เดลล์ ส่งโซลูชั่นครบวงจร เปิดมุมมองและขยายศักยภาพใหม่ให้กับลูกค้า
ในงานเดลล์ โซลูชั่นส์ ทัวร์ 2013

กรุงเทพฯ – 3 พฤษภาคม 2556 - เดลล์ มุ่งเน้นการนำเสนอโซลูชั่นและบริการในระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซ เพื่อช่วยลูกค้าเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) ได้จัดงาน เดลล์ โซลูชั่นส์ ทัวร์ 2013 ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของเดลล์ ที่จัดขึ้นในหลายประเทศ พร้อมเปิดเผยว่าปัจจุบันลูกค้ามากมายที่อยู่ทั่วโลกต่างให้ความไว้วางใจใช้โซลูชั่นเทคโนโลยีและบริการต่างๆ ที่เดลล์ได้นำเสนออันเป็นผลมาจากกลยุทธ์การเปลี่ยนโฉมธุรกิจตั้งแต่ 4 ปีที่ผ่านมา และเดลล์ได้ให้การสนับสนุนแก่ลูกค้านับหลายล้านรายที่อยู่ใน 180 ประเทศทั่วโลก รวมถึง 95 เปอร์เซ็นต์ขององค์กรธุรกิจในทำเนียบ ฟอร์จูน 500 ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐฯ ภาคการศึกษา องค์กรด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงกลุ่มผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กนับกว่า 10 ล้านแห่งให้ความเชื่อมั่นในโซลูชั่นและการบริการจากเดลล์ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตให้กับธุรกิจและรองรับการให้บริการลูกค้า

ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เดลล์ ได้ลงทุนกว่า 10,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 300,000 ล้านบาท) เพื่อนำเสนอนวัตกรรมโซลูชั่นครบวงจรแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์ ที่ให้ศักยภาพสูงเพื่อตอบสนองต่อพัฒนาการด้านความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งความมุ่งมั่นของเดลล์ในการช่วยลูกค้าสร้างผลลัพธ์ที่เป็นเลิศทางธุรกิจ และสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน อีกทั้งช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจ มาจากการที่บริษัทฯ ได้ลงทุนในเรื่องของดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบรักษาความปลอดภัย ซอฟต์แวร์ และการบริการ

“ปัจจุบัน เดลล์ อยู่ในสถานภาพที่โดดเด่นกว่าที่ผ่านๆ มาในการนำเสนอนวัตกรรมโซลูชั่นแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์” อโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการบริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) และผู้จัดการทั่วไป ประจำภาคพื้นอินโดจีน กล่าว “เรากำลังลงทุนเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จและยืนหยัดได้อย่างมั่นคงบนโลกของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการขับเคลื่อนของเทคโนโลยีใหม่เช่น คลาวด์ บิ๊กดาต้า และโมบิลิตี้”

กลยุทธ์และโซลูชั่นของเดลล์ ช่วยแก้ปัญหาที่ลูกค้าต้องเผชิญในปัจจุบันคือเรื่องแนวโน้มไอทีที่ท้าทายที่สุด และเมื่อเราก้าวสู่ปี 2556 เทคโนโลยีก็ยังคงเป็นสิ่งที่หลอมรวมเข้ากับธุรกิจมากยิ่งขึ้น โดยเมื่อมองไปไกลกว่านั้น เดลล์คาดว่าลูกค้าจะให้ลำดับความสำคัญกับเทคโนโลยี โดยแบ่งออกเป็น 4 ธีมหลักด้วยกันคือ เปลี่ยนแปลง เชื่อมต่อ ให้มุมมองเกี่ยวกับข้อมูล และให้การปกป้อง

เปลี่ยนแปลง (Transform) หมายถึงการเพิ่มความคล่องตัวด้านไอทีแต่ลดค่าใช้จ่ายลง และเรื่องนี้ทำได้ดีด้วยการใช้คลาวด์ คอมพิวติ้ง มาช่วย โดยคลาวด์ คอมพิวติ้ง แสดงให้เห็นถึงคำมั่นสัญญาอันยิ่งใหญ่ในการทำให้องค์กรธุรกิจเกิดความคล่องตัวสูง ปรับตัวได้อย่างเหมาะสมและมองทุกอย่างในแง่ที่เป็นไปได้ เดลล์ นำเสนอคลาวด์ในระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซที่เป็นระบบเปิดและให้ความปลอดภัย สำหรับลูกค้า ช่วยให้องค์กรมีความคล่องตัวในการใช้ไอที ช่วยลดค่าใช้จ่าย ปรับปรุงเรื่องความเร็วในการทำธุรกิจและนำเสนอโซลูชันสำหรับคนทำงานที่ใช้ระบบโมบาย

