและสตอเรจได้มากว่าโซลูชั่นคู่แข่ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านกราฟิกสูงขึ้นถึง 43% และประสิทธิภาพด้านการจัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้นถึง 2.2 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชั่นคู่แข่ง[6]

ประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานขั้นสูง

คอร์ประมวลผลโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Threadripper PRO 5000 WX-Series ใช้พลังงานต่อคอร์น้อยลงถึง 67% มอบอัตราส่วนประสิทธิภาพต่อการประหยัดพลังงานเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชั่นของคู่แข่ง[7] คอร์ประมวลผลประสิทธิภาพสูงบนสถาปัตยกรรม “Zen 3” ช่วยในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็สามารถนำเสนอประสิทธิภาพระดับแนวหน้าในอุตสาหกรรมได้ด้วย2

โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Threadripper PRO 5000 WX-Series ได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดการงานด้านเวิร์คโหลดที่ซับซ้อนที่สุดสำหรับผู้ใช้ในระดับมืออาชีพ พร้อมประสิทธิภาพด้านการเรนเดอร์และตัดต่อระดับ 8K พัฒนาการจำลองและการออกแบบที่ซับซ้อน และประมวลผลโค้ดออกมาได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้ผู้ใช้ระดับมืออาชีพมีความได้เปรียบในการแข่งขัน และสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นในระยะเวลาที่น้อยลง

ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใช้ระดับมืออาชีพ

การสนับสนุนด้านประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Threadripper PRO 5000 WX-Series และสร้างโซลูชั่นที่เหมาะสมสำหรับสังคมไอทีที่มีความต้องการด้านจัดการในระดับมืออาชีพมากที่สุด ประกอบด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ในเทคโนโลยี AMD PRO ได้แก่:

AMD Memory Guard - การเข้ารหัสหน่วยความจำแบบเต็มรูปแบบเพื่อช่วยป้องกันการโจมตีข้อมูลที่สำคัญ

AMD Secure Processor - ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยบนชิปโปรเซสเซอร์ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญและเข้ารหัสก่อนดำเนินงาน

AMD Shadow Stack - ชุดนวัตกรรมการป้องกันฮาร์ดแวร์ใหม่ภายในโปรเซสเซอร์เพื่อช่วยป้องกันการโจมตีรูปแบบมัลแวร์ทั่วไปบางส่วน โดยจะป้องกันการเข้าไปแก้ไขหน่วยความจำต่าง ๆ

ความพร้อมในการให้บริการ

โปรเซสเซอร์ใหม่ AMD Ryzen Threadripper PRO 5000 WX-Series พร้อมให้บริการแล้วบนเวิร์คสเตชั่น Lenovo ThinkStation P620