BenQ เปิดตัว W11000 โฮมเธียเตอร์โปรเจคเตอร์ DLP 4K Ultra HD เครื่องแรกของโลก
Share | Tweet |
BenQ เปิดตัว W11000 โฮมเธียเตอร์โปรเจคเตอร์ DLP 4K Ultra HD เครื่องแรกของโลก
ได้รับการรับรอง THX®Certification ตรงตามข้อกำหนดของ CEA
เพื่อภาพระดับ UHD อย่างแท้จริง
BenQ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์นวัตกรรมดิจิตอลไลฟ์สไตล์ ที่นำความเพลิดเพลินและคุณภาพมาสู่ชีวิต เปิดตัว W11000 โฮมเธียเตอร์โปรเจคเตอร์ DLP 4K Ultra HD เครื่องแรกของโลกที่ได้รับการรับรอง THX®Certification ตรงตามข้อกำหนดของ CEA ด้วยคุณภาพคุ้มราคา เจาะกลุ่มลูกค้า Hi-End เผยยอดขายรวมบริษัทสิ้นปี 59 แตะ 700 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 60 อยู่ที่ 800 ล้านบาท
นายพัทธกร พรศิริธิเวช ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท เบ็นคิว ( ประเทศไทย ) เปิดเผยว่า ปี 2559 บริษัท BenQ คาดว่าจะทำยอดขายได้ประมาณ 700 ล้านบาท เพราะ BenQ ยังมีโปรเจคใหญ่รออยู่อีกหลายโปรเจค ที่จะปิดภายในสิ้นปี สำหรับผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์ถือว่าประสบความสำเร็จใน Segment Premium อาทิ BenQ 1080p หรือ โฮมโปรเจคเตอร์และในไตรมาส 3 BenQ มีมาเก็ตแชร์สูงถึง 58% เป็นอันดับ 1 ในตลาดเมืองไทย ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำ ทั้งยังเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่าการเลือกซื้อโฮมโปรเจคเตอร์ของ BenQ จะได้รับทั้งเทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริงและคุณภาพสูงอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามในปี 2559 ที่ผ่านมาตลาดมีความเคลื่อนไหวไม่มากนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผู้บริโภคจำกัดการใช้จ่าย ซึ่งBenQ ก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อกระตุ้นตลาดเพิ่มตัว Hi-End ที่มีคุณสมบัติพิเศษและเฉพาะตัวในการใช้งาน ทำให้มีผลตอบรับที่ดีขึ้นตามลำดับโดยกลุ่มสินค้าของ BenQ ที่มียอดขายอันดับ 1 - 3 ได้แก่ อันดับ 1 LCD Monitor กับ Gaming Gear มีสัดส่วน 55 % หรือประมาณ 400 ล้านบาท อันดับ 2 Projector มีสัดส่วน 35% หรือประมาณ 250 ล้านบาท และอันดับที่ 3 ผลิตภัณฑ์จอ Interactive Flat Panel & Digital Signage มีสัดส่วน 10% หรือประมาณ 70 ล้านบาท
ล่าสุดได้ทำการเปิดตัวโฮมโปรเจคเตอร์ “W11000” โฮมเธียเตอร์โปรเจคเตอร์ DLP ตัวแรกของโลกที่มาพร้อมกับความละเอียดของภาพในระดับ 4KUHD ความละเอียด 8.3 ล้านพิกเซล ซึ่งตรงตามข้อกำหนดของ CEA เกี่ยวกับภาพความละเอียดสูงระดับ UHD ผ่านการรับรอง THX® HD Display™ Certification ถือเป็นการการันตีประสิทธิภาพด้านการแสดงภาพอันโดดเด่นทัดเทียมโรงภาพยนตร์ระบบ DLP 4K DMD ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่ร่วมกับ เทคโนโลยี XPR และเลนส์ 4K ให้สีที่มีความแม่นยำระดับมาตรฐาน Rec 709 ตรงตามสีที่ผู้ผลิตภาพยนตร์ต้องการให้ผู้ชมได้เห็น นอกจากนี้ยังรองรับ โหมด 2.35 : 1 Anamorphic เหมาะสำหรับห้องที่ใช้ทำงานด้านภาพและเสียง เลนส์สามารถขยายได้ถึง 1.5 เท่า ทั้งยังปรับตำแหน่งภาพได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ทำให้โปรเจคเตอร์รุ่น W11000 ให้ภาพที่มีคุณภาพดีเยี่ยมบนฉากรับภาพ ติดตั้งได้ทั้งระยะใกล้หรือไกล ให้ขนาดภาพตั้งแต่ขนาด 95 – 180 นิ้ว คุณภาพสมบูรณ์แบบด้วยราคา 249,000 บาท โดยสามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย ชั้นนำของBenQ อาทิ ร้าน Save Audio & Video, Projector 108, Projector Outlet, Projector Pro Goodspeed, IONON, Clef Audio, Khonkaen HIFI, Sahapanich
ทั้งนี้ในปี 2560 BenQ จะยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์โฮมโปรเจคเตอร์ ใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดในทุกๆ Segmemt ระดับราคา 50,000 ถึง 300,000บาท และมีแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่สามารถให้ภาพที่มีคุณภาพสูงและมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น เพื่อให้เหมาะกับการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน โดยวางกลยุทธ์การตลาดในปี 2560 เน้นไปที่ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ดังเดิม แต่จะดันกลุ่ม Interactive Flat Panel & Digital Signage ให้มีมูลค่ามากขึ้น เป็นสัดส่วน 20% ทั้ง 3 กลุ่มมีสัดส่วน LCD 45%, Projector 35% และ Interactive Flat Panel & Digital Signage 20% และยังคงเน้นการทำตลาดเฉพาะกลุ่ม ( Focus Segment ) เหมือนปีที่ผ่านมา อาทิ โปรเจคเตอร์ ก็ยังคงเน้นการทำตลาดกลุ่ม โฮมโปรเจคเตอร์ เน้นการรีวิวสินค้าและทำ Digital Content เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีข้อมูลในการอ้างอิงคุณภาพสินค้าจากผู้ใช้มืออาชีพ และเน้นการออกงาน AV HiFi ประจำปี เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทดลองผลิตภัณฑ์พร้อมการทำ Work Shop กับผู้ใช้ นอกจากนั้น ยังเน้นการออกงาน Road Show ที่เกี่ยวกับการศึกษา เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์ให้กับกลุ่มโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย
สำหรับ LCD ยังเน้นที่การทำตลาด Gaming Monitor จัดแข่ง BenQ Zowie eSport Tournament, การทำ XL Zone ในร้าน Gaming Cafe ทั่วประเทศ และการทำ Zowie Experience Zone ในร้าน Retail Gaming ทั่วประเทศ และอีกส่วนที่สำคัญ จะเน้นทำตลาดกลุ่ม B2B สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Interactive Flat Panel, Digital Signage และกลุ่ม ProAV Projector อาทิ การจัดสัมมนา หรือ Work Shop ในแต่ละไตรมาสเพื่อเพิ่มความรู้ผลิตภัณฑ์ให้กับตัวแทนจำหน่ายกับผู้ใช้กลุ่มนี้ โดยปี 2560 ตั้งยอดขายไว้ที่ 800 ล้านบาท และตั้งงบการตลาดไว้ที่ 5% นายพัทธกร กล่าวทิ้งท้าย