เดลล์ เผยแผนปี 54 ประกาศปรับโครงสร้างพร้อมรุกทั้ง “คอร์ปอเรต และ คอนซูเมอร์”
Share | Tweet |
เดลล์ เผยแผนปี 54 ประกาศปรับโครงสร้างพร้อมรุกทั้ง “คอร์ปอเรต และ คอนซูเมอร์”
แกร่งด้วยสินค้าตอบโจทย์ทุกความต้องการ พร้อมพัฒนาสู่ผู้ให้บริการด้านไอทีโซลูชั่นอย่างเต็มตัว
- เสริมศักยภาพบริการหลังการขาย ตอกย้ำผู้นำด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ค-
เดลล์เปิดฉากปี 54 วางหมากพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านไอทีโซลูชั่นอย่างเต็มตัว หลังพิสูจน์ความสำเร็จจนสามารถครองใจคนไทยได้ในเวลาอันรวดเร็ว
นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อปีที่ผ่านมา เดลล์ ได้มีการปรับโครงสร้างการทำงานจากเดิมในแบบกระจายศูนย์ มาสู่การรวมศูนย์ โดยรวมทั้งกลุ่มคอนซูเมอร์ เอสเอ็มอี และคอร์ปอเรต เข้าไว้ด้วยกันเพื่อความเป็นเอกภาพในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเปรียบเสมือนการปรับโฉมสู่บ้านใหม่ “New Home” ของ เดลล์ โดยการรวมศูนย์การบริหารจะทำให้ เดลล์ มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทำให้นโยบายมีความชัดเจน และมีความคล่องตัวในการทำตลาดมากขึ้น เพิ่มศักยภาพในระบบสั่งการ ตลอดจนสามารถจัดการทรัพยากรในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ในปี 54 บริษัทฯ สามารถรุกตลาดและสร้างสรรค์แคมเปญร่วมกันระหว่างกลุ่มคอร์ปอเรตกับคอนซูเมอร์ได้มากขึ้น โดยจะยังชูกลยุทธ์ Consumer Centric หรือ การให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ไว้ดังเดิม เพื่อตอบโจทย์ ความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นหลักปรัชญาที่เดลล์ใช้ในการบริหารมาโดยตลอด
“การปรับโครงสร้างเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้ เดลล์ ทั่วโลกสามารถสร้างยอดขายในไตรมาส 3 ให้เติบโตขึ้นประมาณ 19% ซึ่งเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูงสำหรับอุตสาหกรรมไอที สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นการยืนยันว่าเดลล์เดินมาถูกทาง ตั้งแต่การทรานส์ฟอร์มบิสซิเนสเป็น “นิว เดลล์” ที่ประกาศเมื่อ 4 ปีก่อน ตั้งแต่ที่ “ไมเคิล เดลล์” กลับมาบริหาร อีกครั้ง โดยเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ จากพีซีคอมพานี เป็นไอทีโซลูชั่นโพรไวเดอร์ ทำให้กำไร ไม่ได้มาจากพีซีเป็นหลัก แต่มาจากซอฟต์แวร์และเซอร์วิสต่างๆ ธุรกิจเดลล์จึงไม่ใช่แค่การขายฮาร์ดแวร์ แต่เป็นการขายทั้งโซลูชั่น ซึ่งการรวมศูนย์การบริหารในประเทศ ก็ทำให้ตอบโจทย์มากขึ้นเช่นกัน” นายอโณทัย เวทยากร กล่าว
สำหรับเมืองไทย ข้อมูลจากไอดีซี ไตรมาส 3 เดลล์มีการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 80% โตสวนกระแส ไม่ว่าปีนี้จะมีเหตุการณ์หลายอย่าง โดยที่ตลาดคอนซูเมอร์มีอัตราการเติบโตมากที่สุดกว่า 200% ทำให้ตอนนี้เรามีรายได้จากตลาดผู้บริโภคเป็นสัดส่วน 35% หลังจากที่บุกคอนซูเมอร์มา 3 ปี ขณะที่ตลาด คอร์ปอเรตอยู่ที่ประมาณ 65% หากมองในแง่จำนวนยูนิตที่ขายได้ มาร์เก็ตแชร์ของ เดลล์ จะอยู่ใน 1 ใน 3 แบรนด์ผู้นำตลาดในตลาดประเทศไทย แต่หากมองในแง่รายได้ เดลล์ อยู่ที่อันดับ 2 ณ ปัจจุบัน “ในปี 2554 เดลล์ ให้ความสำคัญแก่ 2 ส่วนหลัก ประกอบด้วย 1. Data Center ดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเน้นใน 2 เรื่อง คือ Cloud Service คลาวด์ เซอร์วิส เนื่องจากสามารถช่วยลดการลงทุน ด้านเทคโนโลยีของลูกค้าโดยทำทั้งฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์ และอินทิเกรต โซลูชั่นของคลาวด์ เทคโนโลยี และเรื่องที่ 2 คือ Storage สตอเรจ ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านมา เดลล์ ซื้อกิจการเฉลี่ย 8 กิจการต่อปี ซึ่งส่วนมากเป็นองค์กรที่ทำเรื่องเทคโนโลยีสตอเรจทั้งสิ้น โดยวิถีของ เดลล์ ไม่นิยมให้ลูกค้าเป็นฝ่ายเปลี่ยน แต่เราพยายามพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ของเก่าและของใหม่ให้ทำงานร่วมกันได้ อีกส่วนที่เดลล์ให้ความสำคัญมากคือ 2. Mobility โมบิลิตี้ การขยายไลน์ในตลาดแท็บเลตและสมาร์ทโฟน ที่ผ่านมาได้เปิดตัวแท็บเลตเดลล์ สตรีต ขนาด 5″ อย่างเป็นทางการในงานโมบายไทยแลนด์โมบายเอ็กซ์โป 2011 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับแบบเกินคาด และยิ่งเพิ่มกระแสนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทำให้ เดลล์ วางแผนที่จะตั้งทีมการตลาดในส่วน โมบิลิตี้ อย่างจริงจัง เพื่อร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเมืองไทยสร้างสีสันด้านการตลาดให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น” นายอโณทัย เวทยากร กล่าว
เกี่ยวกับเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจของ เดลล์ ในประเทศไทยนั้น นายอโณทัย เวทยากร กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า “เดลล์ ต้องการก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำในทุกตลาดที่เราเข้าร่วม จากตลาดลูกค้าองค์กร ในส่วนของพีซี/ โน้ตบุ๊กเดลล์เป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว ก้าวต่อไปคือผลักดันตลาดคอนซูเมอร์ให้ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 เนื่องจากคอนซูเมอร์เป็นตลาดใหญ่ จากนั้นก็จะขยายเข้าสู่ตลาดแท็บเลตและสมาร์ทโฟนเพื่อเป็นการต่อยอดตลาดคอนซูเมอร์ในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ การเป็นผู้นำในโลกออนไลน์ ถือเป็นอีกยุทธศาสตร์หลัก ในปี 2554 ซึ่ง ไม่ใช่แค่การขายของออนไลน์ แต่เป็นการทำตัวให้เป็นมิตรที่ดีกับผู้บริโภคผ่านสื่อออนไลน์ จำพวกเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ปัจจุบัน พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำ ดังนั้น ในยุคใหม่ เราต้องเป็นออนไลน์คอมพานี ซึ่งปัจจุบัน เดลล์มีสมาชิกเฟซบุ๊กประมาณ 30,000 ราย ซึ่งเราได้สร้างสรรค์กิจกรรมบนโลกออนไลน์มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งในส่วนออฟไลน์ ทั้งสองส่วนยัง ต้องอินทิเกรตกัน เพื่อให้ลูกค้าที่เห็นจากสื่อทีวี สิ่งพิมพ์แล้ว แอ็กเซสเข้าไปในโลกออนไลน์ ปัจจุบัน เดลล์ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นช่องทางสื่อสารและรับฟีดแบ็กจากลูกค้าไปพร้อมๆ กัน เป็นการสื่อสารสองทางกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ มากกว่าแค่การไปโพสต์ปัญหา ทิ้งไว้ในเว็บบอร์ด แล้วรอให้ทีมงานตอบ ซึ่งล่าสุด เดลล์ได้เปิด “โซเชียล มีเดีย ลิสเทนนิ่ง คอมมานด์ เซ็นเตอร์” เป็นศูนย์บัญชาการด้านออนไลน์ เพื่อมอนิเตอร์ข้อมูลทุกอย่างที่มีคนพูดถึงแบรนด์เดลล์ในอินเทอร์เน็ต ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอื่นๆ แบบเรียลไทม์ โดยศูนย์ตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน สามารถรองรับการใช้งานได้มากถึง 11 ภาษา”
ด้านมุมมองต่อภาพรวมธุรกิจไอทีเมืองไทยในปี 54 นั้น นายอโณทัย เวทยากร กล่าวแสดงความเห็นในส่วนนี้ว่า “จากการวิเคราะห์ของ ไอดีซี พบว่า ในปีนี้ทิศทางของตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม (ไอซีที) ของไทยจะถูกกำหนดโดยความก้าวหน้าของโซเชียลมีเดีย การเติบโตที่มีอัตราสูงขึ้นของสมาร์ทโฟน และการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ต่อการให้บริการดาต้าทั้งในการสื่อสารแบบมีสายและไร้สาย ซึ่งเป็นแนวทางที่ เดลล์ ได้ให้ความสำคัญและนำไปพัฒนาแผนการดำเนินธุรกิจอย่างสอดคล้องแล้วเช่นกัน”