เชื่อมต่อ (Connect) มุ่งเน้นที่การเพิ่มประสิทธิผล โดยการทำให้คนทำงานรุ่นใหม่ๆ สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์อะไร ทำงานจากที่ไหนเวลาใดก็ตาม ซึ่งแนวโน้มที่จะกล่าวถึง คือเรื่องของการพัฒนาไอทีขององค์กรให้รองรับการใช้งานในระดับผู้บริโภค (Consumerization of IT)  การนำอุปกรณ์ของตัวเองมาใช้ทำงาน (BYOD – Bring Your Own Device) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียมีอัตราการนำสมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต มาใช้งานมากขึ้น เวอร์ชวลไลเซชัน ก็จะยังคงเป็นแนวโน้มหลักในปี 2556 เนื่องจากองค์กรมองหาวิธีในการบริหารงานส่วนปฏิบัติการ และกระจายเวิร์กโหลดในระบบเสมือน ผ่านดาต้าเซ็นเตอร์ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มความสามารถในการปรับขยายระบบโครงสร้างไอที โดยไม่ต้องเปลี่ยนระบบใหม่แทนที่ระบบเก่า ช่วยรองรับพัฒนาการเรื่องของสภาวะระบบงานในธุรกิจ และตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ให้มุมมองเกี่ยวกับข้อมูล (Inform) ลูกค้าต้องการควบคุมข้อมูลจำนวนมหาศาลและใช้สร้างมุมมองข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้มีข้อได้เปรียบเหนือการแข่งขัน ณ จุดนี้ทำให้เราเห็นว่ามีการมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ระบบจัดเก็บข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลขนาดใหญ่เป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเป็นนวัตกรที่มีอำนาจในการตัดสินใจที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงกลยุทธ์มาช่วยทำนายพฤติกรรมลูกค้าและความต้องการของตลาด การมุ่งเน้นที่รองลงมาจากประเด็นนี้คือเรื่องของสตอเรจ หรือการจัดเก็บข้อมูล ธรรมชาติของการประมวลผลและดาต้าเซ็นเตอร์คือสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยลูกค้าต้องเผชิญกับรูปแบบที่หลากหลายและบางครั้งก็เป็นการแข่งขันกันเรื่องของการส่งมอบระบบไอที ลูกค้ามีความต้องการด้านข้อมูลมากขึ้น ว่าต้องการข้อมูลแบบไหน อย่างไร และในเวลาใด โดยลูกค้าพบว่าสถาปัตยกรรมสตอเรจแบบดั้งเดิมไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้อีกต่อไป ท้ายที่สุด คือลูกค้าต้องการปรับขยายสภาพแวดล้อมในการจัดเก็บข้อมูลภายในองค์กรให้มีขนาดเท่าใดก็ได้ในค่าใช้จ่ายที่ต่ำที่สุด และยังสามารถปกป้องได้อย่างต่อเนื่องรวมถึงสามารถใช้สภาพแวดล้อมดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างเหมาะสม

ให้การปกป้อง เป็นเรื่องของการป้องกันการโจมตีองค์กร ที่อาจมาจากพฤติกรรมการใช้งานของพนักงานในทุกๆวัน ที่อาจทำให้โดนขโมยข้อมูลได้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์  การปกป้องข้อมูล หมายถึงการดูแลเรื่องการเข้าถึงข้อมูลและแอพพลิเคชันสำคัญเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับลูกค้าในองค์กรธุรกิจทุกขนาด ในการช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง การ์ทเนอร์ คาดว่าตลาดด้านการบริหารจัดการความปลอดภัยในเอเชียแปซิฟิกจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 28 เปอร์เซ็นต์ เป็น 33 เปอร์เซ็นต์ ในแต่ละปีไปจนถึงปี 2558 เดลล์ ตระหนักดีว่าการรักษาความปลอดภัยข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญต่อความเป็นอยู่ของธุรกิจ และ

โซลูชั่นเดียวไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ทั้งหมด เดลล์ จึงใคร่ครวญเรื่องการลงทุนไว้อย่างรอบคอบในเรื่องของความสามารถหลัก และเรื่องสินทรัพย์ต่างๆ เช่น SonicWall และ SecureWorks เพื่อนำเสนอโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยชั้นนำของอุตสาหกรรมให้กับลูกค้า

