เอซุส เขย่าวงการไอทีทั่วโลก

ลั่นนโยบายใหม่ “ความพอใจสูงสุดของลูกค้า” ต้องมาก่อน

พร้อมเปิดเกมรุก อัด 5 สุดยอดเทคโนโลยีลงในโน้ตบุ๊กทุกรุ่น เป็นครั้งแรก

ลูกค้าชาวไทย เตรียมควักกระเป๋าเปลี่ยนโน้ตบุ๊กเก่าที่มีอยู่มาเป็นเอซุส ด้วยนโยบายใหม่ที่เย้ายวน “ความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า” นำเอา 5 สุดยอดเทคโนโลยีไว้ในเครื่องเดียว ทั้งความสวยงาม (Beauty) พลังเสียง (Sound) สัมผัส (Touch) เทคโนโลยี IOIC (Instant On, Instant Connect) และด้านบริการผ่านระบบคลาวด์ (Cloud) ภายใต้สโลแกน “ASUS Customer Happiness 2.0”

นายจอนนี่ ฉี ประธานกรรมการบริหาร อัสซุส ประเทศไต้หวัน เปิดเผยว่า “เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และยอดขาย รวมทั้งการตอบสนองความต้องการของลูกค้า เราจึงได้เดินหน้านโยบายใหม่ “ความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า” ภายใต้สโลแกน “ASUS Customer Happiness 2.0” คือการผลิตโน้ตบุ๊ก โดยคำนึงถึงความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ มิใช่เพียงแค่นวัตกรรมที่ล้ำสมัยเพียงอย่างเดียว เพราะจากการสำรวจความคิดเห็นลูกค้าของเอซุสทั่วโลก ยืนยันว่าลูกค้าต้องการได้ความครบถ้วนของคุณสมบัติ ไม่ว่าสินค้าจะมีราคาเท่าไรก็ตาม”

ด้านนายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ด้วยนโยบายดังกล่าว ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้โน้ตบุ๊ก โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงงบประมาณที่มีในกระเป๋า ผมอยากจะเชิญชวนให้ลูกค้าทุกท่านที่กำลังจะตัดสินใจซื้อโน้ตบุ๊ก แวะมาคุยกับเรา ณ ร้านตัวแทนจำหน่ายเอซุสทั่วประเทศก่อน ผมยืนยันท่านจะได้รับความคุ้มค่าและประโยชน์จากการตัดสินใจเลือกเอซุสอย่าง แน่นอน”

ความคุ้มค่าดังที่กล่าวมา ประกอบด้วย 5 ปัจจัยหลัก ได้แก่

1. ความสวยงาม (Beauty)
เราออกแบบโน้ตบุ๊กภายใต้แนวคิด ASUS Premium Perception เน้นความเป็นเอกลักษณ์ อันหรูหราและงดงาม ด้วยการผสมผสานดีไซน์ที่ลงตัวกับไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ พร้อมรายละเอียดอันน่าดึงดูดใจที่รังสรรค์ขึ้นโดยทีมดีไซเนอร์ของเอซุส อาทิ โน้ตบุ๊ก N Series, เอซุส เซนบุ๊ก เป็นต้น

2. พลังเสียง (Sound)
โน้ตบุ๊กทุกรุ่น มาพร้อมระบบเสียงอันทรงพลังของโซนิก มาสเตอร์ (Sonic Master) เทคโนโลยีเสียงอันสุดยอดจากทีมวิจัยและพัฒนาของเอซุสทีทำงานร่วมกับ B&O ICEpower® เพื่อการถ่ายทอดอรรถรสแห่งการฟังได้อย่างน่าทึ่ง คืดสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเสียงที่ออกมาจากโน้ตบุ๊กได้เทียบเท่ากับระบบ เสียงเซอร์ราวด์ ให้พลังเสียงคมชัดสมจริง และยังให้เสียงเบสทุ้มนุ่มลึก และช่วงเสียงกว้างอีกด้วย ดังนั้น โซนิก มาสเตอร์ (Sonic Master) จึงเป็นลิขสิทธิ์และมีเฉพาะในโน้ตบุ๊กของเอซุสเท่านั้น

3. การสัมผัส (Touch)
ทีม ASUS Magic Touch มีความตั้งใจที่จะช่วยให้ชีวิตการทำงานและการใช้โน้ตบุ๊กเป็นเรื่องที่ง่าย จึงตัดสินขยายขนาด Touchpad ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อน การคลิก การหมุน หรือการซูม พร้อมรองรับการป้อนคำสั่งได้หลากหลายรูปแบบ

4. เทคโนโลยี IOIC (Instant On, Instant Connect)
เทคโนโลยี Instant On, Instant Connect สามารถรีซูมระบบได้ภายใน 2 วินาที และ สแตนด์บาย (Stand by) ระบบได้ถึง 14 วัน ด้วยการจัดการแบตเตอรี่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการใช้งานได้อย่างเต็มพลัง

5. ระบบคลาวด์ (Cloud)
เป็นบริการเก็บข้อมูล ผ่านระบบคลาวด์จากเอซุส พร้อมมอบความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้ ทั้งในการจัดเก็บ แบ่งปันและจัดการข้อมูลบนพื้นที่ 32 GB โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นเวลาถึง 3 ปี

นายพรเทพ กล่าวต่อว่า “จากเดิมเอซุสโน้ตบุ๊ก ที่ประกอบด้วยคุณสมบัติ 5 หมวดนี้ จะมีอยู่ในโน้ตบุ๊กระดับไฮแอนด์ ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นตลาดระดับบน แต่นับจากนี้เป็นต้นไป เอซุสโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ทุกรุ่น เช่น K5, N6, G5, Zenbook Prime จะได้คุณสมบัติทั้ง 5 หมวดข้างต้น และจากนโยบายดังกล่าว ผมเชื่อว่าจะมีส่วนผลักให้ยอดจำหน่ายโน้ตบุ๊กของเอซุสในครึ่งปีหลังเพิ่ม ขึ้นจากเดิมอีก อย่างแน่นอน”

รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ ASUS Call Center 02-401-1717 หรือแวะมาคุยกับเราได้ตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเอซุส ทั่วประเทศ

###

เกี่ยวกับเอซุส
เอซุส หนึ่งในสามสุดยอดผู้นำจำหน่ายโน้ตบุ๊กระดับโลก และผู้ผลิตมาเธอร์บอร์ดที่มียอดขายและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นองค์กรผู้นำในยุคดิจิตอลใหม่ เอซุสออกแบบและผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของครัวเรือน, สำนักงาน และบุคคลทั่วไปในยุคดิจิตอลได้อย่างลงตัวด้วยสายผลิตภัณฑ์มากมายไม่ว่าจะ เป็นมาเธอร์บอร์ด, กราฟิกการ์ด, จอภาพ, คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป, โน้ตบุ๊ก, เน็ตบุ๊ก, แท็บเล็ต, เซิร์ฟเวอร์, มัลติมีเดีย, โซลูชั่นไร้สาย, อุปกรณ์ด้านเครือข่ายและโทรศัพท์มือถือ ด้วยความมุ่งมั่นของเอซุสในการพัฒนานวัตกรรมและคุณภาพทำให้คว้ารางวัลถึง 3,886 รางวัลในปี 2011 และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากการคิดค้น Eee PC™ แก่อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ เอซุสมีพนักงานทั่วโลกกว่า 10,000 คน พร้อมทีมงานวิศวกรเพื่อพัฒนาวิจัยและออกแบบผลิตภัณฑ์ระดับโลกจำนวน 3,100 คน เอซุสมีผลประกอบการในปี 2010 กว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