“กลยุทธ์ธุรกิจของเดลล์ มุ่งเน้นที่ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก สิ่งสำคัญสุดสำหรับเราคือการช่วยลูกค้าสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจและสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันจากการใช้โซลูชั่นที่ให้ทั้งนวัตกรรมและใช้งานได้เกิดประสิทธิผลจริง” ซูเมีย บาเทีย ผู้อำนวยการฝ่ายโซลูชั่นสำหรับเอ็นเตอร์ไพร์ซประจำภาคพื้นเอเชียใต้ กล่าว “เรายังคงมุ่งมั่นที่จะขยายการนำเสนอสิ่งที่ให้มากกว่าพีซี ซึ่งครอบคลุมไปถึงโซลูชั่นไอทีแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์ที่รองรับตั้งแต่ตัวอุปกรณ์ไปจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์ตลอดจนระบบคลาวด์ พร้อมกับมุ่งเน้นกลยุทธ์ด้านการเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง”

ช่วยลูกค้าขยายศักยภาพเพิ่มขึ้น
การลงทุนในเชิงกลยุทธ์ รวมถึงวิสัยทัศน์ในระยะยาว และความสามารถของเดลล์ในการผลักดันสิ่งต่างๆ ให้ดำเนินไปตามที่ตั้งใจ เป็นสิ่งที่พิสูจน์ความสำเร็จให้กับลูกค้า ลูกค้าในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก ต่างตระหนักดีถึงคุณค่าที่เดลล์มอบให้กับธุรกิจ ด้วยคำมั่นสัญญาของเดลล์ในการนำเสนอโซลูชั่นนวัตกรรมชั้นนำของอุตสาหกรรม รวมถึงการบริการ นับเป็นการเปลี่ยนภาพเดลล์ในตลาดได้เป็นอย่างดี

“วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของเดลล์ รวมถึงการลงทุนในโซลูชั่นเอ็นเตอร์ไพร์ซพร้อมการบริการของเดลล์ ช่วยตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจและความท้าทายต่างๆ ที่มีมาเป็นเวลาหลายปี แอชฟอร์ด แคปิตอล สามารถสร้างการเติบโตของเทคโนโลยีเพื่อมารองรับธุรกิจได้อย่างชาญฉลาดและเกิดประสิทธิผลอันเป็นผลมาจากกลยุทธ์และโซลูชั่นเอ็นด์ทูเอ็นด์ของเดลล์” ทิม แอชฟอร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายไอที ของ แอชฟอร์ด แคปิตอล แมเนเมนท์ ซึ่งมีฐานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าว “ผลก็คือ เรามีความมั่นใจในเดลล์ มั่นใจทั้งเรื่องทิศทางการทำธุรกิจและโซลูชั่นของเดลล์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากผู้จำหน่ายรายอื่น”

“เราพูดคุยกับองค์กรธุรกิจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นเอชพี ไอบีเอ็ม และเทเลโฟนิกา แต่เดลล์เป็นรายเดียวที่เข้าใจว่าเรามองหาอะไร เดลล์มาพร้อมกับโซลูชั่นแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์ ในขณะที่ผู้จำหน่ายรายอื่นนำเสนอโซลูชั่นเพียงบางส่วน” โฮเซ่ โจควิน โลซา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ ของ Universidad Europea de Madrid (UEM) ซึ่งมีฐานอยู่ที่ประเทศสเปน กล่าว

“เรามีสัมพันธภาพที่เปิดกว้างมากกับเดลล์ และเรายังสามารถเห็นถึงแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของเดลล์ด้วย เรารู้สึกตื่นเต้นมากกับวิธีการทำงานเกี่ยวกับพัฒนาการด้านโซลูชั่นและยังเชื่อว่าสัมพันภาพระหว่างเราและเดลล์จะเติบโตไปอย่างแข็งแกร่งสอดรับกับการขยายธุรกิจของเราได้เป็นอย่างดี” โจเซฟ ซาลิม ผุ้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Net Logistics ซึ่งมีฐานอยู่ในประเทศออสเตรเลีย

“สัมพันธภาพระหว่างเรากับเดลล์ เติบโตอย่างมั่นคงในช่วงตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แม้ก่อนหน้านี้เราจะเห็นเดลล์เป็นเพียงแค่ผู้ให้บริการฮาร์ดแวร์ก็ตาม ซึ่งการที่เดลล์สามารถนำเสนอโซลูชั่นในเชิงลึกได้ทำให้มุมมองของเราที่มีต่อเดลล์เปลี่ยนไป ทำให้เรามองว่าเดลล์เป็นผู้ให้บริการเหนือชั้นทั้งโซลูชั่นและการบริการในคุณภาพที่สูง” แกรี่ แอดเลอร์ ผู้จัดการฝ่ายระบบโครงสร้างของ Freehills ซึ่งมีฐานอยู่ในประเทศออสเตรเลีย กล่าว